โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

พรรคไทยศรีวิไลย ทั้งพรรค ทั้งคน พร้อมแล้ว..ที่จะรับใช้ พี่น้องประชาชน (ประชากรมากกว่า 66ล้านคน)

 พรรคไทยศรีวิไลย ทั้งพรรค ทั้งคน พร้อมแล้ว..ที่จะรับใช้  พี่น้องประชาชน  (ประชากรมากกว่า 66ล้านคน)

นายมงคลกิตติ์   สุขสินธารานนท์  หัวหน้าพรรคไทย ศรีวิไลย์  คนหนุ่มไฟแรง..มีสบการณ์ทางการเมือง พร้อมประกาศ..ย้ำ..ส่ง ปาร์ตี้ลิสต์  ครบ 40 คน  ระบบเขต 130 คน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทาง พรรคไทยศรีวิไลย์ ส่ง..นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี เพียงชื่อเดียว ของพรรคไทยศรีวิไลย์

เสธ.อัศวิน’ เผย ‘ไทยศรีวิไลย์’ เคาะ ‘มงคลกิตติ์’ เป็นแคนดิเดตนายกพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ – ชี้ประชาชนต้องการคนหนุ่มไฟแรง มีประสบการณ์ทางการเมือง รวมทั้ง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มาเป็นนายกฯ ต่อไป พร้อมประกาศย้ำส่งปาร์ตี้ลิสต์ครบ 40 คน ระบบเขต 130 คน

 

พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะประธานกรรมการสรรหา ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต – ระบบบัญชีรายชื่อ และ สรรหาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครฯ ว่า ที่ประชุมฯ ได้มีการพิจารณารายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ทางพรรคจะส่ง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียวของพรรค เพราะนอกจากจะเป็นมารยาททางการเมืองที่คนเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองคือคนที่พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

ตนเชื่อว่า นายมงคลกิตติ์ ก็ถือเป็นนักการเมืองที่มีความโดดเด่นไม่แพ้ใคร ทั้งในการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนช่วงที่ผ่านมา ทั้งการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ปัญหาอุทกภัย ปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาการทุจริตในหน่วยงานรัฐ เป็นต้น และภาพลักษณ์ทางการเมืองสไตส์ใจถึงประชาชนพี่งพาได้ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบในการเสนอตัวของนายมงคลกิตติ์ ในการลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้

พล.ท.อัศวิน กล่าวอีกว่า ส่วนในการส่งผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 2 ประเภทนั้น ขณะนี้ทางพรรคได้ดำเนินการทยอยส่งหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง หรือ แบบ ส.ส. ๔/๘ ให้กับบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ให้ทันก่อนวันรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต คือ 2 เมษายน เพื่อให้บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ได้มีหลักฐานไปยื่นในวันสมัคร ส.ส. ในวันแรก คือ 3 เมษายน สำหรับในวันที่ 4 เมษายน ที่จะเป็นวันรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันแรก ทางหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้สนับสนุนพรรค ก็จะไปที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง

เพื่อนำรายชื่อทั้ง 40 รายชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 130 คน และ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไปให้ กกต. รับสมัคร ซึ่งทางพรรคฯ ได้มีกระบวนการสรรหาว่าที่ผู้สมัครฯ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 40 คน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 130 คน ที่ทางพรรคขอรับรองว่า บุคคลทั้งหมดที่อยู่ใน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ -ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง เป็นคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีประวัติด่างพร้อย และที่สำคัญที่สุดก็คือ มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่เอาอำนาจนอกระบบที่ทำให้ประชาชน ต้องทนทุกข์มาจนถึงทุกวันนี้ด้วย

ทางพรรคเห็นว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ สมควรเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะผมเชื่อว่า ขณะนี้ประชาชนต้องการคนหนุ่มไฟแรง อายุ 41 ปี มีประสบการณ์ทางการเมือง ในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ กว่า 4 ปี รวมทั้ง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสามารถรับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้อีกยาว มาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวัย 40 ต้นๆ มาแล้วถึง 4 คน ซึ่งทางพรรคคาดว่า นายมงคลกิตติ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในวัย 40 ต้นๆ เป็นคนที่ 5

ซึ่งถ้าประชาชนอยากจะให้นายมงคลกิตติ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 150,000 บาทต่อทุกครัวเรือน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) 3,000 บาท/เดือน โครงการรับประกันชีวิตทุกชีวิตที่เกิดเป็นคนไทย ถ้าเสียชีวิตทุกเหตุการณ์ ทุกกรณี ทุกโรคจะได้รับเงิน 500,000 บาท เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกเดือนละ 3,000 บาท การลดค่าภาษีน้ำมัน 10 บาท/ลิตร การลดค่าไฟฟ้า เหลือเพียง 4 บาทต่อหน่วย เป็นต้น ก็ต้องขอแรงสนับสนุนให้เลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ทั้ง 2 ใบ เพราะหากได้ที่นั่งเพียงแค่ในระบบบัญชีรายชื่อ

 ก็สามารถทำเท่าที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ โดยไม่สามารถผลักดันเรื่องใหญ่ๆ อย่าง เช่น ร่างพระราชบัญญัติเพื่อออกมารองรับนโยบายของพรรค การเสนอชื่อให้นายมงคลกิตติ์ เป็นนายกรัฐมนตรี หรือในเรื่องของการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งรัฐธรรมนูญบังคับให้นายกรัฐมนตรีให้คำรับรองก่อนยื่นร่างฯ อีกด้วย ดังนั้น ความตั้งใจของพรรคไทยศรีวิไลย์ในคราวนี้ นอกจากจะก้าวไปสู่พรรครัฐบาลภายหลังจากการเลือกตั้งแล้ว ก็อยากจะผลักดันให้ นายมงคลกิตติ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองด้วย” พล.ท.อัศวิน กล่าว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยศรีวิไลย์ นั้น เกิดวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2524 ที่ จ.พิษณุโลก ประวัติการศึกษาจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม จบการศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาเตรียมวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การเมืองการปกครอง) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยชินวัตร (สอบประมวลผ่าน-หัวข้อผ่าน)

 ส่วนประวัติการทำงานทางการเมือง เริ่มต้นจากเลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (3 สมัย) อดีตผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ อดีตผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ อดีตอนุกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันด้านการคมนาคม วุฒิสภา อดีตกรรมการคืนคนดีสู่สังคม กระทรวงยุติธรรม อดีตอนุกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทักภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ในส่วนของการลงสมัครรับเลือกตั้ง นายมงคลกิตติ์ ได้ลงสู่สนามการเมืองครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 ด้วยการลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 11 (เขตภาษีเจริญ เขตบางแคและเขตหนองแขม)

รวมทั้ง ยังได้ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในการบริหารประเทศของรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่เสมอ ซึ่งในการเลือกตั้งที่กำลังมาถึงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ นายมงคลกิตติ์ พร้อมพาพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าสู่การเลือกตั้ง โดยยืนยันว่า จะส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 40 คน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 130 คน และ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งด้วย

 

 

 

 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น