โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2567

อบจ.สงขลาจัดหารถทัณตกรรมเคลื่อนที่ บริการผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึงบริการ (มีคลิป )

 อบจ.สงขลาจัดหารถทัณตกรรมเคลื่อนที่ บริการผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึงบริการ (มีคลิป )

…..


องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ภายใต้การบริหารของ “ไพเจน มากสุวรรณ์” ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถทัณตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการกับเด็กกลุ่มเป้าหมาย 3 ขวบ ถึง 15 ปีรวมถึงผู้ด้อยโอกาสที่ไม่สามารถเข้าถึงงานบริการของรัฐได้

วันที่ 3 ธันวาคม 2567 บริษัทผู้ชนะการประมูลจัดหารถทัณตกรรมเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์ภาคในครบครันได้ส่งมอบรถทัณตกรรมเคลื่อนที่ให้กับอบจ.สงขลา

หลายคนอาจเริ่มมีโอกาสได้เห็น ‘รถทันตกรรมเคลื่อนที่’ ที่เคลื่อนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประชาชนมากขึ้น ภาพของรถบัสขนาดใหญ่ที่ถูกดัดแปลงเป็นคลินิกทำฟันขนาดย่อม วิ่งเข้ามาจอดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจรับว่าตรงตามทีโออาร์ และสัญญาหรือไม่

ก่อนนำออกไปให้บริการกับประชาชนได้ทั่วทั้งจังหวัดสงขลา


แน่นอนว่าสิ่งที่รถคันนี้สามารถสร้างได้ทันที นั่นคือการเพิ่ม ‘การเข้าถึง’ บริการทำฟันของคนในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น จากเดิมที่อาจไม่เคยได้ทำฟัน หรือไปหาหมอฟันได้ลำบากเพราะอยู่ห่างไกล ค่าบริการก็แพงยากต่อการเข้าถึง เป็นต้น

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้ปัจจุบันบริการทันตกรรมจะถูกบรรจุไว้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาแล้วก็ตาม แต่บางรายอาจต้องจ่าย ‘ค่าเดินทาง’ เพื่อไปหาหมอฟันที่แพงกว่าค่ารักษาเสียอีก รถทันตกรรมเคลื่อนที่จึงน่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ปัญหานี้ได้

เช้าขึ้นมาทาง อบจ.สงขลานำรถทัณตกรรมเคลื่ิอนที่ไปทำลองใช้เป็นครั้งแรกที่โรงเรียนบ้านเกาะแต้วพิทยา โรงเรียนในสังกัด อบจ.สงขลา ซึ่งสามารถให้บริการกับนักเรียนได้เป็นอย่างดี ทั้งเคลือบฟูออไรด์ ขูดหินปูน อุดฟัน เป็นต้น


ไพเจน กล่าวว่าอบจ.สงขลาเล็งเห็นความจำเป็นในการดูแลรักษาฟันของนักเรียนและประชาชนในจังหวัด จึงได้สั่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่มาบริการ ใช้งบประมาณ 7 ล้านบาท

'อบจ.สงขลา ได้ร้บมอบรถเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม อยู่ระหว่างการนำรถมาทดลองดูแลรักษาฟันเด็กนักเรียน  เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ ก่อนจะตรวจรับมอบต่อไป ภายในรถจะมีอุปกรณ์ครบ ตรวจฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน เคลือบฟัน เป็นต้น เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย และมีหมอ -พยาบาล มาประจำด้วย' นายไพเจน กล่าว


นายกอบจ.สงขลา กล่าวว่า รถทันตกรรมเคลื่อนที่จะให้บริการนักเรียนและประชาชนในจังหวัดสงขลา โดยให้ทางโรงเรียนร้องขอมา ทางอบจ.โดยกองสาธารณสุขก็จะจัดคิวไปรักษาทั้งจังหวัด หรือชุมชนใด้ ต้องการให้ไปรักษาประชาชนในพื้นที่ก็ให้แจ้ง


ตัวแทนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทันตกรรมเคลื่อนที่ กล่าวว่า รถบริการทันตกรรมคันนี้ จะมีให้บริการครบวงจร ขูดหินปูน ตรวจเช็คเบื้องต้น ถอนฟัน อุดฟัน เอ็กซเรย์ระบบทันตกรรม ในรถก็มีระบบน้ำพร้อม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ แพทย์ทันตกรรมไปกับรถ หรือเจอกันหน้างานก็ได้


นี้คือผลงานทิ้งท้ายของไพเจน มากสุวรรณ์ นายกฯอบจ.สงขลา กับ 4 ปีที่อยู่ในหน้าที่บริหาร อบจ.สงขลา

วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๐๐ น. ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ร่วมงานพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ณ พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

 วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๐๐ น. ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ร่วมงานพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  ณ พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 









 วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๐๐ น. ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ร่วมงานพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  ณ พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน วางพวงมาลาถวายสักการะหน้าพระอนุสาวรีย์พระราชชายาเจ้าดารารัศมี เนื่องในงานวันพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ซึ่งทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 





ได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และอำเภอแม่ริม ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีที่ทรงมีต่อชาวเชียงใหม่ โดยพิธีบวงสรวงถวายสักการะได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. จากนั้น ในเวลา ๐๗.๔๕ น. ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมกันประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี และในเวลา ๐๘.๕๐ น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้เข้าร่วมพิธีจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ได้วางพวงมาลาถวายสักการะ ณ เบื้องหน้าพระอนุสาวรีย์พระราชชายาเจ้าดารารัศมี 

    # รายการคืนคุณให้แผ่นดิน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ จุฬาราชมนตรี หารือข้อราชการ และขอคำแนะนำในการปฏิบัติงานในพื้นที่

 มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ จุฬาราชมนตรี หารือข้อราชการ และขอคำแนะนำในการปฏิบัติงานในพื้นที่















📍เมื่อ 9 ธ.ค.67 เวลา 14.00 น. คณะของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นำโดย พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.วรเดช เดชรักษา รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน.(1) พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน.(2) พล.ต.เฉลิมชัย สุทธินวล ผอ.ศสว. พ.อ.ปองเชษฐ์ พูนช่วย ผอ.สมศ.กอ.รมน.ภาค 4 สน. เข้าเยี่ยมคารวะ หารือข้อราชการ และขอคำแนะนำในการปฏิบัติราชการกับ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ณ ห้องรับรองสำนักจุฬาราชมนตรี


📌ในโอกาสนี้ คณะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อสนับสนุนการจัดทำถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จชต. และมอบกระเช้าสิ่งของเพื่อเป็นการขอบคุณ

คลอง ร.1 ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แบบ ปกป้องหาดใหญ่พ้นภัยน้ำท่วม(มีคลิป)

 คลอง ร.1 ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แบบ ปกป้องหาดใหญ่พ้นภัยน้ำท่วม(มีคลิป)

…..


ชาวหาดใหญ่ตะโกนเสียงดังกึกก้องไปทั้งคุ้งน้ำ บริเวณป้ายคลอง ร.1 ประตูระบายน้ำคลองอู่ตะเภเภา อันมีใจความ “ขอบคุณคลอง ร.1 -เรารักในหลวงรัชกาลที่ 9 ”


น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ คลอง ร.1 อันเป็นคลองอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทำหน้าที่อย่างหนักหน่วงในการปกป้องเมืองหาดใหญ่ รักษาชีวิต เศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ไว้อย่างปลอดภัย คลอง ร.1 ได้ทำหน้าที่ในการระบายน้ำบายพาสไม่ให้เข้าตัวเมืองหาดใหญ่ จากคลองอู่ตะเภา เข้าคลอง ร.1 ไหลต่อลงทะเลสาบสงขลา

ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เคยกล่าวไว้ว่า ทางชลประทานได้จัดสรรงบประมาณปรับปรุงคลอง ร.1 จนแล้วเสร็จทันเวลา มีสมรรถภาพสามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า คือเพิ่มขึ้นอีก 1200 ลูกบาตรเมตร จากเดิมแค่ 400 โดยไพเจนมั่นใจตั้งแต่ต้นว่า ถ้าไม่ใช่ฝน 1000 ปี ฝน 200 ปี คลอง ร.1 รับมือได้ น้ำจะไม่ท่วมหาดใหญ่ และน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ได้พิสูจน์แล้วว่า คลอง ร.1 ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบแล้ว


พสกนิกรชาวหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงจึงได้จัดกิจกรรมร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างคลองภูมินาถดำริ หรือคลอง ร.1 เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยให้กับเมืองหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง


นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ชูโครงการ "คลอง ร.1" ซึ่งเป็นพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ ครม. ปี 2543 ได้อนุมัติงบประมาณ ให้ดำเนินการที่หาดใหญ่ อันเป็นตัวอย่างสำคัญในการลดความรุนแรงของน้ำท่วมซึ่งรัฐบาลควรมีการขยายผลการพัฒนาโครงการนี้ไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ ทั้งสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดแคลนระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในทุกปี นายสรรเพชญเห็นว่า หากสามารถพัฒนาโครงสร้างการระบายน้ำจากภูเขาให้ไหลลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว จะสามารถลดผลกระทบและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้


น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ โดยเฉพาะสงขลา / หาดใหญ่ คลอง ร.1 ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ปกป้องเมืองหาดใหญ่ให้รอดพ้นจากอุทกภัยในครั้งนี้ สมควรแล้วที่รัฐบาลจะได้นำแบบอย่างคลอง ร.1 ไปใช้กับพื้นที่อื่น

 #น้ำท่วมใต้

 #คลองร1

พีระพันธุ์’ ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมสงขลา เร่งฟื้นฟูและเยียวยาผู้‘ประสบภัย หิ้ว ’ไพเจน’ชมคลอง ร.1 เดินหน้าก่อสร้างโครงการระบายน้ำหาดใหญ่ระยะ 2 ลดเสี่ยงน้ำท่วมในอนาคต

 พีระพันธุ์’ ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมสงขลา เร่งฟื้นฟูและเยียวยาผู้‘ประสบภัย หิ้ว ’ไพเจน’ชมคลอง ร.1 เดินหน้าก่อสร้างโครงการระบายน้ำหาดใหญ่ระยะ 2 ลดเสี่ยงน้ำท่วมในอนาคต

 วันที่ 6 ธันวาคม 2567 – นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีนางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกฯอบจ.สงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ณ คลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและหย่อมความกดอากาศต่ำที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ทำให้เกิดน้ำท่วมใน 16 อำเภอ ครอบคลุม 125 ตำบล และ 949 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 715,705 คน และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 10 ราย สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน 207 หลัง พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 306,000 ไร่ รวมถึงภาคประมงและปศุสัตว์ นอกจากนี้ถนน สะพาน วัด และสถานศึกษาในพื้นที่ต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระที่ยังเผชิญปัญหาการระบายน้ำล่าช้าจากการหนุนสูงของน้ำทะเล


. ในด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จังหวัดสงขลาได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทั้งในระดับจังหวัดและระดับพื้นที่ เพื่อประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการระดมสรรพกำลังจากทหาร ตำรวจ มูลนิธิ และอาสาสมัครในการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อแจกจ่ายอาหาร พร้อมถุงยังชีพและน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบภัย รวมทั้งการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการจัดการขยะและสิ่งปฏิกูลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พื้นที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวว่า รัฐบาลให้ความห่วงใยและมุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตตรวจราชการที่ 5 โดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพปกติอย่างเร่งด่วน ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงมาตรการการบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด เช่น กลุ่ม ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการจัดการด้านน้ำมันและแก๊สที่อาจขาดแคลน รวมถึงการดูแลระบบไฟฟ้า โดยมีการประสานงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว กรณีขาดแคลนไฟฟ้าในบางพื้นที่ กระทรวงพลังงานได้ใช้โซลาร์เซลล์เป็นทางเลือกชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดแนวทางในการปรับปรุงระบบขนส่งน้ำมันและแก๊สให้เป็นแบบท่อส่ง เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ หวังบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด


จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าของโครงการระบายน้ำหาดใหญ่ ระยะที่ 2 ซึ่งดำเนินการโดยกรมชลประทาน โดยโครงการนี้มีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำในคลองระบายน้ำ ร.1 จาก 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะนี้โครงการมีความคืบหน้าแล้วกว่า 92% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะช่วยลดระดับความเสียหายจากอุทกภัยช่วงฤดูฝนในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้ง


ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยและมอบถุงยังชีพของบริษัท ป.ต.ท. จำกัด มหาชน ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ จำนวน 500 ชุด และมอบถุงยังชีพจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ให้แก่ตัวแทนนายอำเภอหาดใหญ่ จำนวน 300 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนในการฟื้นฟูพื้นที่และการลดผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในอนาคตอย่างยั่งยืน

 #น้ำท่วมสงขลา

 #คลองร1

รมว.ยุติธรรมสั่งกำชับเรือนจำนราฯให้นำผู้ต้องขังชั้นดีบำเพ็ญประโยชน์ช่วยชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม(มีคลิป)

รมว.ยุติธรรมสั่งกำชับเรือนจำนราฯให้นำผู้ต้องขังชั้นดีบำเพ็ญประโยชน์ช่วยชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม(มีคลิป)




 ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 







































​เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ธ.ค.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมและครอบครัว ได้เดินทางมายังเรือนจำนราธิวาส พร้อมกับ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยมีนายสุรินทร์ จันทร์เทพ ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาส นายวีรพัฒน์ บุณฑริก รอง ผวจ.นราธิวาส นายกูเฮง ยาวอหะฮัน เลขาฯรมว.ยุติธรรม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ปธ.คณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คอยให้การต้อนรับและร่วมประชุม

​ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม ได้มีการเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย ได้รับทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติในเรื่องของการยื่นรับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลโดยตรง โยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรที่จะมีการประชาสัมพันธ์ด้วยภาษายาวี ในการทำความเข้าใจควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม ที่อาจจะมีความยุ่งยากในเรื่องของภาษา ที่ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในความช่วยเหลือในครั้งนี้

​นอกจากนี้แล้วยังได้กำชับให้นายสุรินทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาส ให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัวของผู้ต้องขังที่ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากอาจจะประสบปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับทางบ้าน เพื่อที่จะให้ผู้ต้องขังคลายกังวน และที่สำคัญควรที่จะให้ผู้ต้องขังชั้นดี ออกบำเพ็ญประโยชน์ในการช่วยเหลือประชาชน ในช่วงที่สถานการณ์อุทกภัยที่กำลังคลี่คลาย อาทิ ไปช่วยทำความสะอาดเก็บกวาดมัสยิด บ้านเรือนของประชาชน รวมไปถึงวัดหรือโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม แถมยังเป็นการลบภาพลักษณ์ของผู้ต้องขัง ที่ส่วนใหญ่สังคมไม่ให้การยอมรับ เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษจะได้ร่วมอยู่กันในสังคม ที่มีการให้อภัยต่อผู้ที่เคยกระทำผิด

​ต่อมาเมื่อประชุมแล้วเสร็จ พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรมและครอบครัว ได้ร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและยารักษาโรค ให้กับผู้ต้องขังหญิงเพื่อที่จะได้ส่งต่ออีกทอดหนึ่งให้กับครอบครัว ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะน้ำท่วมที่กำลังคลี่คลายลง

​แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ทวีรมว.ยุติธรรมและครอบครัว ได้เดินทางไปยังตลาดสดเทศบาลตำบลบาเจาะ ม.2 ต.บาเจาะ เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจกับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 400 หลังคาเรือน ซึ่งมีปริมาณฯท่วมขังสูงโยเฉลี่ย 90 ถึง 120 ซ.ม. จากผลพวงของปริมาณน้ำจากเทือกเขาบูโดและคลองบาเจาะ ไหลทะลักเข้าท่วมตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายสู฿สภาสวะปกติ

​ต่อมา พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรมและครอบครัว ได้เดินทางไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้าน บ้านชะมูแว ม.10 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ ซึ่งสภาวะน้ำท่วมขังที่ผ่านมามีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 200 ครัวเรือน มีปริมาณน้ำท่วมขังสูง 1 ถึง 2 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่วิกฤติจุดหนึ่งของ อ.บาเจาะ ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำสายบุรีล้นตลิ่ง พร้อมทั้งได้ถือโอกาสมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับชาวบ้าน รวมทั้งได้ถือโอกาสมอบน้ำมันเครื่อง และอุปกรณ์อะไหล่ชิ้นส่วนของรถจักรยาน ให้กับ รองศาสตราจารย์ ดร.วสันต์ พลาศัย รองอธิการบดีฝ้ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ได้นำนักศึกษาออกมาให้บริการซ่อม รถ จยย. เครื่องใช้ไฟฟ้าของชาวบ้าน ที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมขังครั้งที่ผ่านมา

​ด้าน พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดตอนที่เกิดอุทกภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะพี่น้องในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรถจักรยานยนต์ โดยในประเทศไทยเรามีรถจักรยานยนต์ 22.7 ล้านคัน โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดมีเกือบ 800,000 คัน จังหวัดนราธิวาส 200,000 กว่าคัน และโชคดีที่จังหวัดนราธิวาสได้ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อกำเนิด จากมหาวิทยาลัยเทคนิค และมหาวิทยาลัยพยาบาลรวมกัน โดยในเรื่องของการช่างจังไม่มีใครเกินจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้ โดยในวันนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมกัน ศอบต. กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์ และทางหน่วยงานอื่นๆเราได้ให้ความช่วยเหลือ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7-13 ธันวาคม 2567 โดยที่เราเข้าใจและเห็นใจประชาชนมาก โดยต้องแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาวให้ได้

“ โดยผู้ต้องราชทัณฑ์จะออกมาเป็นจิตอาสา และออกมาทำงานช่วยประชาชนตามหมู่บ้าน โดย นายสหการ เพชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่าอย่กจะออกมาทำ 90 วัน เพื่อให้เหตุการณ์คลี่คลาย เหมือนที่เชียงรายเราใช้เวลา 90 วันในการสร้างบ้าน ให้ประชาชนโดยกรมราชทัณฑ์ 19 หลัง แล้วเป็นบ้านที่ประชาชนเหมือนได้ชีวิตใหม่ โดยฝีมือของผู้ต้องราชทัณฑ์ แต่อุปกรณ์โดยการบริจาค และวันนี้ราชทัณฑ์เรามีวิชาชีพแล้ว และที่สำคัญพี่น้องที่นราธิวาสอยากจะออกมาช่วยกัน และในส่วนของเงินเยียวยาก็ไม่ได้ผ่านทางจังหวัดแต่จะให้ถึงมือของประชาชน ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเงินหลวงก็ต้องดูว่าให้ประชาคมทข้าราชการให้ไม่ได้ต้องให้ประชาชนที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ ว่าที่บ้านได้รับความเสียหายจริงไหม ได้รับผลกระทบไหม โดยในวันนี้ให้ประชาชนเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเองโดยการเยียวยา โดยเกิดจากประชาชนโดยให้ประชาชนรับรอง “ พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าว