โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566

ชำแหละ 5 เขตเลือกตั้งเมืองคอน มวยยก 3 แลกหมัดกันสนุกแน่ หลังรู้เชิงกันแล้ว จับตายกสุดท้ายใครจะเสยคางใคร ; นายหัวไทร(มีคลิป)

 ชำแหละ 5 เขตเลือกตั้งเมืองคอน มวยยก 3 แลกหมัดกันสนุกแน่ หลังรู้เชิงกันแล้ว จับตายกสุดท้ายใครจะเสยคางใคร ; นายหัวไทร(มีคลิป)

……





หลังมีความสุขกับช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ เรามาทบทวนกันอีกครั้งสำหรับ 10 เขตเลือกตั้งของนครศรีธรรมราช เหลือเวลาอีกเพียง 20 กว่าวัน ก็จะได้เวลาประชาชนพิพากษาแล้ว ซึ่งถ้าเป็นมวยถือว่าเข้าสู่ยกที่ 3 แล้ว






14 พฤษภาฯวันพิพากษา

เขต 1 เมืองในเขตเทศบาลนคร ที่มี ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ เป็นแชปม์อยู่ในนามพรรคพลังประชารัฐ ถ้ามองผิวเผินเหมือนจะเป็นการแข่งขันกันของ 4 พรรคใหม่ คือพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งพูน แก้วภราดัย พรรครวมไทยสร้างชาติ ลูกชายของ “น้อย-วิทยา แก้วภารดัย” ประชาธิปัตย์ส่งอดีตผู้ว่าฯราชิต สุดพุ่ม พรรคพลังประชารัฐ ส่ง ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ พรรคภูมิใจไทย ส่งอดีตนักการธนาคาร จรัญ ขุนอินทร์ 





แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในรายละเอียด น่าจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างดร.รงค์ กับราชิต เป็นหลัก ซึ่งราชิต อาศัยฐานเดิมของประชาธิปัตย์ ทีีมีทุนเดิมอยู่บ้างแล้วอย่างน้อยเขตละ 10,000 เพียงทำอย่างไรให้คะแนนต่อยอดไปถึง 30,000 นั้นหมายถึงหาเพิ่มอีก 20,000 คะแนน ความเป็นอดีตนายอำเภอเมือง และสายสัมพันธ์กับชุมชนในฐานะอดีตนักปกครอง ก็น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับดร.รงค์ ที่มีฐานเสียงเดิมในฐานะแชมป์ ซึ่งในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา มีทั้งจุดด้อย และจุดเด่น เมื่อได้ “โกเก้า” เกรียงศักดิ์ ภู่พันธุ์ตระกูล ผู้กว้างขวางในวงการเมืองเข้ามาจับมือกับโกจู๋-วิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล ช่วยกันประสานมือทำคะแนนให้กับ ดร.รงค์ จึงทำ ดร.รงค์ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวขึ้นมาทันที แต่ราชิตก็ได้ “ลุงนึก” สมนึก เกตุชาติ อดีตนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชเข้ามาช่วย ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาลุงนึกไม่เอาประชาธิปัตย์เลย แต่คราวนี้หนีไปพ้นเมื่อญาติสนิทลงชิง

ราชิตต้องหาตัวช่วยที่เข้มแข็งเข้ามาช่วยทำงาน ทั้งคนในและคนนอกพื้นที่ที่มีบารมีพอฟัดพอเหวี่ยงกับสองโกเพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย “ล้มรงค์” ซึ่ง ดร.รงค์ก็เป็นนักวิชาการสายรัฐศาสตร์ชั้นเชิงทางการเมืองก็ไม่ธรรมดา เอาเป็นว่า “รู้เขารู้เรา”


เขต2 ถือเป็นเขตปลอด ส.ส.เก่า คือไม่มีเจ้า แต่ “สายัณห์ ยุติธรรม” ย้ายจากท่าศาลา มาลงเขตนี้ และย้ายพรรคจากพลังประชารัฐมาอยู่กับ “ลุงตู่” ที่รวมไทยสร้างชาติ เพื่อเปิดทางให้น้องชาย “อำนวย ยุติธรรม” ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในบ้านเกิดท่าศาลา ซึ่งสายัณห์แม้จะเป็นอดีต ส.ส.แต่คนละเขต แม้เขตใหม่จะเป็นฐานเดิมอยู่บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด สายัณห์ต้องสร้างฐานใหม่ย่านพระพรหม ซึ่งก็มีอัตราเสียงอยู่ไม่น้อย แม้เจ้าตัวจะยืนยัน 4 ปีมีผลงาน คนรู้จัก เมื่อมาดูคู่แข่งประชาธิปัตย์ลงตัวที่ "นายกหนึ่ง" นายทรงศักดิ์ มุสิกอง อดีตนายกฯปากนคร ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะได้สร้างขึ้นมาสืบทอดเจตนารมณ์-อุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ต่อไป พรรคพลังประชารัฐ สจ.สุภาพ ขุนศรี ยอมหลีกให้ ดร.รงค์มาลงเขตนี้ สจ.สุภาพตอกจากอาศัยเครือข่ายผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่แล้ว จะต้องอาศัยเครือข่ายของสามี สายนักเลง นักการพนัน แต่เป็นคนต่างถิ่น เอาเป็นว่าเขตนี้ “สายัณห์-สจ.สุภาพ” หายใจรดต้นคอกันเป็นแน่แท้ ส่วนทรงศักดิ์ อยู่ที่องคาพยพของประชาธิปัตย์ จะช่วยกันหอบหิ้วได้แค่ไหน ถ้าประชาธิปัตย์ตั้งเป้าว่านครศรีฯจะต้องได้ 7+ “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” จะต้องออกแรงมากกว่านี้ นายกฯหนึ่งถึงจะเข้าวิน

กล่าวสำหรับพระพรหมแล้ว ถือว่าทุกคนใหม่หมด สจ.สุภาพ มาจากเขตเมือง นายกฯหนึ่งมาจากปากนคร สายัณห์มาจากท่าศาลา โอกาสจึงเป็นของทุกคน สายัณห์อยู่ในฐานะได้เปรียบ เพราะมีฐานเดิมอยู่บ้างในบางตำบล


เขต 3 (หัวไทร-ปากพนัง) แม้ “เท่ห์-พิทักษ์เดช เดชเดโช” ลูกชายของ “เจ้ต้อย-กนกพร เดชเดโช”นายกฯอบจ.นครศรีฯ น้องชายของแทน-ชัยชนะ เดชเดโช จะเปิดตัวทีหลัง แต่ก็มาแรงแซงขึ้นที่ 1 อย่างรวดเร็ว วิ่งฉิวนำหน้า

”มานะ ยวงทอง” จากภูมิใจไทย ที่เปิดตัวมาร่วมปี และเป็นที่รู้จักมักคุ้นกันแล้ว แต่ม้าตีนต้นเริ่มแผ่วปลายกับการบริหารจัดการในบางเขต-บางโซน แม้บางเขตจะยังเหนียวแน่นกับเครือญาติก็ตาม แต่บางองคาพยพเริ่มเปลี่ยนค่ายบ่ายหน้าไปค่ายสีฟ้า ส่วนพลังประชารัฐ ส่งสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ดูภาพรวมแล้วไม่หวือหวา กระสุนยังไม่ออก ก็เหนื่อยหน่อย ฐานคะแนนเดิมเริ่มถูกแย่ง ถูกแบ่งแยก สถานการณ์ปัจจุบันเงียบไปนิดหนึ่ง ส่วนรวมไทยสร้างชาติส่งนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์ คนสนิทของวิทยาลงประชัน ซึ่งนนท์มีฐานเสียงที่หน้าแน่นอยู่ในตลาดปากพนัง เป็นด้านหลัก แต่โซนหัวไทรยังเป็นจุดบอด ถ้ามีเวลาให้เตรียมตัวมากกว่านี้ และใช้เครือข่ายวิทยาเดินเครื่อง ก็น่าสนใจเพราะเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวที่เป็นคนพื้นที่ เกิดที่ปากพนัง พิทักษ์เดช เกิดที่ร่อนพิบูลย์ แต่มีภรรยาคนปากพนัง สัณหพจน์ เกิดที่เชียรใหญ่ แต่เคยคลุกคลีกับธุรกิจกุ้งในวัยหนุ่ม มานะ เกิดที่เชียรใหญ่ ไม่ค่อยได้อยู่ในพื้นที่ทำธุรกิจกล่องกระดาษอยู่สมุทรสาคร และชลบุรี ในช่วงโควิดระบาดหนักเขาจึงบริจาคกล่องกระดาษทำเตียงสนามจำนวนมาก และผันตัวเองมาลง ส.ส.

เขต 3 ไม่ควรมองข้าม “มนตรี เฉียบแหลม” จากเพื่อไทย ที่คนเริ่มเบื่อพรรคโน้นพรรคนี้ และมองหาพรรคใหม่ เพื่อไทยจึงเป็นตัวเลือกอยู่ไม่น้อย น่าเสียดายว่า เพื่อไทยเปิดตัวเขาให้ลงเขตนี้ช้าไป แต่กระแสเพื่อไทยพอมี คะแนนพรรคมีแน่นอน และตัวเลขไม่น่าเกลียดด้วย

เขต 3 ด้วยเครือข่ายที่มาก กว่า เหนียวแน่นกว่า ถึงกว่า ท้ายที่สุดแล้ว “โกเท่ห์” จะเข้าป้าย แต่ตัองระวัง-หลีกเลี่ยงข้อสุ่มเสี่ยง


เขต4 (ชะอวด-เชียรใหญ่-เฉลิมพระเกียรติ)น่าจะเป็นเขตที่สู้กันดุเดือด มีคู่แข่งหลักอยู่ 5 พรรค แชมป์เก่าคือ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ยังสังกัดพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม และมั่นใจในผลงาน บทบาทหน้าที่ที่ผ่านมา สองปี

ประชาธิปัตย์ ส่งยุทธการ รัตนมาศ อดีตรองนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราช เคยมีข่าวโด่งดังในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬานครศรีธรรมราช

พรรคชาติพัฒนากล้า ส่ง”นายหัวสิทธิ์” สิทธิรัก ทิพย์อักษร ที่เคยปรากฏชื่อว่าจะลงรวมไทยสร้างชาติ แต่ท้ายที่สุดด้วยพลังที่เหนือกว่า พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ คว้าใบอนุญาตไปลงแทน

ภูมิใจไทย ส่งณัฐกิตติ์ หนูรอด อดีตปลัด อบจ.พัทลุง ลูกเคร็งโดยตรงลงชิง เปิดตัวมาครึ่งปี และลาออกจากราชการมาหาเสียงนานพอควร กระแสพอได้ แต่ไม่หวือหวานักพรรคพลังประชารัฐ ให้ติดตามการขยับของ “โกอ่าง-สมศักดิ์ เมธา” พรรคเพื่อไทย ที่คนชะอวด จุฬาภรณ์ ทราบกิตติศัพท์ดี ในฐานะ “เจ้าบุญทุ่ม”

เขตนี้โค้งสุดท้ายน่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างพงศ์สินธุ์ กับอาญาสิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะจัดการคะแนนได้ดีกว่า แต่กระแสพงศ์สินน่าจะดีกว่าเมื่อบวกรวมกับกระแสคนคอนยังเอา “ลุงตู่” แต่ไม่ควรลืมว่าเขตนี้เป็นเขตอิทธิพลของชัยชนะ เดชเดโช คงไม่ปล่อยให้ยุทธการพ่ายง่ายๆเป็นแน่แท้ เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองในวันหน้ารออยู่



เขต 5 (จุฬาภรณ์-ร่อนพิบูลย์-ลานสภา) ถือได้ว่าเป็นเขตเดิมของ “แทน-ชัยชนะ” ประชาธิปัตย์ เพียงแต่เพิ่มจุฬาภรณ์เข้ามาและตัดบางอำเภอออกไป ยิ่งเป็นผลดีสำหรับแทน เพราะจุฬาภรณ์คือถิ่นของ “ชำนิ ศักดิเศรษฐ์” นักการเมืองอาวุโสและเป็นญาติกับแทนด้วย


น่าสนใจที่รวมไทยสร้างชาติ ดึง สนั่น พิบูลย์ สจ.จุฬาภรณ์มาร่วมทีมได้ เมื่อบวกรวมกับพลังประชารัฐลากกำนันสุชาติ จิตติศักดิ์ กำนันแหนบทองคำ อดีตกำนันตำบลนาหมอบุญ อำเภอจุฬาภรณ์ มาลงเขตนี้ และยังมี สจ.ยา-พิทยา ชมพูทอง แห่งลานสกา มาช่วยทีม สจ.หนั่น ก็เท่ากับเป็นการปิดล้อมแทน ให้ขยับตัวออกนอกเขตไปช่วยลูกทีมลำบากขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะไหวหวั่นอะไร ให้ระวังพวกกันเองมากกว่าว่าจะยังซื่อสัตย์อยู่ไหม




เขตนี้แทน-ชัยชนะ ได้เปรียบ และคงไม่ทำให้เสียหายกับพรรค และวงศ์ตระกูลแน่นอน ในเมื่อทุกอย่างในมือพร้อม รถถังพร้อมเคลื่อนออกจากกองทัพในยามมีศึก

รอบนี้เอา 5 เขตเลือกตั้งก่อน อีก 5 เขต ข้อศึกษาข้อมูลก่อน แล้วจะรายงานให้ทราบ

แต่สรุปภาพรวมว่า 5 เขต เป็นดังนี้


เขต 1 ดร.รงค์ ชิงดำกับราชิต แบบรดต้นคอ

เขต 2 สายัณห์ ห้ำหั่นกับ สจ.สุภาพ

เขต 3 โกเท่ห์ น่าจะนำห่าง ให้ “มานะ-มนตรี” ตามไล่หลังมา

เขต 4 ชิงดำกันระหว่าง “พงศ์สิน-อาญาสิทธิ์

เขต 5 แทนลอยลำแบบไม่เห็นฝุ่น

แต่ที่ไม่ควรลืม “การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน-ตายตัว มีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่ายกสุดท้ายใครจะชกได้เข้าเป้ามากกว่ากัน คะแนนสะสมในแต่ละยกอาจจะไม่มีความหมายเลยก็ได้ ถ้าเจอหมัดน็อค เข้าปลายค้าง…555

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น