โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566

โซเชียลรุมถล่ม กก.บริหารชุดใหม่ ปชป. บอกไม่เอาแล้ว พอกันที อยากเลือกตั้งเร็วๆ

 โซเชียลรุมถล่ม กก.บริหารชุดใหม่ ปชป. บอกไม่เอาแล้ว พอกันที อยากเลือกตั้งเร็วๆ


จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เลือกตั้งหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้เป็นหัวหน้าพรรค และมีการเลือกกรรมการบริหารทั้งหมด และในวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ถูกนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคอีกคน นำเสนอชื่อแข่งขัน และต่อมานายอภิสิทธิ์ขอปิดห้องคุยกับนายเฉลิมชัยตัวต่อตัวเป็นเวลา 10 นาที และหลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ถอนตัวจากการลงชิงหัวหน้าพรรคและลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ มาดามเดียร์ หรือ น.ส.วทันยา บุนนาค นั้นที่ประชุมไม่โหวตให้ลงสมัคร เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคได้ไม่ถึง 5 ปี และไม่ได้เป็น ส.ส. จนในที่สุดนายเฉลิมชัยก็ได้เป็นหัวหน้าพรรคนั้น









ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม TikTok พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งโชว์รายชื่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ซึ่งปรากฏว่าถูกถล่มเละ โดยมีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เช่น ให้เขาอยู่กัน 21 คนแล้วกัน เพราะประชาชนไม่เลือกเขาแล้ว, ผมคนใต้ทุกคนในครอบครัวผม จบไม่เอาแล้ว, รักลุงชวนกับคุณอภิสิทธิ์, ตรูพอแล้ว, มันจบแล้วคนใต้น่าจะไม่เอาแล้วครับ, จบแล้วฟ้าเน่า, จบแล้วไม่เอาแล้ว, บาย ปชป., ลาก่อน, อยากเลือกตั้งเร็วๆ

“เชาว์”ซัดแรง ประชาธิปัตย์ยุคผู้นำไร้สัจจะ จะก้มหน้ากราบพระแม่ธรณีอย่างไร

 “เชาว์”ซัดแรง ประชาธิปัตย์ยุคผู้นำไร้สัจจะ จะก้มหน้ากราบพระแม่ธรณีอย่างไร



เชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์โพสต์ข้อความน่าสนใจเกี่ยวกับการรักษาสัจจะของผู้นำทางการเมือง ผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์


เชาว์  กล่าวนำว่า พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้นำพรรคไม่มี ”สจฺจํ เว อมตา วาจา“ 


"ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย “ 


เริ่มต้นเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้ ด้วยคำพูดของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ที่กล่าวไว้ในหลายเวทีหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ “วันที่ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี ”สจฺจํ เว อมตา วาจา“ เพราะจากที่เคยบอกจะวางมือทางการเมือง กลับมารับหน้าที่กุมบังเหียนพรรค ด้วยเหตุผลว่า


“ผมมีความจำเป็นครับ และผมก็อยากจะเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า ผมจะทำทุกอย่างให้พรรคมีเอกภาพ ผมจะทำให้พรรคซึ่งมีอยู่แล้วนี้ ยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญเมื่อสักครู่ที่ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ก็คือ ผมยืนยันกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่”


ก้าวแรกของเส้นทางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ก็ได้ทำลายหลักการ คำขวัญของพรรค ”สจฺจํ เว อมตา วาจา“ คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะท่านไม่ได้รักษาสัจจะ สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน


ผมไม่ได้รังเกียจนายเฉลิมชัยเป็นการส่วนตัว แต่การที่นายเฉลิมชัยตระบัดสัตย์ต่อคำพูดตนเองที่ให้ไว้ต่อสาธารณะ แล้วก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสิ่งที่ไม่สง่ามในทางการเมือง และเป็นการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทุกคำพูดของนายเฉลิมชัย นับตั้งแต่วันนี้คือคำพูดของพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัยพูด ก็คือพรรคพูด เพราะฉะนั้นตราบใดที่นายเฉลิมชัยยังเป็นผู้นำพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่มีความน่าเชื่อถือต่อสาธารณะอีกต่อไป


“ผมไม่แน่ใจว่า นายเฉลิมชัย จะก้มกราบพระแม่ธรณีบีบมวยผม บริเวณลานที่ทำการพรรค ซึ่งมีคำขวัญ “สจฺจํ เว อมตา วาจา ” “คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย“ จารึกอยู่ใต้ฐานพระแม่ธรณีฯ ตราสัญลักษณ์ของพรรค อย่างไม่ละอายได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่ได้มีวาจาสัตย์จริง ทุกคำพูดที่พ่นออกมาจะฟื้นฟูพรรค สำหรับผมไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย เพราะวันนี้คำว่า “พรรค” ถูกทำลายจากคำว่า “พวก” “อุดมการณ์” ถูกทำลายเพราะความกระสันในอำนาจและผลประโยชน์ ไม่น่าแปลกใจที่นายเฉลิมชัย จะไม่กล้าฟันธงว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ร่วมรัฐบาล เพราะบางคนเห็นแสงรำไร กับ 2 โควตารัฐมนตรีในรัฐบาลที่ยังว่างอยู่”


เป็นที่รับรู้กับว่า เชาว์  มีขวด ก้าวเข้าสู่วงการทางการเมืองจากการชักชวนของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ให้เข้ามาทำหน้าที่รองโฆษกพรรคในสมัยที่อภิสิทธิ์นั่งเป็นหัวหน้าพรรค และถือว่าทำหน้าที่ได้ดี เมื่ออภิสิทธิ์ถอยออกไป เชาว์ ก็ลดบทบาทตัวเองลง ไปประกอบอาชีพทนายความเหมือนเดิม

 #นายหัวไทร

 #หัวหน้าประชาธิปัตย์

 #สัจจะวาจา

วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566

พลตรี ไพศาล หนูสังข์รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ฉก.ทพ.45 เน้นป้องกันสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

พลตรี ไพศาล  หนูสังข์รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ฉก.ทพ.45 เน้นป้องกันสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน 

ที่ กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมติดตามการปฏิบัติงานห้วงที่ผ่านมา เพื่อรับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง และนำมาปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ 


โอกาสนี้ พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้นำความห่วงใยจากผู้บังคับบัญชามายังกำลังพลที่ปฏิบัติงาน พร้อมกำชับให้ทุกฐานปฏิบัติการต้องประสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมบูรณาการในทุกมิติ 


เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้ตรงความต้องการและสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน พร้อมย้ำว่าการสกัดกั้นตามแนวชายแดนให้เพ่งเล็งช่องทางท่าข้าม สกัดกั้นและป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงให้บริการประชาชนตามด่านตรวจ การผ่านเข้า-ออก หรือการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนตลอดวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพื้นที่และพี่น้องประชาชน 


ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยหน่วยเฉพาะกิจทุกพื้นที่และทุกฐานปฏิบัติการ พร้อมปรับวิธีการให้ทันต่อทุกสถานการณ์ และประสานงานกับเครือข่ายในพื้นที่ให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด เพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น พร้อมเคียงข้างดูแลประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

ผอ.แขวงทางหลวงนราฯเป็นปลื้มหลังเปิดใช้ถนนสายเลียบพระตำหนัก วิศวกรเจ๋งออกแบบเน้นภูมิทัศน์สวยงามและความปลอดภัยสูง วาดฝันอนาคตอาจเป็นสถานที่เช็คอินอีกจุด(มีคลิป)

 ผอ.แขวงทางหลวงนราฯเป็นปลื้มหลังเปิดใช้ถนนสายเลียบพระตำหนัก วิศวกรเจ๋งออกแบบเน้นภูมิทัศน์สวยงามและความปลอดภัยสูง วาดฝันอนาคตอาจเป็นสถานที่เช็คอินอีกจุด(มีคลิป)





 เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. 66 นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางตรวจดูความเรียบร้อยของถนนทางหลวงหมายเลข 4084 สายบ้านค่าย -บ้านสะปอม ช่วงกิโลเมตรที่ 10 ถึง 14 เศษ มีระยะทางยาวประมาณ 4.040 ก.ม. 

ซึ่งตั้งอยู่ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 สิ้นสุดสัญญาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 66 ด้วยงบประมาณ 138,550,000 บาท ตามมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร โดยมีวงเวียน 3 จุด 3 แห่ง เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตร บนถนนสายดังกล่าว แทนการติดตั้งไฟจราจรหรือ ไฟเขียวไฟแดง ที่บดบังทัศนียภาพอันสวยงาม ทั้ง 2 ฟากฝั่งของถนนสายดังกล่าว


 ที่ผ่านการเปิดให้ประชาชนได้สัญจรไปมาได้ในระยะหนึ่ง พร้อมมีเสียงตอบรับจากประชาชนถึงความสวยงาม จากความคดเคี้ยวของถนนที่กลมกลืนกับการตัดเส้นการจราจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีเทือกเขาที่สูงตระหง่านเป็นทิวทัศน์อยู่ด้วย ซึ่งประชาชนยังต้องการให้ถนนสายดังกล่าวนี้เป็นจุดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งของ จ.นราธิวาสในอนาคต  

ด้านนายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนราธิวาส กล่าวว่า เดิมทีถนน 4084 เป็นถนน 2 ช่องจราจร นโยบายของกรมทางหลวงคือ การเติมเต็มช่วงที่ขาดถนนสายนี้เป็นเส้นหลัก จากนราธิวาสเชื่อมต่อไปยัง อ.ตากใบ มีประชาชนค่อยข้างใช้เส้นทางหนาแน่น

 จากเดิมถนนสายนี้เป็นถนนชั้น 1 เพียง 2 ช่องจราจร แขวงกรมทางหลวงได้ดำเนินการให้เป็นถนนชั้นพิเศษมาตรฐานของกรมทางหลวง จนกลายสภาพเป็นถนน 4 ช่องจราจร มีไหล่ถนนกว้าง 2.50 เมตร ประกอบกับถนนสายนี้มีสถานที่สำคัญๆ 2 แห่ง ของ จ.นราธิวาส คือ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และพระตำหนักพิกุลทอง ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จมาเยี่ยมพสกนิกรเป็นประจำในทุกปี

 นอกจากนี้นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนายการแขวงทางหลวงนราธิวาส กล่าวถึงกรณีการสร้างวงเวียน 3 แห่ง หรือ 3 จุด บนถนนสายดังกล่าวนี้ ว่า การสร้างลักษณะของวงเวียนคือ 1. สร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน 2. เป็นการเสริมภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม ท่านสังเกตถ้าเป็นจุดตัดสำคัญๆจะเห็นมีการจราจรที่หนาแน่น ก็จะต้องมีการแก้ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

 คือ การนำไฟสัญญาณจราจรหรือ ไฟเขียวไฟแดงมาติดตั้ง แต่ภูมิทัศน์จะไม่สวยงามไม่เหมือนกับการสร้างวงเวียน ซึ่งผู้ใช้ถนนหนทางรู้จักกฎจราจร จะต้องหยุดรถให้รถที่อยู่ในวงเวียนไปก่อนเสมอโดยถนนสายนี้เป็นเขตพื้นที่พระราชฐาน วิศวกรที่เขาออกแบบคำนึงในหลายๆมิติ เพื่อให้มีความปลอดภัยและความสวยงาม ซึ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

เดลิมิเร่อร์๑ปลายด้ามขวานชายแดนใต้ สื่อยุคใหม่ ส่องทุกมุมมอง สู่ โลกโซเซียล

วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2566

เกมพลิก ส่ง ”เฉลิมชัย“ ลงชน ”มาดามเดียร์“แทน ”นราพัฒน์“

 เกมพลิก ส่ง ”เฉลิมชัย“ ลงชน ”มาดามเดียร์“แทน ”นราพัฒน์“

…..


”เสียง สส.ส่วนใหญ่เรายังผนึกกำลังกันแน่นเหมือนเดิม“ เป็นคำยืนยันจาก ”แทน-ชัยชนะ เดชเดโช“ สส.นครศรีฯ พรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นการตอกย้ำว่า ขั้วของ ”เฉลิมชัย ศรีอ่อน-เดชอิศม์ ขาวทอง“ ยังคงเดินหน้าสู้ยึดพรรคประชาธิปัตย์มาบริหาร

ภาพปรากฎชัดเมื่อ สส.21 คนมาตั้งวงคุยกันวิเคราะห์อนาคตกับการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ในวันที่ 9 ธันวาคม อันเป็นการตั้งวงวิเคราะห์หลังจาก ”มาดามเดียร์“ วทันยา บุนนาค หรือวงศ์โอภาศรี ตัดสินใจเปิดตัวลงชิงหัวหน้าพรรค พร้อมประกาศเจตนารมณ์ ”ฟื้นฟูพรรค เรียกศรัทธาคืน“ ตามด้วยการออกคลิปส่งสัญญาณเจตนารมณ์ไปยังสมาชิกพรรคทั่วประเทศถึงความมุ่งมั่น

เอาเป็นว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด ”นิด้าโพลล์“ เป็นเครื่องยืนยันว่า มาดามเดียร์มาเต๋งหนึ่ง แต่มีคะแนนไม่ตัดสินใจมากถึง 28% เลือกมาดามเดียร์ 27% ”นราพัฒน์“ และ ”อภิสิทธิ์“ ยังตามหลังมาดามเดียร์




ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือถูกกลุ่ม สส.สาย ”เฉลิมชัย-เดชอิศม์“ ประเมินว่า นราพัฒน์ แก้วทอง ต้องแพ้ ”มาดามเดียร์“ จึงลงมติเปลี่ยนม้ากลางศึก ส่งเทียบเชิญ ”เฉลิมชัย“มาลงชิงหัวหน้าพรรคเอง แต่เฉลิมชัยยังไม่ตัดสินใจ ขอเวลา 1-2 วันในการตัดสินใจ ส่วนตัว #นายหัวไทร อยากให้เฉลิมชัยตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุและผล ไม่ใช่เกิดจากแรงยุ แรงเชียร์ 


เหตุและผลที่ว่า คือภารกิจหนักในการนำพาพรรค ฟื้นฟูพรรค เรียกศรัทธาพรรคจากประชาชนกลับคืนมา อุดมการณ์ของพรรคต้องกลับมาพิจารณาทบทวน ตรงไหนสึกหรอ กร่อนไป จะเสริมเข้ามาอย่างไร เพื่อให้พรรคมีความเป็นพรรคที่ทันสมัย เขาผลักให้ไปอยู่ฝ่ายอนุรักษ์ก็ยอม ไม่ดันตัวเองไปอยู่ฝ่ายก้าวหน้า เสรีนิยมประชาธิปไตยตามอุดมการณ์ของพรรค


เหตุอีกประการที่ไม่ควรลืม คือการที่เฉลิมชัย ประกาศกร้าวบนเวทีว่า ”ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ สส.น้อยกว่าเดิม จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต จะกลับไปประจวบคีรีขันธ์ ถ้าเฉลิมชัยกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เท่ากับ“เฉลิมชัย” ตระบัตสัตย์“ครั้งสำคัญ นักการเมืองจำนวนไม่น้อยเสียผู้เสียคนกับการตระบัตสัตย์ นักการเมืองต้องพูดจริงทำจริงไม่ทิ้งประชาชน

เมื่อประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว ก็ไม่ควรมาจุ้นจ้านอะไรอีก ควรผันตัวเองไปทำอย่างอื่น ไม่ควรอยู่แม้กระทั้งเบื้องหลัง รักษาการหัวหน้าพรรคก็ไม่ควรรับแล้ว ถ้ายังมีใจรักประเทศชาติประชาชน ก็ยังมีบทบาทอื่นรองรับได้ ทำงานได้ มูลนิธิ สมาคม หรืออะไรก็ได้ที่สามารถช่วยเหลือชาติประชาชนได้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง พรรคการเมือง

การเมืองไม่ใช่เรื่องของการแข่งขันเพื่อชัยชนะเพียงด้านเดียว การเมืองมีหลากหลายมิติ แต่นักการเมืองที่ก้าวเข้ามาคิดว่าทำอย่างไรให้ชนะ ทำอย่างไรในการช่วงชิง ”อำนาจรัฐ“ มาอยู่ในมือ เข้าใจได้ว่า การแก้ไขปัญหาบางอย่างต้องใช้งบประมาณของรัฐ ต้องใช้อำนาจรัฐ ต้องใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือ


แต่สถานการณ์ปัจจุบันของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการช่วงชิงอำนาจบริหารพรรค เพื่อนำพาพรรคไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ชาติประชาชน แต่เป้าหมายคือพวกพ้อง และผลประโยชน์ บรรดาโหวตเตอร์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง ยังมีเวลาในการนั่งสมาธิ ให้เปิดปัญญา ตั้งสติคิดให้รอบคอบ เดินเข้าสู่ห้องประชุมโดยไม่มีแรงจูงใจอื่น นอกจากสติที่คิดได้ ปัญญาที่มุ่งหวังดีต่อชาติบ้านเมือง


อุดมการณ์ประชาธิปัตย์จะยังไม่ตายหรอก ถ้าพลพรรคทั้งหลาย มีสติ มีปัญญา และมุ่งมั่นต่อชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้งตามเจตนารมณ์ของ ”ควง อภัยวงศ์“ ผู้ก่อตั้งพรรค เมื่อ 77 ปีก่อน

…..

 #นายหัวไทร

 #หัวหน้าประชาธิปัตย์

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม ร่วมเฉลิมฉลอง UNESCO ประกาศให้สงกรานต์ในไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (ชมคลิปบรรยากาศสุดยิ่งใหญ่อลังการ) .

 พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม ร่วมเฉลิมฉลอง UNESCO ประกาศให้สงกรานต์ในไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (ชมคลิปบรรยากาศสุดยิ่งใหญ่อลังการ)

.


(ชมคลิปบรรยากาศ สุดยิ่งใหญ่ อลังการ)




เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานจากลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดงความยินดี ในงานฉลอง "สงกรานต์" มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ในโอกาสที่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) จะได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ประเพณีปีใหม่ไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ในวันที่ 6 ธันวาคม 2566 (เวลาประเทศไทยประมาณ 15.00 น.) ณ เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา 

ซึ่งปัจจุบันมรดกที่จับต้องไม่ได้ของไทยได้ขึ้นทะเบียนโดย UNESCO มาแล้ว 3 รายการคือ โขน นวดไทย และโนรา และ ล่าสุดสงกรานต์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่สร้างความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติกับประเทศไทย






โดยภายในงานมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน และมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนางสาวซูฮย็อน คิม (Ms. Soohyun Kim) ผู้อำนวยการสำนักงาน UNESCO กรุงเทพมหานคร พร้อมคณะทูตานุทูต ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร และจังหวัด 76 จังหวัด พร้อมภาคี และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานฉลองครั้งนี้ด้วย



ภายในงานประกอบด้วยพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ สรงน้ำพระสงฆ์ 9 รูป และขบวนแห่ฉลองสงกรานต์ อาทิ ขบวนมหาสงกรานต์จตุรทิศแผ่นดินไทย ขบวนอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขบวนตำนานนางสงกรานต์ ทั้ง 7 วัน นำโดย แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอับดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 มาในชุด “นางมโหธรเทวี” (นางสงกรานต์ ประจำปี 2567) ขบวนเริงรื่นชื่นสงกรานต์ 4 ภาค ขบวนแตรวงกลองยาว และการแสดงดนตรีโดยวงสุนทราภรณ์

เดลิมิเร่อร์ ปลายด้ามขวานชายแดนใต้ สื่อยุคใหม่ ส่องทุกมุมมอง สืบสาน ประเพณี วัฒนธรรมไทย สู่โลกโซเซียล

วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ประกาศแล้ว! ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์ไทย’ มรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เดลิมิเร่อร์@ปลายด้ามขวานชายแดนใต้ ขอแสดงความนยินดีนับเป็นความสำเร็จของประเทศไทย (มีคลิป)

 ประกาศแล้ว! ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์ไทย’ มรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ  เดลิมิเร่อร์@ปลายด้ามขวานชายแดนใต้ ขอแสดงความนยินดีนับเป็นความสำเร็จของประเทศไทย (มีคลิป)


ประพันธ์  ฤทธิวงศ์ บรรณาธิการเดลิมิเร่อร์ปลายด้ามขวานชายแดนใต้ ส่องทุกมุมมอง เพื่อสืบสานประเพณี วัฒนธรรมไทย สู่โลกโซเซียล/รายงาน

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ตามที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก จัดการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 ณ เมืองคาเซเน ทวีปอัฟริกา

     นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นความสำเร็จของประเทศไทย ที่ สงกรานต์ในประเทศไทย ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน ประเพณี เป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ





        “สงกรานต์ ถือเป็นประเพณีที่งดงามมีคุณค่า สะท้อนถึงความเป็นไทย เป็นช่วงเวลาแห่งการรักษากายใจและ สิ่งแวดล้อม เป็นโอกาสของการแสดงความกตัญญูและความปรารถนาดีต่อผู้มีพระคุณ การแสดงความเอื้ออาทรต่อ ครอบครัว ญาติมิตรและชุมชน ขณะเดียวกัน เน้นความสำคัญของการใช้น้ำอย่างมีคุณค่า เน้นการรณรงค์ใช้น้ำหอม ไม่ใช้น้ำสกปรก มาสาดใส่กัน อีกทั้ง มีการประกาศวันสำคัญต่างๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับสงกรานต์ คือ วันขึ้นปีใหม่ไทย วันผู้สูงอายุ และวันครอบครัว

        “ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปีนี้ไทยมีมรดกโลกถึง 2 รายการ คือ เมืองโบราณศรีเทพ ที่ได้รับยกย่องเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และล่าสุดยกย่อง ประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ”

      ทั้งนี้ ทางรัฐบาลจะมีการจัดทำแผนการดำเนินงานเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียน ตลอดทั้งปี 2567 มุ่งให้เกิดการสร้างคุณค่าทางสังคม และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย จะเป็นการขับเคลื่อน เผยแพร่ สาระคุณค่า อัตลักษณ์ และความสำคัญของประเพณีสงกรานต์ ในโอกาสต่อไป


 

 

นราธิวาส-ประชาชนร่วมแสดงความยินดีพร้อมต้อนรับ ว่าที่ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองนราธิวาส ไปดำรงตำแหน่ง ผกก. สภ.ทุ่งยางแดง ปัตตานี ย้ำ พร้อมดูแลประชาชนสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ (มีคลิป)

 นราธิวาส-ประชาชนร่วมแสดงความยินดีพร้อมต้อนรับ  ว่าที่ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองนราธิวาส ไปดำรงตำแหน่ง ผกก. สภ.ทุ่งยางแดง ปัตตานี ย้ำ  พร้อมดูแลประชาชนสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ (มีคลิป)




ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ได้มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 300 คน ได้ร่วมเดินทางมาแสดงความยินดีและส่ง ว่าที่ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ รองผู้กำกับ(สอบสวน)สภ.เมืองนราธิวาส ในโอกาสเดินทางไปรับตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง ตำบลตะโละแมะนา อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี 



ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง ได้มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนนายกองค์ปกครองท้องถิ่น จัดเลี้ยงต้อนรับเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทุกคนที่มาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าว กว่า 200 คน ต่างเดินทางมาแสดงความยินดีมอบของที่ระลึกและกระเช้าดอกไม้และกระเช้าของขวัญมารอต้อนรับ ว่าที่ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ 

ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง จากนั้นได้ร่วมกันละหมาดฮายัตเพื่อให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ โดยว่าที่ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดงก็พร้อมที่จะดูแลประชาชนดุจญาติมิตร และกวาดล้างกลุ่มอาชญากรรม และยาเสพติดในพื้นที่ แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ



 ทั้งในด้านป้องกันปราบปรามปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และคดีเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจให้เป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเต็มความสามารถ

โดยประวัติการศึกษาว่าที่ พ.ต.อ.อลัมต์ เมฆารัฐ จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร (นตท.รุ่นที่ 45 ) โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่นที่ 61 ) ปริญญาโท หลักสูตรศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต ม.กรุงเทพธนบุรี หลักสูตรการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 90 หลักสูตรการฝึกอบรมผู้ทำหน้าที่สารถในการเสด็จพระราชดำเนิน ปี 2558 หลักสูตร Terrorist Crimes Scene Investigation 2015 หลักสูตร Identifying and Developing Investigative Information 2016 หลักสูตร Investigative Information Management 2016

 หลักสูตรสารวัตร รุ่นที่ 127 หลักสูตรผู้กำกับการ รุ่นที่ 136 ทั้งนี้ได้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ สว.และรอง ผกก.ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 สว.อก.สภ.บูเก๊ะตา จ.นราธิวาส 1 กุมภาพันธ์ 2558 สว.กก.สส.ภ.จว.นราธิวาส 10 มิถุนายน 2560 สว.สส.สภ.สุไหงโก-ลก ภ.จว.นราธิวาส

29 พฤศจิกายน 2562 รอง ผกก.สส.สภ.สุไหงโก-ลก ภ.จว.นราธิวาส 22 ธันวาคม 2563 รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนราธิวาส

 ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474