โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2564

รัฐมนตรีฯนิพนธ์ ส่งผู้ป่วยศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร 2 คนสุดท้ายที่หายป่วยกลับบ้าน พร้อมขอบคุณจนท.ทุกฝ่าย ดูแลพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี (ชมคลิป)

 

   รัฐมนตรีฯนิพนธ์ ส่งผู้ป่วยศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร 2 คนสุดท้ายที่หายป่วยกลับบ้าน พร้อมขอบคุณจนท.ทุกฝ่าย ดูแลพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี (ชมคลิป)

 


 



เมื่อเวลา16.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โรงพยาบาลสนาม จังหวัดมุกดาหาร ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหารแห่งที่ 1 อาคารจงวุฒิเวศย์ สนามกีฬากลางจังหวัดมุกดาหาร  และศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหารแห่งที่ 2 อาคารหอประชุม 250 ปี มุกดาหาร ถนนแก้วกินรี อำเภอเมืองมุกดาหาร  โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายแพทย์สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่

พร้อมมอบอุปกรณ์การแพทย์ประกอบด้วย หน้ากากอนามัยจำนวน 3,000 ชิ้น และชุด PPE จำนวน 20 ชุด  แก่บุคลากรทางการแพทย์ ไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่

 



    นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ได้ร่วมแรงร่วมใจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จนทำให้ทุกคนสามารถหายจากโรคและกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามมาโดยตลอด โดยคำนึงถึงหลักสุขอนามัยทางการแพทย์ จัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม เพื่อรองรับพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้เสี่ยงติดเชื้อเข้ารับการเฝ้าระวัง หรือแม้กระทั่งเข้ารักษา ตามขั้นตอนทางสาธารณสุขอย่างพอเพียง และทันสถานการณ์  เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมฝ่าวิกฤติสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้กลับสู่สภาวะปกติในที่สุด

 



   สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดใน จ.มุดกาหาร  มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลง และโรงพยาบาลสนามศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหารแห่งที่ 2 อาคารหอประชุม 250 ปี โดยรมช.มท.ได้ร่วมส่งผู้ป่วย 2 รายสุดท้ายเดินทางกลับบ้าน หลังจากรักษาตัวอยู่นาน 14 วัน จนหายเป็นปกติแล้ว ซึ่งต่อจากนี้โรงพยาบาลจะทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่โรงพยาบาลสนามทั้งหมด ตรวจเช็คอุปกรณ์ทางการแพทย์ และวางแผนจัดการระบบรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ตลอดจนรองรับเหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

 

//////

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น