โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

นิพนธ์ โชว์วิสัยทัศน์ภาคใต้ ชู นโยบาย 3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ แก้ปัญหา ยกระดับการพัฒนาที่ครอบคลุม พ่วง นโยบายสันติภาพสู่สันติสุข นำภาคใต้ชายแดน หลุดพ้นกับดักความยากจน

     นิพนธ์ โชว์วิสัยทัศน์ภาคใต้ ชู นโยบาย 3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ แก้ปัญหา ยกระดับการพัฒนาที่ครอบคลุม พ่วง นโยบายสันติภาพสู่สันติสุข นำภาคใต้ชายแดน หลุดพ้นกับดักความยากจน



     เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 ที่สวนสาธารณะเมืองสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ ในภาคใต้ รวมถึงตอบข้อซักถามของพี่น้องประชาชนที่มาร่วมรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ อนาคตประเทศไทย  บนหัวข้อ”เปิดเวทีภาคใต้ กับนโยบายที่กินได้” ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น 


   นายนิพนธ์ กล่าวว่า พรรคปชป.มีนโยบายชัดเจน ตั้งแต่สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ นโยบายประชาธิปัตย์ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์นี้ ได้เรียนให้พี่น้องประชาชนทราบแล้ว สร้างเงินให้พี่น้องประชาชน เช่นธนาคารหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งต่อไปนี้ทุกหมู่บ้านทุกชุมชน จะมีธนาคารหมู่บ้านเกิดขึ้น หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท เพื่ออัดฉีดเงินเข้าไป เพื่อเป็นทุนหทุนเวียนใช้จ่ายในหมู่บ้านหรือในชุมชน  นอกจากนั้นก็ยังมีในการที่จะดูแล SME. โดยจะมี กองทุนSME สามแสนล้านบาท เพื่อดูแลเศรษฐกิจขนาดเล็ก นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะสร้างเงินให้กับคน พร้อมทั้งเดินหน้าประกันรายได้แก่เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด  

 ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาทำให้เห็นแล้วว่าประชาธิปัตย์ได้ดูแลเกษตรกรถึงแปดล้านกว่าครัวเรือน ร่วม 39 ล้านคนใช้เงินถึงห้าแสนล้าน โดยไม่มีรั่วไหล เพราะเป็นการโอนจากธนาคารสู่เกษตรกรโดยตรง และปีนี้ก็จะโอนเงินให้กับเกษตรกรเดินหน้าต่อ และจะดูแลชาวนาครอบครัวละ 30,000 บาท นี่คือสิ่งที่จะดูแลชาวนา เพื่อเพิ่มผลผลิตและดูแลการเก็บเกี่ยวไม่เกิน15ไร่ ซึ่งทำมาแล้วและจะทำต่อไปอีก และสิ่งสำคัญที่ประชาธิปัตย์จะทำคือการออกโฉนดที่ดินให้กับประชาชน โดยใน4 ปี เราจะทำให้ได้ 1 ล้านแปลง ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา ที่ผมดูแลกรมที่ดิน ผมออกโฉนดไปแล้วถึง 3 แสนกว่าแปลง ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าต่อ นี่คือสิ่งสำคัญที่ประชาธิปัตย์จะทำ พร้อมทั้งปลดล็อกให้กับพี่น้องชาวประมง  ซึ่งอยู่ในโซ่ตรวนนี้มายาวนาน จึงต้องมีการแก้กฏหมายและออก กฏหมายใหม่  โดยประชาธิปัตย์จะฟื้นฟูธุรกิจประมงมาให้ได้ นอกจากนั้นประมงชายฝั่ง ประมงพื้นบ้าน เราจะมีเงินกองทุนสนับสนุนให้ชมรมให้กับหมู่บ้าน เกษตรกรประมงท้องถิ่นชมรมละ 100,000 บาทต่อปี มีทั้งหมด 3000 ชมรม ซึ่งจะได้ทั้งประเทศ 

 และนี่คือการสร้างเงืนให้กับพี่น้องประชาชน สร้างเงินทั้งประเทศ ประชาธิปัตย์ยังเดินหน้าต่อด้วยการเจรจาการค้าเสรี ซึ่งเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาได้เปิดศักราชเจรจาเซ็นต์ FTA กับอียูมาแล้ว เมื่อเราเจรจาเสร็จจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกมากมาย ในการส่งออก ดังนั้นนี่คือการสร้างเงินให้กับประเทศ ประชาธิปัตย์จะเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออก ซึ่ง 3-4 ปีที่ผ่านมา การส่งออกเป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศ ฉะนั้นจะเป็นการสร้างรายได้ด้วยการค้า การส่งออก และมีการเจรจาการค้าเสรีมากขึ้นโดยจะมี 28 ประเทศ ดังนั้นประชาธิปัตย์จะเดินหน้าสร้างเงินให้กับประเทศ และสิ่งสำคัญนั่นคือการท่องเที่ยวเราจะดูแลพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอาการท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้มีผลประโยชน์ด้วยด้านการท่องเที่ยว 

 นโยบายยุทธศาสตร์การสร้างคนโดยให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ขาดแคลน  ซึ่งเราได้ทำเรียนฟรีถึง 15 ปีมาแล้ว รวมถึงที่หลังจากที่ให้ดื่มนมมาแล้ว 265 วัน มาถึง 30 ปีแล้ว ประชาธิปัตย์ประกาศจะให้ดื่มนมฟรีตลอดทั้งปี 365 วัน ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่ง ประชาธิปัตย์ประกาศถึงเวลาที่จะสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในจังหวัดชานแดนภาคใต้ ตราบใดที่ไม่มีสันติภาพเกิดขึ้น ก็ไม่มีทางที่จะให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีสันติสุขได้ ดังนั้นประชาธิปัตย์ มองว่าวันนี้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงเวลาต้องพูดคุยกับทุกฝ่าย ที่มีความเห็นต่างกัน จะทำอย่างไร ซึ่งประชาธิปัตย์กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นถ้าเราสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ใช้กำลังอาวุธกันได้ ก็จะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นได้ 

  และก่อให้เกิดสันติสุขตามมา ซึ่งก็จะทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางด้านอาหาร นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพาะเลี้ยงชายฝั่งหรือว่าการทำให้เป็นเมืองปศุสัตว์ สิ่งเหล่านี้ ประชาธิปัตย์จะทำ และจะทำให้จังหวัดยะลาเป็นฮาสของทุเรียนให้ได้ นี่คือสิ่งที่เราจะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ จังหวัดชายแดนภาคใต้พ้นจากความยากจนให้ได้  แล้วสันติสุขก็จะเกิดขึ้น  และยืนยันว่าประชาธิปัตย์จะเดินหน้ากระจายอำนาจให้ท้องถิ่น พร้อมยกฐานะเทศบาลนครให้เป็นเมืองมหานคร  พร้อมที่จะยกฐานะ ภูเก็ต ระยอง ให้เป็นจังหวัดจัดการตนเอง


     นิพนธ์กล่าวต่อด้วยว่า “วันนี้ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ที่อยู่มาถึง 77 ปี   ถ้าไม่ดีจริงคงไม่อยู่มาถึง 77 ปี  จึงอยากบอกคุณนิพิฐฏ์ ว่าถ้าอยากให้ประชาธิปัตย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ  ก็ให้เลือกท่านจุรินทร์เป็นนายก และวันที่ท่านชวน หลีกภัย ออกกฏหมายยกฐานะ อบต. ท่านชวนก็เป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ออกกฏหมายการกระจายอำนาจ ท่านชวนก็เป็นนายกฯวันนี้ ประชาธิปัตย์จึงขอถือโอกาสเพื่อให้ท่านจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะให้เลือกผู้ว่าฯ ภูเก็ตหรือระยองให้ดู และเลือกผู้บริหารเกาะสมุยให้ดู คุณนิพิฐฏ์ไม่ต้องตกใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น