สมคิด….คิดสร้างประเทศไทย
…… ; นายหัวไทร
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ที่เพิ่งเข้ารับบทบาทสำคัญในพรรคสร้างอนาคตไทย
และเป็นคาดิเดทนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคนี้ด้วยบอกว่าการรัฐประหารโลกนี้ไม่มีใครยอมรับ
สมคิดพูดถูก ในโลกของสังคมประชาธิปไตยเข้าไม่ยอมรับการใช้อาวุธ
และกำลังทางทหารเข้ายึดอำนาจ โดยเฉพาะอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เราไม่พูดถึงเหตุผลที่ทำให้
พล.อ.ประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจ เพราะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป
แต่การแก้ไขปัญหามีหลายวิธี การยึดอำนาจเพื่อนำอำนาจนั้นมาใช้เอง เป็นเพียง 1
ในหลายวิธีของการจัดการปัญหา
แต่ตอน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ สมคิดยอมรับตำแหน่งรองนายกฯ นะ
และเป็น 1 ใน 15
คนของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.)
เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในยุค คสช.และต่อเนื่องมาจนถึงหลังการเลือกตั้งปี 2562
และถูกบีบพ้นตำแหน่งพร้อม อุตตม สาวนายน และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และทีมสี่กุมาร
อุตตม สนธิรัตน์ ยังคงเดินหน้าภารกิจการเมือง พร้อมดึงสมคิดมาเป็นมันสมอง
และเป็นคาดิเดทนายกรัฐมนตรี ที่ต้องไปแข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ กับยุทธศาสตร์ไม่ทะเลาะกับใคร
คบกับทุกฝ่าย
ไม่ทะเลาะกับใคร คบกับทุกฝ่าย ในทางการเมืองตีความได้ว่า
หลังเสร็จศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ชนะเด็ดขาด
พรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมจับมือกับทั้งขั้ว พล.อ.ประยุทธ์ และขั้วทักษิณ
ส่วนอีกสองกุมารสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ฝ่ายการเมือง ได้ตัดสินใจวางมือทางการเมือง คนหนึ่งกลับไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือ
คนหนึ่งกลับเป็นเป็นนายธนาคาร แต่ยังคงเป็นที่ปรึกษาให้กับสายการเมือง
การที่สมคิดออกมาบอกว่าทั่วโลกไม่ยอมรับการยึดอำนาจ แต่สมคิดเข้าร่วมในคณะ
คสช.แปลว่าอะไร
และสมคิดกับบุคคลทั่วไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่มียศนายพลเข้าร่วมกับ คสช. เช่น
มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นต้น
สมคิดเคยทำงานร่วมกับทักษิณ ชินวัตร มาทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์
และถูกอัปเปหิออกมาจากทั้งสองคน แต่วันนี้สมคิดกำลังบอกว่า “คบได้กับทุกฝ่าย”
แปลความไม่ยาก คือคนได้ทั้งฝ่ายทักษิณ และฝ่ายประยุทธ์
แต่อยากจะตั้งคำถามว่า แล้วจุดยืนของสมคิดอยู่ตรงไหน
หรือแค่ขอให้มีตำแหน่งทางการเมือง ฝ่ายไหนก็ได้ แค่นั้นเหลอ
ยังจำวาทะกรรมทางการเมืองได้ไหม “ปี 2018 คนจนจะหมดไปจากประเทศไทย”
เวลาผ่านมากี่ปี มีแต่คนจนเพิ่มขึ้น
ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยห่างยิ่งขึ้น ฝ่ายหนึ่งไม่มีแม้เงินจะซื้อข้าวกิน
อีกฝ่ายมีเงินกองอยู่เป็นหมื่นล้านแสนล้าน ความเหลื่อมล้ำทางสังคมมีมากขึ้น
คนระดับล่างถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกกดขี่ข่มเหงโดยคนอีกชนชั้นหนึ่ง
พรรคสร้างอนาคตไทย
ที่สมคิดร่วมวงอยู่ด้วยกำลังเป่าประกาศว่าเขาเป็นทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดกับการอยู่ในตำแหน่งมายาวนานนั้นได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจอะไรบ้าง
ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้แค่ไหน คนที่เคยมีฐานะเป็นคนชั้นกลาง
ทุกวันนี้ถอยร่นไปเป็นคนชั้นล่างแล้ว ถอยไปใช้สิทธิ์คนละครึ่งแล้ว
ทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19
ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน น้ำมันแพง ค่าแรงถูก ถูกลดค่าจ้าง ถูกให้ออกจากงาน
ถูกเลิกกิจการ สินค้าเพื่อการยังชีพราคาแพงขึ้น
ในขณะที่ผลผลิตด้านการเกษตรบางตัวราคาย่ำแย่ แต่ปุ๋ยราคาแพงขึ้น
ที่เปิดตัวลงสนามการเมือง และบอกว่าเป็นทีมการเมืองที่แข็งแกร่ง
ก็ยังไม่เห็นวิธีการนะว่าจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไรเห็นแต่วาทะกรรมทางการเมือง
เพียงเพื่อเรียกคะแนนเสียงเท่านั้นเอง
วาทะกรรมที่คิดขึ้นมาพูดในสถานการณ์ทางการเมืองที่เดินเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว
ยังกล้าหาญชาญชัยที่จะประกาศอีกไหมว่า คนจนจะหมดไปจากประเทศไทย
หรือคนจนตายหมดประเทศไทย
#นายหัวไทร
#สมคิด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น