นิพนธ์ ยัน ประชาธิปัตย์เน้นการสร้างคนมาตลอด 76 ปี เดินหน้า ชู นโยบายการศึกษาทันสมัย(ชมคลิป)
โดยพรรคจะส่งเสริมให้ลูกหลานทุกคนได้เข้าถึงการศึกษา เพราะความรู้ ความสามารถจะแก้ปัญหาในเรื่องปากท้อง ซึ่งนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ถือเป็นคอนเซ็ปของพรรคปชป ในการสร้างคน และต้องสร้างคนรุ่นใหม่ของประเทศไทยให้รู้ทันเทคโนโลยี ในส่วน นโยบายที่ว่าอุดมการณ์ ทันสมัย นั่นคือเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน ถ้าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดีพรรคจะนึกถึงพี่น้องประชาชนเสมอ และวันนี้พรรคเราจะดูแลลูกหลานให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ วันนี้สงขลาจึงต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา แต่อุดมการณ์เดิม และจะเป็นความทันสมัยในการรับใช้พี่น้องประชาชน เป็นความทันสมัยในบ้านนี้เมืองนี้ สู้กับต่างประเทศ ซึ่งพรรคปชป.เป็นพรรคที่ให้ความสนใจในการพัฒนาคนมาโดยตลอด และวันนี้เราจะทำให้สงขลาเป็นเมืองต้นแบบของการศึกษาทันสมัยของประชาธิปัตย์
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคปชป.กล่าวถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์จังหวัดสงขลา มีความพร้อมแล้วถึง 90% เหลือบางพื้นที่เท่านั้นที่ต้องหาคนที่ดีที่สุด เพื่อมาลงแข่งขัน ลงสมัครเลือกตั้งรับใช้พี่น้องประชาชน ในเรื่องของการทำนโยบาย การเตรียมการในการสรรหาตัวผู้สมัคร การเตรียม การประชาสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้ได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งล่าสุดหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการโดยท่านเลขาธิการพรรคเป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัวผู้สมัครไปบ้างแล้วในบางจังหวัด
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความเชื่อว่าในพื้นที่ภาคใต้นี้เรามีความพร้อม ทั้งนโยบาย บุคคล ทีมงานในการสร้างแกนนำของพรรคในเขตเลือกตั้ง แต่ละพื้นที่ วันนี้จำนวน ส.สเพิ่มเป็น 58 ที่นั่งพรรคประชาธิปัตย์ คาดหวังว่าขั้นต่ำจะได้ประมาณ 35-40 ที่นั่ง ซึ่งในอดีตถือว่าเคยแข่งขันกับพรรคใหม่ๆเป็นประจำ วันนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง วันนี้กว่า 76 ปีของพรรคปชป.เราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควร และเห็นอะไรทางการเมืองมาก็มาก และพรรคใหม่ที่แข่งกับเราทางการเมืองก็หายไปทุกครั้ง ดังนั้นนี่คือสิ่งที่พรรคปชป.มั่นใจว่า ประชาธิปัตย์จะกลับมาในภาคใต้อีกครั้ง
วันนี้ที่พรรคปชป.ได้ทำเอาไว้ในเรื่องของกองทุนเพื่อการกู้ยืมทางการศึกษา ในสมัยท่านชวน หลีกภัยเพราะเราต้องการเห็นถึงความยั่งยืนทางการศึกษา เพื่อให้ลูกหลานของคนที่มีฐานะยากลำบาก และมีบุตรหลายคนซึ่งจะเป็นภาระต่อครอบครัว ได้มีโอกาสเข้าถึงทางการศึกษา ฉะนั้นกองทุนนี้จึงเกิดขึ้น และลูกหลานก็ได้รับประโยชน์จากกองทุนนี้ กว่า 6 ล้านคน และได้ใส่งบลงไปในกองทุนนี้แสนกว่าล้านบาท ดังนั้นถ้าจะเปลี่ยนหลักเกณฑ์
อย่างไรก็ต้องนึกถึงความจริงคือ ประชาชนได้ประโยชน์ ลูกหลานของชาวบ้านไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและกองทุนต้องอยู่ได้อย่างถาวร ฉะนั้นการที่จะทำให้มีวินัย ในเรื่องของการกู้ยืม สิ่งนี้มันเป็นความจำเป็น ถ้าเห็นว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ เราต้องแยกกองทุนนี้กับเรื่องการศึกษาฟรี ต้องแยกจากกันให้ได้ และพรรคปชป.จึงยืนยันว่าความมั่นคงของกองทุนนี้เพื่อโอกาสของลูกหลานเราในวันข้างหน้า เราไม่อยากเห็นการส่งเสริมให้คนไม่มีวินัย เพราะวันข้างหน้าจะเป็นปัญหากับลูกหลานเราในอนาคต จะไม่มีแหล่งเงินหรือโอกาสเข้าถึงการศึกษาของชาติได้ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ค่อนข้างมีความกังวล เพราะพรรคปชป.มีการส่งเสริมแน่นอน ที่จะให้มีความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เราไม่ต้องการเห็นการเอาฐานะความยากจน หรือความร่ำรวยมาเป็นอุปสรรคทางการศึกษา
////
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น