สื่อฯอิสระ ปลายด้ามขวาน@สัมภาษณ์ เปิดใจ..อดีต ผกก.5บก.ส.1 ยื่นหนังสือ สร้างขวัญกำลังใจ ตำรวจสันติบาล จชต.สู้กับโจรใต้เสี่ยงตาย(ชมคลิป)
(ชมคลิป) ความทรงจำ..วิถีชีวิต ราชการ ปักหลักทำงานพื้นที่ จชต. จนเกษียณ พ
.ต.อ.พิทักษ์ เอียดแก้ว อดีต ผกก.5 บก.ส.1
ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้ /รายงาน
เมื่อวันที่ 14 ก.ย65 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจาก พ.ต.อ.พิทักษ์ เอียดแก้ว อดีต ผกก.5บก.ส.1ได้ยื่นหนังสือถึงพล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เพื่อขอสร้างขวัญกำลังใจให้กับตำรวจสันติบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบจนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้รับการปูนบำเหน็จตามระเบียบ ได้ให้สัมภาษณ์ สื่อฯอิสระ "ประพันธ์ ฤทธิวงศ์"ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้
พ.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า ขอยกตัวอย่างกรณีวีรกรรมของ จ.ส.ต.วุฒิพงษ์ สุพรรณชนะบุรี อายุ 29 ปี ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 กก.6 บก.ป. ได้นำกำลังเข้าจับกุมนายจำรัส รักจันทร์ ผู้ต้องหามีหมายจับหลายคดีและมีค่าหัว 100,000 บาท ซึ่งขณะเข้าจับกุมเป็นเหตุให้ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. สังกัดเดียวกันถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต และยังไม่สามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุได้
กระทั่ง จ.ส.ต.วุฒิพงษ์ฯ ได้ใช้ปืนเอ็ม 16
ยิงต่อสู้คนร้าย จนสามารถนำร่างของ ด.ต.อนันต์ฯ ออกจาก ที่เกิดเหตุได้
เหตุการณ์ดังกล่าวมีคนร้ายซึ่งเป็นสมุน ของนายจำรัส รักจันทร์ เสียชีวิต 1 ราย
เหตุการณ์ในครั้งนั้นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้แสดงความ
ยินดีและประดับยศร้อยตำรวจตรี ให้แก่ จ.ส.ต.วุฒิพงษ์ สุพรรณชนะบุรี
เป็นร้อยตำรวจตรี เนื่องจากเป็นตำรวจที่แสดงถึงความกล้าหาญ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม
2565
พ.ต.อ.พิทักษ์
เปิดเผยว่า จากวีรกรรมที่กล่าวมาตอนต้น ยังมีข้าราชการตำรวจสังกัด บช.ส.
ที่มีความตั้งใจ ทุ่มเท เสียสละ และกล้าหาญ มีผลงานการปฏิบัติมามากมาย
หลายสถานการณ์ ตำรวจนายนี้คือ ด.ต.ยอดชาย เอียดแก้ว ผบ.หมู่ กก.5 บก.ส.1
(จนท.ตร.ส.ปัตตานี) ได้สร้างวีรกรรมและความกล้าหาญ
สมควรได้รับการปรับยศเลื่อนฐานเป็นสัญญาบัตร โดยผู้บังคับบัญชาระดับผู้บัญชาการ
ดุจเดียวกัน ทั้งนี้ด.ต.ยอดชาย เอียดแก้ว ได้ปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังในพื้นที่ 3
จชต. ตลอดมา
โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ได้ทำการปฏิบัติการตามหมายจับ ป.วิอาญา ต่อนายซารีซาน ดือราแม ซึ่งเป็นคนร้ายที่ได้นำรถยนต์กระบะ (ทะเบียนปลอม) ใช้ถังแก๊สประกอบระเบิดวางไว้ที่หน้า สถานีตำรวจเมืองภูเก็ต เมื่อ 20 ธันวาคม 2556 แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้ไว้ได้ ซึ่งต่อมาทางหน่วย พิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า นายซารีซาน ดือราแม เป็นตัวการในการวางระเบิดในครั้งนี้ด้วย โดยมี DNA ของผู้ร้ายรายนี้ปรากฏที่เกิดเหตุด้วย จนกระทั่ง 2 พฤษภาคม 2562 ทางกองกำลังผสมในพื้นที่ได้เข้า ตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ เป็นบ้านของนางมาซินะห์ สาแม ซึ่งเป็นภรรยาของนายซารีซาน ดือราแม
พ.ต.อ.พิทักษ์
เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้ ด.ต.ยอดชายฯ ได้เข้าตรวจค้นในระยะประชิดตัว
นายซารีซาน ดือราแม ได้ใช้ปืน ขนาด 11 มม. ยิง ด.ต.ยอดชายฯ ในระยะประชิด จำนวน 5
นัด กระสุนโดนที่สำคัญ เช่น บริเวณหน้าอก ท้อง และแขน แต่โชคช่วยด.ต.ยอดชายฯ
ใส่เสื้อกันกระสุน เลยทำให้รอดชีวิตมาได้
บริเวณท้องและแขนเป็นช่องว่างที่เสื้อกันกระสุนครอบคลุมไม่ถึง
จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และเข้ารักษา ตัวที่ รพ.อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
อยู่ระยะหนึ่ง การปฏิบัติงานของ ด.ต.ยอดชาย เอียดแก้ว
เป็นที่ประจักษ์ของเพื่อนร่วมงานและ
ผู้นำหน่วยในพื้นที่ตลอดมา กระทั่งเหตุการณ์ที่เข้าตรวจค้นและโดนยิงได้รับบาดเจ็บ
ทาง ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หรือแม่ทัพภาค 4 ได้มีหนังสือ ที่ นร
5119.1/1903 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอความ
อนุเคราะห์พิจารณา เลื่อนฐานะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
แต่ปรากฏว่าเรื่องดังกล่าวได้เงียบหาย ไม่มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
แต่ประการใด
พ.ต.อ.พิทักษ์
เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้บัญชาการสอบสวนกลางได้ประดับยศร้อยตำรวจตรี (สัญญาบัตร)
ให้กับตำรวจ ภายในหน่วยที่มีผลงานการปฏิบัติงานอย่างกล้าหาญ ซึ่งเป็นวีรกรรมเป็นที่ประจักษ์นั้น
เฉกเช่นเดียวกันกับกรณี ด.ต.ยอดชาย เอียดแก้ว
ซึ่งเป็นข้าราชการในหน่วยงานของท่านที่สร้าง วีรกรรมปฏิบัติอย่างกล้าหาญ
โดยมีผลงานตลอดมาและปฏิบัติงานเสี่ยงชีวิตจนได้รับบาดเจ็บ
จึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ได้โปรด พิจารณาประดับยศร้อยตำรวจตรีให้กับ
ด.ต.ยอดชาย เอียดแก้ว เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ
สำหรับประวัติและผลงาน ดต. ยอดชาย เอียดแก้ว ผบ.หมู่ กก.๕ บก.ส.
มีหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวด้านมวลชน, เศรษฐกิจ, ความมั่นคง และติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้าพเจ้ามีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จว.สงขลา ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับ จว.ปัตตานี และข้รับราชการตำรวจอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 25 ปี 6 เดือน ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับประวัติและผลงาน ด.ต.ยอดชาย
เอียดแก้ว อายุ 50 ปี ผบ.หมู่ กก.๕ บก.ส.๑สังกัด เจ้าหน้าที่
ตร.ส.จว.ปน.ตร.จชต.กกล.ตร.จชต.กองกำกับการ ๕
กองบังคับการตำรวจสันติบาล ๑ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล
การศึกษา -
จบประถมศึกษาที่ ๔-๖ โรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเทพา อ.เทพา จ.สงขลา
-
จบมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียน
เทพพิทยาภานุมาศ อ.เทพา จ.สงขลา
-
จบมัธยมศึกษาปีที่ ๖ การศึกษานอกโรงเรียนปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี
-
จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชา รัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย
ประกาศเกียรติคุณจากการผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ
มีหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวด้านมวลชน, เศรษฐกิจ, ความมั่นคง และติดตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้าพเจ้ามีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จว.สงขลา ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับ จว.ปัตตานี และข้าพเจ้ารับราชการตำรวจอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 25 ปี 6 เดือน ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๙
ได้รับประกาศเกียรติคุณจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จังหวัดปัตตานี
ในกรณีร่วมกันจับกุมยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่อำเภอหนองจิก และอำเภอยะหริ่ง
จังหวัดปัตตานี ประเภทของกลางยาบ้า จำนวน ๕๗,๘๗๘
เม็ด
เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙
ได้รับประกาศเกียรติคุณจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ในกรณี
เป็นผู้ปฏิบัติงานสืบสวนดีเด่นเป็นที่ประจักษ์
มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดียิ่ง จนทำให้ภารกิจ เกิดความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
จากการร่วมปฏิบัติหน้าที่สืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหา
กรณีมียาเสพติด(ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๑
ได้รับหนังสือคำชมเชยการปฏิบัติงานจากกองกำกับการสืบสวนจังหวัดภูเก็ต ในกรณี
เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ กองกำกับการสืบสวนจังหวัดภูเก็ต
ได้รับการประสานแจ้งข่าวสารจาก
ดาบตำรวจยอดชาย เอียดแก้ว ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ ๕
กองบังคับการตำรวจสันติบาล ๑
เกี่ยวกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติดของเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค
๘ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ
เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ และจังหวัดภูเก็ต จากผลการแจ้งข่าวสาร ทำให้
กองกับการสืบสวนจังหวัดภูเก็ตสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของการยาบ้า จำนวน
๑๙๕,๘๑๐ เม็ด
เมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๒ ได้รับเกียรติบัตรชมเชยจากกองบังคับการตำรวจสันติบาล ๑ เป็นข้าราชการที่มีผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติดโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒
ได้รับหนังสือชมเชยจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี
เป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการข่าวสนับสนุนหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ติดต่อกันมาโดยตลอด
และสามารถดำเนินงานด้านการข่าวได้ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ
นำไปสู่การปฏิบัติระหว่างหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กับหน่วยราชการในพื้นที่
ในการติดตามบังคับใช้กฎหมายผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้เคสนี้เพื่อเป็นแบบอย่างที่จะสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ ด้วยความกล้าหาญ เสี่ยงตายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะนำสันติสุขสู่ชายแดนใต้อีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น