โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ปักหลัก สร้างที่พัก ในสวนปาล์ม เพื่อเรียกร้องให้รัฐเร่งจัดสรรที่ดิน

 


กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ปักหลัก สร้างที่พัก ในสวนปาล์ม เพื่อเรียกร้องให้รัฐเร่งจัดสรรที่ดิน







กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ปักหลัก สร้างที่พัก ในสวนปาล์ม เพื่อเรียกร้องให้รัฐเร่งจัดสรรที่ดิน ยืนยันไม่ย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมแฉ มีเจ้าหน้าที่บางคน สมคบนายทุน แอบตัดผลปาล์มขาย ในพื้นที่ สปก.ที่ถูกยึดคืนแล้ว

 

วันที่ 31 ม.ค.64 กลุ่มชาวบ้าน เรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่สวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ในพื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ กว่า 200 คน ยังคงปักหลัก ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกิน ภายในสวนปาล์มแปลงที่ NO 603 หลังจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก.จังหวัดกระบี่ ยึดพื้นที่ คืน จากบริษัทเอกชน จำนวน 3,617 ไร่ ตามคำสั่ง คสช.หลังจากตรวจสอบพบว่า บุกรุกพื้นที่ ปลูกปาล์มน้ำมัน มากว่า 20 ปี พร้อมกับสร้างที่พักเพื่อรอภาครัฐทำการจัดสรรที่ดินทำกินให้ ตามข้อเรียกร้อง

 

นายนายขจิต ผลอินทร์ ประธานกลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินกลุ่มสร้างสรรค์สังคมไทย (กระบี่น้อย)เปิดเผยว่า กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ ได้เข้า สร้างบ้านพักอาศัย อยู่ในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ของบริษัทสหอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด มากว่า 7-8 ปีแล้ว เพื่อเรียกร้องให้ มีการตรวจสอบและยึดคืนที่ดิรมาเป็นของรัฐ หลังจากตรวจสอบพบว่า เป็นการบุกรุกพื้นที่ ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก มากว่า 20 ปี ชาวบ้านได้มีการ สร้าง ที่พักถาวร ประกอบอาชีพ ทำการเกษตร เพาะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เพื่อรอหน่วยงานของรัฐจัดสรรที่ดินให้ทำกิน หากให้ย้ายออกจากพื้นที่ ทุกคน ไม่มีที่ไป และ กังวลว่าจะไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินให้ ทั้งที่เป็นกลุ่ม ที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบ จนนำไปสู่การยึดพื้นที่คืนกลับมา ยืนยันจะปักหลักอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไป

 


นายขจิต กล่าวด้วยว่า สำหรับที่ดิน สปก.ที่พวกตนอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกนายทุนฮุบที่ดินปลูกปาล์มน้ำมันมานานกว่า 20 ปี และล่าสุดทางร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงมาตรวจสอบพื้นที่และมีการปักป้ายยึดคืนที่ดินจากนายทุนเพื่อนำมาจัดสรรให้กับคนยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่พบว่านายทุนยังคงเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยไม่สนใจคำประกาศยึดคืนพื้นที่



 


หากเป็นไปได้ ตนอยากให้มีการล้มต้นปาล์มออก  เพื่อไม่ให้นายทุนที่ครอบครองอยู่เดิมเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ในระหว่างที่จะมีการจัดสรรให้กับคนจนไม่มีที่ดินทำกิน อย่างไรก็ตามตนก็ยังเป็นห่วงว่าจะได้รับสิทธิ์ ทุกคนหรือไม่ แต่จะให้พวกตนออกจากพื้นที่ ก็คงจะไม่ออกเพราะไม่รู้จะไปไหน และปักหลักอยู่ในที่ดินมาเกือบ 10 ปี แล้ว

 


และหลังจากนี้คงจะรอดูท่าที หากว่ารัฐไม่จัดสรรี่ดินทำดินให้ พวกตนก็คงจะมีการเคลื่นไหวต่อไป และอาจจะทำกินในที่ดินเพาะปลูกพืชทันที เพราะไม่แน่ใจว่าหากไม่มีรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ดินจะถูกนายทุนเอาคืนไปอีกหรือไม่ เพราะยังมีอีกหลายแปลงที่นายทุน ครอบครองผิดเงื่อนไข อยากให้รัฐเอาคืนมาจัดสรร ให้คนจนไม่มีที่ดินทำกินทั้งหมด

 



สำหรับที่ดินหมดอายุสัมปทานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ยังมีอยู่อีกมาก กว่า 7 หมื่นไร่ ที่อยู่ในกำมือของกลุ่มทุน และมีการกอบโกยผลประโยชน์อยู่ขณะนี้ อยากเรียกร้องใหเจ้าหน้าที่รัฐเร่งรัดเอาคืนกลับมาแจกคนจนโดยเร็ว

 

กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น