กยท.ลุยจัดอบรม-สร้างอาชีพเสริม
ชาวสวนยางสงขลาตั้งกลุ่ม-ขยายรังผึ้ง
นโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการเพื่อชาวสวนยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย
หรือ กยท. ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเห็นผลเป็นรูปธรรมมีหลายอย่าง รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรชาวสวนยาง
ทำให้ในช่วงที่ราคายางตกต่ำ นอกการประกันรายได้ที่รัฐบาลได้จัดให้แก่เกษตรกรแล้ว
อาชีพเสริมที่เกษตรกรได้ประกอบเพิ่ม
ก็จะเป็นส่วนสำคัญอีกด้านที่จะทำให้เกิดความมั่นคงด้านรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง
นายวีระพัฒน์
เดชารัตน์
หัวหน้ากองสวัสดิการเกษตรกร ฝ่ายพัฒนาเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร กยท. เผยว่า ตามพระราชบัญญัติการยาง
เงินในมาตรา 49 (5) นั้น คณะกรรมการการยางพาราแห่งประเทศไทย และผู้บริหารกยท.
ได้มีนโยบายมุ่งเน้นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราทางด้านสวัสดิการ เพื่อให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี
“โดยสวัสดิการตามข้อบังคับมี
4 เรื่อง เรื่องแรก คือ การดูแลสวนประสบภัย เรื่องที่ 2 เงินชดเชยในกรณีเสียชีวิต
เรื่องที่ 3 การช่วยเหลือดูแลผู้ประสบความเดือดร้อน และเรื่องที่ 4 คือเรื่องอื่นๆ
ที่ทางคณะกรรมการกยท. ได้กำหนดขึ้นมาตามกรณีศึกษาของคณะทำงานอนุศึกษาสวัสดิการฯ
ที่มีเพิ่มเติมเข้ามา”
“ซึ่งโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพจัดอยู่ในสวัสดิการส่วนที่
4
โดยการเพิ่มโครงการพัฒนาอาชีพเพื่อพี่น้องชาวเกษตรกรสวนยางเป็นมืออาชีพในการทำอาชีพเสริมมากยิ่งขึ้น”
“โครงการนี้
เรามองว่า ปัจจุบันหรือในอนาคต พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง
หากมุ่งเน้นแต่เพียงรายได้จากการทำสวนยางก็คงจะไม่เพียงพอในการหาเลี้ยงครอบครัว
หรือความมั่นคงทางรายได้ก็จะไม่ดีเท่าที่ควร
จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีอาชีพเพิ่มเสริมเข้ามา
ซึ่งการที่เราจะไปส่งเสริมให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรประกอบอาชีพเสริมนั้น
สิ่งหนึ่งที่เรากลัว คือ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางไปลงทุนและจะเกิดความล้มเหลว
เพราะฉะนั้น แนวคิดของโครงการนี้ที่เกิดขึ้นมา ก็เพื่อต้องการให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางที่มีความประสงค์ที่อยากจะประกอบอาชีพเสริม
ให้ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ ละ 30 คน ซึ่งทางกยท.จะไปจัดหาวิทยากรเฉพาะทางในเรื่องนั้นๆ
มาให้ความรู้ว่าอาชีพนี้ทำอย่างไรจึงจะประสบผลสำเร็จ
มีวิธีรับมืออย่างไรที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความล้มเหลวผิดพลาดตามมา”
“โดยโครงการนี้จะมีการจัดอบรมขึ้นเป็นเวลา
2 วัน และในวันที่ 2 จะให้เป็นการดูงานของจริง และมาวิเคราะห์เพื่อนำไปศึกษาต่อ
เพื่อประกอบอาชีพต่อยอดจากโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่ทางเราได้จัดทำขึ้น
อีกทั้งทางกยท.
ยังมีเงินขวัญถุงให้สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่เข้ารับการอบรมส่งเสริมการประกอบอาชีพ
ถือเป็นปัจจัยการผลิตขั้นต้นให้กับพี่น้องเกษตรกร อาทิเช่น หากอบรมเกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงไก่
เมื่ออบรมเสร็จสิ้นก็จะมีแม่พันธุ์ไก่ให้กับทางเกษตรกร ซึ่งโครงการนี้ทางกยท.
เราก็จะแนะนำเกษตรกรให้ไปต่อยอดในส่วนของเงินทุนกู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ประเด็นที่เราจะแนะนำก็คือการกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพเสริมนั่นเอง”
นายคณิต
ยอดดำ ประธานกลุ่มเเลี้ยงผึ้งบ้านนาปรัง
เกษตรกรชาวสวนยางบ้านนาปรัง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกยท. ไว้
และเข้าร่วมการจัดอบรมโครงการส่งเสริมอาชีพกับทางกยท. กล่าวว่า ตนมีสวนยางพารา 9
ไร่ เมื่อได้เข้าร่วมการจัดอบรมโครงการส่งเสริมอาชีพกับทางกยท.
เกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้งแล้ว
ได้นำความรู้เหล่านั้นมาประกอบอาชีพและต่อยอดเป็นอาชีพเสริมให้กับตน
“ผมได้ไปอบรมโครงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพกับทางกยท.
และได้นำไปต่อยอด ซึ่งสำหรับผมตอนนี้มีการประกอบอาชีพเสริมเป็นการเลี้ยงผึ้ง
ในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 100 กว่าลัง”
นายคณิต
กล่าว และว่า
“จุดเริ่มต้นหลังจากการเข้ารับอบรมในโครงการส่งเสริมอาชีพนี้
ทางกยท. ได้นำแม่พันธุ์ผึ้งมาแจกให้กับเกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมการจัดอบรมเป็นจำนวน
5 ลัง ผมเพียงนำไปตั้งไว้ผึ้งก็เข้ามา และก็ขยายลังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ซึ่งผมตั้งลังแรกไว้ประมาณ 7 วัน โดยในหนึ่งลังนั้น สามารถเก็บน้ำผึ้งได้เป็นจำนวน
6 ขวด และนำมาจัดจำหน่ายในราคาขวดละ 700 บาท”
“หลังจากเก็บลังแรกได้
จึงตัดสินใจขยายทำลังผึ้งเป็น 100 ลัง
ทำให้ในปีนี้สามารถเก็บผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งได้ถึง 100 กว่าขวด โดยใน 1
ปีจะทำการเก็บน้ำผึ้งเฉพาะเดือน 5 ซึ่ง ณ ขณะที่เริ่มทำแรกๆ นั้นขายได้ในราคาขวดละ
600 บาท แต่ ณ ขณะนี้ เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี จึงลดราคาเหลือเพียงขวดละ 400 บาท
และโดยส่วนใหญ่จะนำมาจัดจำหน่ายให้กับชาวบ้านทั่วไป
เพราะชาวบ้านมั่นใจในคุณภาพของน้ำผึ้ง”
นายคณิต
กล่าวว่า การตลาดเป็นจุดอ่อน และเป็นปัญหาของเกษตรกร จึงอยากให้ทางกยท.
เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการหาตลาด อยากได้รับคำแนะนำเพิ่มเติม
ในกรณีที่ว่าหากมีน้ำผึ้งเยอะๆ จะสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์
และจัดจำหน่ายต่อไปได้อย่างไรบ้าง
“ที่ทางกยท.
จัดโครงการอบรมนี้ขึ้นมาในสภาวะที่ราคายางตกต่ำเช่นนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก
เพราะเดี๋ยวนี้ราคายางก็ถูก หากเราสามารถนำพื้นที่ในสวนยางที่ว่างๆ
มาใช้ประโยชน์ได้ ก็ไม่เสียหายอะไร
ถือเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับตัวเราเองไปด้วย”
เช่นเดียวกับ
นายทำนุ ทองสังข์ เกษตรกรชาวสวนยางพาราอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
ที่ได้ผ่านการจัดอบรมการส่งเสริมอาชีพมากับทางกยท. ในเรื่องเลี้ยงผึ้ง กล่าวว่า
ภรรยาได้ขึ้นทะเบียนกับกยท.ไว้ เมื่อประมาณปี 2558 - 2559
และได้เข้าร่วมโครงการจัดอบรมเพื่อส่งเสริมอาชีพกับทางกยท. นั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี
2561
นายทำนุ
เผยว่า สาเหตุที่คิดจะประกอบอาชีพเสริมขึ้น เพราะราคายางตกต่ำลง
ทำให้รายจ่ายในครอบครัวไม่เพียงพอ
“การเลี้ยงผึ้งเป็นอาชีพเสริมที่ถือว่ามีส่วนช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างมาก
เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นจำนวนมาก”
“ผลผลิตที่ได้ต่อ
1 ลังนั้นได้น้ำผึ้งประมาณ 3 ขวด โดยประมาณ ผมได้นำไปจำหน่ายในราคาขวดละ 500 บาท
แม้จะไม่สามารถสร้างผลผลิตได้ตลอดเดือน แต่ก็ยังสามารถสร้างมูลค่าต่อครั้งได้ถึง
30 ขวด ประมาณ 15,000 บาท
สามารถนำเงินในส่วนนี้มาช่วยเหลือครอบครัวได้ในช่วงที่ราคายางตกต่ำลง”
นายทำนุ
กล่าว และว่า
“รู้สึกดีมากที่กยท.
จัดโครงการนี้ขึ้น
เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยจะมีการส่งเสริมในด้านการอบรมเรื่องอาชีพเสริม
โดยส่วนใหญ่จะเป็นการอบรมเกี่ยวกับเรื่องการปลูกยางพารา
ซึ่งตอนนี้มีการส่งเสริมหลายอย่างให้เกษตรกรชาวสวนยางได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ทางกยท. ให้ความสำคัญกับเกษตรกรชาวสวนยาง”
ขอเชิญร่วมติดตามข่าววงการยางพารา
ขอเชิญร่วมติดตามข่าววงการยางพารา LINE : https://lin.ee/D4Irh1G Facebook : https://bit.ly/2YytPwR
ขอเชิญร่วมติดตามข่าววงการยางพารา LINE : https://lin.ee/D4Irh1G Facebook : https://bit.ly/2YytPwR
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น