(ชมคลิป) นราธิวาส หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำผู้สมัครจาก 3 จังหวัดภาคใต้
ปราศรัยใหญ่ที่ อำเภอ.รือเสาะ ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาให้กำลังใจแน่นสนามกีฬา
ทำให้ส่งผลติดยาวเหยียดกว่า 5 กิโลเมตร
ประพันธ์ ฤทธิวงศ์
/บก.เวปปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้
/ภาพข่าว
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ
จ.นราธิวาส นายอนุทิน ชาญวิรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
พร้อมด้วย ดร.นาที รับกิจประการ กรรมการบริหารพรรค ศุภชัย ใจสมุทร
กรรมการบริหารพรรคฯ นำตัวผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา
และนราธิวาส
ขึ้นเวทีแนะนำตัวให้กับประชาชนที่มานั่งฟังการปราศรัยใหญ่พร้อมรับฟังนโยบายของพรรคฯ
ชูประเด็นพร้อมรับแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร
เปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน ชูปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6
ตัน สร้างรายได้ปีละ 400,000 บาท โดยมีประชาชนจากพื้นที่ 3
จ.ใต้ มาร่วมต้อนรับมอบดอกไม้และถ่ายรูปกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จำนวนไม่น้อยกว่า 35.000 คน
จนแน่นสนามนำผู้สมัครจาก 3 จ.ใต้ ปราศรัยใหญ่ที่ อ.รือเสาะ ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาให้กำลังใจแน่นสนามกีฬา ทำให้รถติดในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะติดยาวเหยียดกว่า 5 กิโลเมตรเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รือเสาะ และอพปร.เทศบาลตำบลรือเสาะ ต้องทำงานอำนวยความสะดวก นานหลายชั่วโมง
จากนั้นผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยจากพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา
และนราธิวาส สลับกันขึ้นเวทีแนะนำตัวให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังนโยบายได้รู้จักพร้อมนำเสนอในสิ่งที่นโยบายพรรคมีความต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ก้าวไกลไปในทุกๆด้านทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือน
และชื่นชมในความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดรายได้และการหมุนเวียนของเงินตราให้เกิดความมั่นคงต่อประชาชนในอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการแก้ปัญหาด้านการประมง การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม
และชื่นชมในความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดรายได้และการหมุนเวียนของเงินตราให้เกิดความมั่นคงต่อประชาชนในอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการแก้ปัญหาด้านการประมง การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกุล
หัวหน้าพรรคภูใจไทย ได้ขึ้นปราศรัยนโยบายของพรรคที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
โดยการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนโดยเฉพาะยางพารา
ซึ่งทางพรรคนโยบายชัดที่จะรับที่จะทำให้ราคายางพาราสูงถึงกิโลกรัมละ 70
บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5 บาท
การยกระดับ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน
ค่าตอบแทน 2,500 – 10,000 บาท ต่อเดือน ลดอำนาจรัฐเปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงจักรกล
ทวงคืนคืนกำไรให้เกษตรกร เปลี่ยนสวนปาล์มเป็นบ่อน้ำมัน โรงไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์ม
ยางพาราระบบกำไรแบ่งปันเป้าหมายที่ กก.ละ 70
บาท แก้กฎหมายประมงเพื่อทางรอดชาวประมงไทย
ออกกฏหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้
เปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร เปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน สร้างงาน
สร้างรายได้ แก้หนี กยศ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าปรับ
ผ่อนคืนเงินต้น 10 ปี ปลอดหนี้ 5 ปี
เรียนออนไลน์ฟรีตลอดชีพ ทุกคนต้องมีโอกาสได้เรียนฟรีเท่าเทียมกัน
ซึ่งตลอดเวลาของการแถลงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้
สร้างเสียงปรบมือจากประชาชนที่มารับฟังนโยบายอยู่ตลอดเวลาเป็นระยะๆ
แต่ที่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะและสร้างรอยยิ้ม
และเสียงปรบมือด้วยความชื่นชอบของประชาชนมากที่สุดคือ
นโยบายการสร้างรายได้อย่างมหาศาลต่อครอบครัวในยามเศรษฐกิจฟืดเคือง คือการปลูกกัญชาครัวเรือนละ
6 ต้น
และเมื่อปลูกแล้วจะสามารถไปขายให้กับองค์กรภาครัฐที่จะตั้งขึ้นมา กก.ละ 70,000
บาท นำไปผสมอาหารได้ ปรุงอาหารได้
รักษาโรคได้ ป้องกันโรคได้ จะสร้างรายได้ครัวเรือนละ 400,000
บาท ต่อปี
ด้าน ดร.นาที รับกิจประการ
กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย อดีต สว.และ
สส.จ.พัทลุงในฐานะแม่ทัพของพรรคดูแลผู้สมัคร สส.ใน 14
จังหวัดภาคใต้ 50 เขต
เปิดเผยว่า ในวันนี้มีโอกาสมาพบปะกับผู้สมัคร สส.ของพรรคใน 3
จังหวัดภาคใต้ ส่งครบ 11 เขต โดยนโยบายเน้นในพื้นที่ 3
จังหวัดภาคใต้ พร้อมยกระดับภาคใต้ให้เท่าเทียมภาคกลางที่มี AEC และนโยบายการเกษตร
การศึกษา ให้เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบมาจากต่างประเทศ
ซึ่งจะต้องได้รับการยอมรับจากประเทศไทย
การเรียนฟรีทางมือถือเพื่อลดภาระของครอบครัว
และการสร้างงานให้ประชาชนในพื้นที่
การพัฒนาการท่องเที่ยว ในฝั่งอ่าวไทย การแก้ปัญหาการประมงพื้นบ้านจะต้องทะลายทุกข้อจำกัดที่เป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ในขณะนี้
เรื่องของ OTOP เรื่องของอาหาร
ผ้า และสินค้าต่างๆที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น
ต้องสร้างให้เป็นรายได้แก่ท้องถิ่นไปด้วย ในส่วนของ 3 จังหวัดภาคใต้
11 ที่นั่ง ทางพรรคได้ส่งทุกเขต
และคาดการไว้อย่างน้อย 5 เขต ถ้าประชาชนให้โอกาส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น