'ต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ วังวรดิศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย'
'ยินดียิ่งนัก แขกแก้วมาเยือน'
"เยาวชน คือ
ความหวังของชาติบ้านเมืองในทุกยุคสมัย ลูกๆ หลานๆ มาเยี่ยมวังวรดิศ
วังซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ
ได้มอบรางวัลเกียรติยศแก่ทายาทชั้นหลานของเสด็จในกรม คือ อดีตเอกอัครราชทูต
หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล ประการสำคัญที่ผู้คนกล่าวชื่นชมกันอย่างกว้างขวาง คือ
การไม่ขาย การไม่ให้เช่า
ตามที่มีผู้ติดต่อมาขอซื้อและขอเช่าเป็นจำนวนมาก แต่เป็นความแน่วแน่มั่นคงที่คุณพ่อ (ม.ร.ว.สังขดิศ) จะดำรงรักษาวังวรดิศเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และเป็นสถานศึกษาคุณธรรม วังวรดิศได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจากพระบรมวงศานุวงศ์มาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนานมากถึง ๖ แผ่นดิน
สิ่งหนึ่งที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ประทานสอนแก่ศิษย์โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยและโรงเรียนเทพศิรินทร์ คือ เรื่อง 'ความซื่อสัตย์สุจริต'
ที่ผมใคร่ขอฝากคณาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกท่านช่วยกันสืบสานขยายผล
'ความซื่อสัตย์' หมายถึงหัวใจแห่งการดำรงชีวิตของคนทุกคนบนโลกใบนี้
ผู้ใดไม่ปฏิบัติคือบาปทางใจที่ตามติดตัวไปเรื่อย
คนทุกคนต้องมีหลักศีลธรรมเป็นหลักชัยหรือเป้าหมายเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิต
จะยากดีมีจน ใหญ่โตเพียงไหน ต้องมีจริยธรรม ถือเป็นคุณสมบัติในทางบวก
เป็นคุณสมบัติควบคู่กับหลักคุณธรรม
และขาดไม่ได้จากชีวิตปุถุชนเพื่อให้เกิดความสำเร็จในการดำเนินชีวิต เช่น
ความซื่อสัตย์สุจริต ความจริงใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเป็นสุภาพชน
และความตรงไปตรงมา
รวมถึงการงดเว้นการโกหกหลอกลวง การทุจริตคดโกง ความลุแก่อำนาจ
ข่มเหงรังแกผู้คน สิ่งนี้ คือ ตัวนำสังคมสู่ความตกต่ำ สำคัญไปกว่านั้น
บรรพบุรุษไทยได้อบรมสั่งสอนเราทุกคนไว้ว่า ความซื่อสัตย์ คือ
หลักสุจริตธรรมอันนำพาคนทุกคนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เป็นที่เชิดหน้าชูตา
เป็นที่ไว้วางใจเคารพนับถือของผู้คนที่เราต้องยึดมั่นเป็นอุดมการณ์แห่งชีวิต
หาใช่ปฏิบัติในทางตรงข้าม กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ทั้งผิดพลาดและบกพร่อง
สุดท้ายแล้วพาลงเหวลงนรก"
/ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล
วังวรดิศ
๒๘ พ.ค.๖๑
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น