โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

กระบี่ โซเชี่ยลโพสต์ขอบริจาคแพมเฟิส เงิน ช่วยกัปตันเรือระเบิดกลางทะเลพีพี หลังพบยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในรงพยาบาลนาน 2 เดือนเศษ อย่างอนาถา


กระบี่  โซเชี่ยลโพสต์ขอบริจาคแพมเฟิส เงิน ช่วยกัปตันเรือระเบิดกลางทะเลพีพี หลังพบยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในรงพยาบาลนาน 2 เดือนเศษ อย่างอนาถา


 กระบี่  โซเชี่ยลโพสต์ขอบริจาคแพมเฟิส เงิน ช่วยกัปตันเรือระเบิดกลางทะเลพีพี หลังพบยังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในรงพยาบาลนาน 2 เดือนเศษ อย่างอนาถา


    เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2561ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟสบุตนาม Tan Deddaung Saepoo ได้เขียนข้อความร้องเรียน แจ้งข่าวสาร แสดงความคิดเห็นกับเพจ เสียงประชาชนคนภูเก็ต ว่า ได้ไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลกระบี่ แล้วไปเจอคนป่วยเตียงข้างๆสอบถามทราบว่าเป็นกัปตันที่ขับเรือของคิงโพไซดอน ที่ระเบิดกลางทะเลเกาะพีพี เมื่อ 2 เดือนก่อน เห็นสภาพน่าสงสารมาก สอบถามญาติที่เฝ้าไข้ บอกว่าดูแลกันไปตามยถากรรม

พร้อมโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือว่าพอจะมีหน่วยงานไหนช่วยเหลือได้บ้างค่ะ น่าสางสารมากคะ และขออนุญาตแชร์ความช่วยเหลือเผื่อมีใครจะบริจาคเป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูป หรือบริจาคเป็นเงินเล็กๆน้อยๆก็ได้ เผื่อเป็นค่าใช้จ่ายเล่าเรียนให้ลูกสาว อยู่ป 1 เลขบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ 4052538184 นายเกรียงไกร บุญศรี หลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไปก็ได้มีคนเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งมีผู้ใจบุญโอนเงินให้คนละร้อยสองร้อยตามกำลังศรัทธา 

จากการสอบถามนางสรินทร์ทิพย์ บุญศรี อายุ 43 ปี แม่ของกัปตันเรือ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดจันทบุรี มาดูแลเฝ้าไข้ลูกชาย ที่โรงพยาบาลกระบี่ มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 2 เดือนเศษ โดยสลับสับเปลี่ยนกับลูกสะใภ้ เนื่องจากลูกสะใภ้ ก็มีภาระต้องดูแลเลี้ยงดูบุตรสาว อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต การรักษาพยาบาลตอนแรกๆก็ใช้สิทธิ์ประกันสังคม จำนวน 65,000 บาท แต่หลังจากที่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเกินงบ ก็หันมาใช้สิทธิ์บัตรทอง จนกระทั้งมีผู้หญิงคนหนึ่งมาเยี่ยมไข้ญาติเตียงใกล้กับลูกชาย และเกิดความสงสารจึงได้นำเรื่องราวไปโพสต์ลงในโซเชี่ยล




และล่าสุดได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาประสานงานดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล อย่างทันท่วงที และบอกว่าลูกชายของตนยังได้รับสิทธิ์การรักษาพยาบาลจากประกันสังคมอยู่ ประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งตนก็สงสัยว่าทำไมก่อนหน้าที่จะมีการนำเรื่องราวของลูกชายตนไปโพสต์ขอความช่วยเหลือจึงไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลเลย ปล่อยให้รักษาการตามยถากรรม ทั้งที่ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่ดีกว่า สำหรับค่ารักษาพยาบาลของลูกชายตอนนี้อยู่ที่ ประมาณ 680,000 บาท ส่วนอาการโดยรวมก็ดีขึ้นตามลำดับแต่ยังไม่สามารถพูดได้


ขอบคุณข้อมูลภาพ/ข่าว/กระบี่

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น