จำนวนผู้เข้าชม

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568

นิธิยา บุญญามณี คือบุตรสาวคนโต ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เขารับหน้าที่ดูแลธุรกิจสืบทอดจาก“บิดา”

 “นิพนธ์ บุญญามณี” ตัดสินใจส่งลูกสาวคนโต นั่ง รมช.พาณิชย์

                                                           


มีรายงานว่า นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ตัดสินใจส่งบุตรคนแรกรับหน้าที่รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ในโควต้าที่ได้รับ


“ผมได้ปฏิเสธรับตำแหน่ง เนื่องจากยังติดปัญหแตหาหลายอย่าง เมื่อลูกสาวมารับตำแหน่ง ยิ่งต้องเข้าไปดูแลธุรกิจใกล้ชิดขึ้น แต่ทางพรรคยืนยันว่า ต้องการบุญญามณี จะให้ภรรยาเป็นเขาก็เกษียณแล้ว ต้องการพักผ่อน”


มีการเสนอให้สรรเพชญ บุญญามณี มาแทน แต่สรรเพชญยังต้องการทำงานในสภา ลงพื้นที่ช่วยเหลือ เป็น สส.สมัยแรก ประกอบกับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแค่ช่วงสั้นๆไม่กี่เดือน จึงส่งลูกสาวคนโตมาเป็น

นิธิยา บุญญามณี คือบุตรสาวคนโต ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เขารับหน้าที่ดูแลธุรกิจสืบทอดจาก“บิดา” 


นั่นหมายความว่า ธุรกิจที่ “ลูกสาวของนิพนธ์ บุญญามณี” ดูแล ก็คือธุรกิจของครอบครัว ที่มีต้นกำเนิดจากบิดาคือ นิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งครอบคลุมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง และธุรกิจอาหารกระป๋อง อาหารสัตว์ 

บริษัทของ นิพนธ์ บุญญามณี ที่ทำธุรกิจด้านอาหารกระป๋อง คือ บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลฟู๊ดส์ จำกัด (หรือย่อว่า SIF) ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยผลิตอาหารกระป๋องประเภทปลากระป๋องแช่น้ำมันและสินค้าประเภทอาหารสัตว์ เช่น อาหารแมว อาหารสุนัข เป็นต้น ทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก

นอกจากนี้ จากข้อมูลบัญชีทรัพย์สินของ สส. สรรเพชญ บุญญามณี (บุตรชาย) ได้แจ้งว่ามีเงินลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตแปรรูปอาหารกระป๋องหรืออาหารพร้อมรับประทานทุกชนิด โดยชื่อบริษัทปรากฏว่าเป็น “บริษัทหลักทรัพย์ สยามอินเตอร์เนชั่นแนล ฟู๊ด” ซึ่งอาจเป็นชื่อทางการที่ใช้ในเอกสารราชการหรือการลงทุน

 #นายหัวไทร

 #นิพนธ์ส่งลูกสาวนั่งรัฐมนตรี

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน มอบพวงมาลัยดอกมะลิแสดงความยินดี พลตรี สิทธิพร จุลปานะ รองแม่ทัพน้อยที่ ๑ เป็น รองแม่ทัพภาคที่ ๑(ภาพข่าว)

 ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน มอบพวงมาลัยดอกมะลิแสดงความยินดี พลตรี สิทธิพร จุลปานะ รองแม่ทัพน้อยที่ ๑  เป็น รองแม่ทัพภาคที่ ๑(ภาพข่าว)

เมื่อวันที่ 5 กันยายน  2568

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน ขอแสดงความยินดี พลตรี นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นแม่ทัพภาพที่ ๔ (ภาพข่าว)

 
 ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน ขอแสดงความยินดี พลตรี นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ ๒   เป็นแม่ทัพภาพที่ ๔


  เมื่อวันที่ 5 กันยายน  2568

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน มอบพวงมาลัยดอกมะลิแสดงความยินดี พลตรี ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจกรรมมวลชนและสารนิเทศ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก เป็น ผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)

   ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน มอบพวงมาลัยดอกมะลิแสดงความยินดี พลตรี ธนาธิป สว่างแสง รองผู้อำนวยการสำนักกิจกรรมมวลชนและสารนิเทศ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก

  เป็น ผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 (ภาพเป็นข่าว)

ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน มอบพวงมาลัยดอกมะลิแสดงความยินดี พลโท สุรเทพ หนูแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ ประสานการปฎิบัติที่ ๕ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ( อัตรา พลเอก )

  ศิริพร จงศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ผลิตรายการคืนคุณให้แผ่นดิน มอบพวงมาลัยดอกมะลิแสดงความยินดี พลโท สุรเทพ หนูแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ ประสานการปฎิบัติที่ ๕ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ( อัตรา พลเอก )


 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 (ภาพเป็นข่าว)


พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ตรวจเยี่ยม และตรวจสอบดูแลความปลอดภัย ความเรียบร้อยภายในอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานตรัง

 พ.ต.อ.อภิชัย  กรอบเพชร     รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง     ตรวจเยี่ยม และตรวจสอบดูแลความปลอดภัย ความเรียบร้อยภายในอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานตรัง 


เมื่อวันที่ 15กันยายน 2568 เวลา  14.00 น.    พ.ต.อ.อภิชัย  กรอบเพชร     รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง     ตรวจเยี่ยม และตรวจสอบดูแลความปลอดภัย ความเรียบร้อยภายในอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ของท่าอากาศยานตรัง ซึ่งทำการเปิดใช้อาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่อย่างไม่เป็นทางการ (Soft Opening) ในวันนี้ พร้อมทั้งสำรวจเส้นทางจราจรเข้า  - ออก 

     และได้พบปะพูดคุยกับ นางสาวสุรีรัตน์ ทิพย์โยธา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานตรัง เพื่อวางมาตรการแนวทางในการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้บริการให้ดีที่สุด

     ณ ท่าอากาศยานตรัง (หลังใหม่) ต.โคกหล่อ.เมืองตรัง จว.ตรัง

ดร.นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานกิจกรรมติดตามประเมินผลการพัฒนาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาในการแปรเปลี่ยนความขัดแย้งไปสู่ทางเลือก ที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

 ดร.นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานกิจกรรมติดตามประเมินผลการพัฒนาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาในการแปรเปลี่ยนความขัดแย้งไปสู่ทางเลือก ที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้









พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมายให้ ดร.นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานกิจกรรมติดตามประเมินผลการพัฒนาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาในการแปรเปลี่ยนความขัดแย้งไปสู่ทางเลือก ที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

วันศุกร์ที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ห้องประชุม ชั้น ๒ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใตดได้ให้ความสำคัญกับ การขับเคลื่อนแผนงานด้านการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในทุกมิติ เช่นเดียวมิติของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมและผู้ที่ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนของพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ เพราะนับเป็นเครื่องมือหรือกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพ

 การพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาส่งเสริมศักยภาพผู้นำในพื้นที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปกครอง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ผู้นำเด็กและสตรี บัณฑิตอาสา และผู้นำเครือข่ายภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ เนื่องจากเป็นบุคลากรที่มี ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานที่เป็นทั้ง “นักปฏิบัติ” และ “นักนโยบาย” สู่การ ปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลในพื้นที่ ด้วยการเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทักษะในการปฏิบัติงาน สมรรถนะรอบด้าน

 และมีหลักในการปฏิบัติงานที่ดี เหมาะสมกับบริบทพร้อมบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางพัฒนาพร้อมกับรัฐ ที่มีบทบาทหนุนเสริมความมั่นคงและสันติภาพในทุกมิติของจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันเป็นพื้นฐานที่ดีเป็นประโยชน์ในการพัฒนาทุกมิตินำมาซึ่งสังคมสันติสุข

ม.นราธิวาสฯ จัดโครงการ Active Youth รู้เท่าทัน ป้องกัน ต่อต้านพิษกระท่อม ขับเคลื่อนนโยบายวาระ 120 วัน พืชกระท่อม


ม.นราธิวาสฯ จัดโครงการ Active Youth รู้เท่าทัน ป้องกัน ต่อต้านพิษกระท่อม ขับเคลื่อนนโยบายวาระ 120 วัน พืชกระท่อม


 ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

(วันนี้ 5 กันยายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมอ่าวมะนาวรีสอร์ทนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ชมรมจิตอาสา ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จัดกิจกรรมโครงการ “Active Youth รู้เท่าทัน ป้องกัน ต่อต้านพิษกระท่อม” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนและชุมชนเกี่ยวกับพิษภัยของพืชกระท่อมและสารเสพติด โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)



สำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันประกอบด้วย การเสริมสร้างระบบการปรับทุกข์ผูกมิตร การให้ความรู้เรื่องโทษและอันตรายจากพิษกระท่อม การบรรยายบทบาทนักศึกษากับการป้องกันยาเสพติด รวมทั้งการประกวดแข่งขันนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดพิษกระท่อม ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์จากเยาวชนในพื้นที่

โดยการสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญาให้กับเยาวชนคือหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะกระท่อมที่ยังคงแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนี้ ช่วงเย็นยังมีการพัฒนาสัมพันธ์เครือข่าย Active Youth และการประกาศผลรางวัลการประกวด พร้อมพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วม โดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์


ทั้งนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นหนึ่งใน “วาระ 120 วัน พืชกระท่อม” ที่ชาวบ้านและภาคีเครือข่ายได้ขับเคลื่อนร่วมกัน เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ “ไม่เอาพืชกระท่อม” พร้อมสร้างแนวร่วมเยาวชนรุ่นใหม่ให้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างยั่งยืน




นายฟิรฮาน เจ๊ะโซะ นักศึกษามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า “เนื่องจากในพื้นที่ของเรายังพบการระบาดของใบกระท่อม ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนได้อย่างมาก เราจึงเล็งเห็นถึงปัญหานี้และได้จัดโครงการขึ้น โดยใช้แกนนำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งองค์การบริหารสโมสรนักศึกษา ชมรมต่างๆ โดยมีชมรมจิตอาสาเป็นหลักในการนำทีม เพื่ออบรมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายและพิษภัยของใบกระท่อม รวมถึงแนวทางป้องกัน”


“กิจกรรมที่จัดขึ้นจะมีทั้งการบูรณาการทำงานกลุ่ม เช่น การทำโปสเตอร์และอินโฟกราฟิกสื่อสารถึงโทษและภัยของใบกระท่อม พร้อมแนวทางการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนในภาคบ่ายจะเน้นการระดมไอเดีย คิดค้นนวัตกรรมหรือกระบวนการที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหากระท่อมได้จริงในชุมชน จากนั้นจึงมีการประกวดผลงาน โดยคัดเลือก 3 กลุ่มที่มีแนวคิดสอดคล้องกับการแก้ปัญหามากที่สุด พร้อมจัดทำวิดีโอเพื่อเผยแพร่แนวทางการขยายผลต่อไป”


“หากนักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องโทษและพิษภัยของกระท่อมแล้ว พวกเขาสามารถนำสื่อรณรงค์ เช่น โปสเตอร์และอินโฟกราฟิก ลงสู่ชุมชน เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ได้อย่างกว้างขวาง นวัตกรรมที่คิดค้นยังสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น เยาวชนหรือชุมชนแต่ละแห่ง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและลดผลเสียที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพและสังคม”

“ข้อเสนอแนะของเรามี 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การปราบปราม ที่ต้องเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากแม้กระท่อมจะเป็นสมุนไพร แต่เมื่อถูกนำไปผสมก็สามารถกลายเป็นยาเสพติดได้ อีกส่วนคือ การป้องกัน โดยมุ่งไปที่กลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงและเข้าถึงได้ง่าย จำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักรู้เหมือนกับกิจกรรมที่เราจัดขึ้น เพื่อให้เยาวชนปรับพฤติกรรมและห่างไกลจากพิษภัยกระท่อม”

นริศ ขำนุรักษ์’ ทิ้ง ‘ประชาธิปัตย์’ ลือหึ่งจ่อนั่งเก้าอี้ รมต.โควต้ากลุ่ม ‘ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์’ ใน ครม.เสี่ยหนู

 นริศ ขำนุรักษ์’ ทิ้ง ‘ประชาธิปัตย์’ ลือหึ่งจ่อนั่งเก้าอี้ รมต.โควต้ากลุ่ม ‘ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์’ ใน ครม.เสี่ยหนู



เมื่อวันที่ 5 กันยายน มีรายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แจ้งว่า มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต รมช.มหาดไทยและอดีต ส.ส.พัทลุง ซึ่งปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตามภารกิจ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้วเมื่อเช้าวันนี้ 


การลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ของนายนริศมีความเป็นไปได้ที่นายนริศจะไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในโควต้ากลุ่มของนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ที่นำ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งมาร่วมสนับสนุนนายอนุทิน


สำหรับสาเหตุที่นายศักดิ์ดารับตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ เนื่องจาก นายศักดา ยังเป็น สส.และเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หากไปเป็นรัฐมนตรีข้ามพรรค ข้ามขั้วในครั้งนี้อาจเปิดช่องให้มีผู้ยื่นร้องเรียนเรื่องจริยธรรม นายศักดาจึงประสานงานกับนายนริศที่มีความสนิทสนมกัน ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทน ซึ่งทั้งหมดนี้ยังขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาลและจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี


น่าสนใจสำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.ประชาธิปัตย์ พัทลุง ซึ่งเป็นลูกชายของนายนริศ ได้โหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เป็นไปตามมติพรรค ที่ให้งดออกเสียง

 #นายหัวไทร

 #โหวตเลือกนายก

 #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568

เปิดโผ ครม.หนู 1 จะมีรัฐมนตรีป้ายแดงหลายคน ประชาธิปัตย์อาจจะมีโผล้น

 เปิดโผ ครม.หนู 1 จะมีรัฐมนตรีป้ายแดงหลายคน ประชาธิปัตย์อาจจะมีโผล้น

…….


พลันที่วันมูหะมัดนอร์ มะทา บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี อันเกิดจากการเสนอของพรรคภูมิใจไทยว่า ได้รวบรวมเสียงข้างมากได้แล้ว ขอให้บรรจุญัตติเลือกนายกรัฐมนตรีเข้าสู่ที่ประชุมสภา

แน่นอนว่า คาดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย คือ อนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรค แต่ก็ยังมีความพยายามของเพื่อไทยผู้พ่ายแพ้ ทำนองดิ้นเฮือกสุดท้าย เสนอแคมเปญพิเศษ เลือก “ชัยเกษม นิติสิริ” เป็นนายกฯยุบสภาทันที ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่น่าสนว่า พรรคประชาชนจะรับฟังหรือไม่ จะกลับไปกลับมาหรือไม่ เพราะพรรคมีมติไปแล้วว่าสนับสนุนอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี

ยังไม่ทันไก่โห่ก็มีโผ “ครม.หนู 1 ”มีนายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่ง นายกรัฐมนตรี ออกมาให้ลุ้นกันบ้างแล้ว โดยอนุทินอาจจะควบรมว.มหาดไทย ส่วนรมช.มหาดไทย มีชื่อ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ลูกสาวของชาดา กลับมาอีกรอบ

ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ครั้งนี้จะได้รับโอกาสเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง นั่งรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ศุภมาส อิศรภักดี โผครั้งนี้ถูกโยกไปนั่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากเดิมอยู่กระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย

ส่วนกระทรวงที่ต้องจับตาอย่างกระทรวงคมนาคม มีชื่อ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นั่งเจ้ากระทรวง แต่เจ้าตัวยังติดใจ และสนุกกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีกิจกรรมให้สนุกมากกว่า

ส่วนนายภราดร ปริศนานันทกุล ก็มีชื่อเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง นั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ขณะที่พรรคร่วมอย่างพรรคกล้าธรรม เบื้องต้นจะได้สัดส่วนรัฐมนตรีกระทรวงเดิม คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ และได้กระทเพิ่ม คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนใครจะได้นั่งรัฐมนตรีนั้น ต้องรอการตกผลึกถึงข้อกฎหมายก่อน แต่กระทรวงเดิม ศึกษาธิการ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ยังคงอยู่ที่เดิม เช่นเดียวกับอรรถกร ศิริลัทธยากร ยังต้องสานต่องานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

มีคำถามว่า รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะนั่งตำแหน่งบริหารด้วยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาข้อกฎหมาย และความกล้าของอนุทิน

ว่าจะกล้าเสนอชื่อ รอ.ธรรมนัสหรือไม่ รวมถึงเมื่อได้โควต้ารัฐมนตรีเพิ่มมาจะใส่ใครเข้าไปให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พรรค

พรรครวมไทยสร้างชาติ กลุ่มสุชาติ ชมกลิ่น มีโอกาสนั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่สุชาติอยากกลับไปก.แรงงาน แต่ก.แรงงานฯมีแรงต้านสุชาติอยู่ไม่น้อยจากพรรคประชาชน

นายศักดา วิเชียรศิลป์ สส.พรรคเพื่อไทย ที่ขนสส.เพื่อไทย เข้าร่วมรัฐบาล 8 คน คาดว่า จะได้รัฐมนตรี 1 เก้าอี้ตามความเหมาะสม

พรรคประชาธิปัตย์ที่นิพนธ์ บุญญามณี หอบหิ้วชื่อ สส.ไปตั้งแต่วันแรก แม้จำนวนจะไม่มากแค่ 3-4 คน แต่เชื่อว่า จะได้โควต้ารัฐมนตรีตอบแทน 2-3 คน เพื่อเป็นกลไกไว้ขับเคลื่อนพรรค เพราะอนาคต สส.ประชาธิปัตย์กลุ่มนี้ส่อว่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ก็เหมือนเป็นรัฐมนตรีในโควต้าภูมิใจไทยนั้นแหละ อย่างน้อยก็ต้องมีชื่ิอ สส.สงขลา ได้เข้าประกวดแน่ๆ

นอกจากนี้ ยังมีในสัดส่วนโควตากลาง 3 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะเป็นสัดส่วนโควตาคนนอก

ทั้งนี้ กระทรวงที่น่าจับตามองอย่างกระทรวงยุติธรรม เชื่อว่า จะเป็นโควตาของพรรคภูมิใจไทย

โผนี้อยากให้จับตา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.อาจจะเข้าวินก็เป็นได้นะ

 #นายหัวไทร

 #โผครม

 #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน

ชาวบ้านตำบลกะลุวอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผนึกกำลังเปิด “ปฏิบัติการ วาระ 120 วัน ไม่เอาพืชกระท่อม” ติดป้ายรณรงค์งดการซื้อขาย–ใช้พืชกระท่อม สร้างผลกระทบต่อชุมชน


ชาวบ้านตำบลกะลุวอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผนึกกำลังเปิด “ปฏิบัติการ วาระ 120 วัน ไม่เอาพืชกระท่อม” ติดป้ายรณรงค์งดการซื้อขาย–ใช้พืชกระท่อม สร้างผลกระทบต่อชุมชน

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 

วันนี้ (4 กันยายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสายนูดิน มามุ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอำนวยความเป็นธรรม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส องค์การบริหารส่วนตำบล ตำรวจในพื้นที่ ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการรณรงค์ “พวกเรารวมพลังไม่เอาพืชกระท่อมที่ทำให้มึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด”


ป้ายรณรงค์ดังกล่าวถูกนำมาติดตั้งที่บริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองนราธิวาส–ตากใบ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียใช้ผ่านเข้าสู่อำเภอเมือง โดยก่อนหน้านี้เคยมีการซื้อขายน้ำกระท่อมบริเวณดังกล่าว แม้จะมีเพียงไม่กี่ร้าน แต่ปัจจุบันไม่มีการขายแล้ว

นายแวอาแซ สือแม รองนายกนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ เปิดเผยว่าในฐานะตัวแทนทีมงานท้องถิ่น ซึ่งทำหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด เดิมทีเราได้จัดอบรมตามแต่ละหมู่บ้านประมาณ 5 ครั้ง แต่ระยะหลังผลลัพธ์ไม่ค่อยเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ


วันนี้ที่ได้เห็นการรวมพลังต่อต้านพืชกระท่อม ถือเป็นเรื่องที่ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการทำงานด้านนี้หากมีความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น ศาสนา และประชาชน ผมเชื่อว่าจะเกิดผลสำเร็จในอนาคต ถึงแม้จะยาก แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจของแต่ละคนว่าจะตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด หากพยายามร่วมมือกันจริงจัง วันหนึ่งเราจะเห็นผลอย่างแน่นอน


สำหรับในตำบลกะลุวอส่วนใหญ่ยังมีการปลูกต้นกระท่อมอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก ที่ปลูกไว้ส่วนใหญ่ใช้เป็นยาสมุนไพร ส่วนที่วัยรุ่นนิยมดื่มน้ำกระท่อม มักมาจากออเดอร์ภายนอก ไม่ได้แพร่หลายมากในพื้นที่


วันนี้ฝ่ายปกครอง อบต. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายบริหาร และผู้นำศาสนา ได้ร่วมกันรณรงค์เพื่อไม่ให้มีการปลูกและการใช้กระท่อมในพื้นที่ จึงอยากขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวตำบลกะลุวอทุกท่าน หลังจากนี้เราจะไม่ใช้กระท่อม เพื่อสร้างพื้นที่ที่ปลอดจากพืชเสพติด

ผมมั่นใจว่าการรณรงค์ครั้งนี้จะเห็นผล แม้อาจไม่มาก แต่ก็จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ หากพวกเราทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจัง เราต้องการเห็นเยาวชนในพื้นที่ได้รับการยอมรับจากสังคม และสร้างชุมชนที่ปลอดจากกระท่อมและยาเสพติดทุกรูปแบบ ซึ่งสิ่งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

โฆษณา


วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้