พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม ย้ำ ร่วมบูรณาการ ทุกภาคส่วน ฟื้นฟูศาสนสถาน และที่อยู่อาศัย ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (มีคลิป)
ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.เดลิมิเร่อร์@ปลายด้ามขวานชายแดนใต้/ภาพข่าว
(ชมคลิป) เสียงสะท้อน จากผู้ประสบอุทกภัย น้ำท่วม พื้นที่ หมู่6 บ้านบากง ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ
จังหวัดนราธิวาส เล่าถึง นาทีระทึก เหตุการณ์ และได้เสนอความต้องการ ขอความอนุเคราะห์ ในการช่วยเหลือ จาก .พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในโอกาสที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยี่ยน ให้กำลังใจ
ผุ้ประสบอุทกภัย เมื่อวันที่ 1
มกราคม
2567 ณ
วัดทรายทอง ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ที่ผ่านมา
พันตำรวจเอก ทวี
สอดส่อง ย้ำ ร่วมบูรณาการ ทุกภาคส่วน ฟื้นฟูศาสนสถาน
และที่อยู่อาศัย ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้.ร่วมกับกรมราชฑัณฑ์ เปิดปฏิบัติการฟื้นฟูศาสนสถาน ที่อยู่อาศัย บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
เมื่อวันที่1
มกราคม 2567ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมปฏิบัติการฟื้นฟูศาสนสถาน
ที่อยู่อาศัยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้พร้อมมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุกทภัยในพื้นที่
หมู่7 ตำบล ปะลุกาสาเมาะ อำเภอ บาเจาะ จังหวัด นราธิวาส และ
โรงเรียนบ้านประชาพัฒนา หมู่ 2 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัด นราธิวาส
โดยได้บูรณาการร่วมกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จังหวัด อําเภอ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ เครือข่ายภาคประชาชนจิตอาสา
ในการช่วยเหลือฟื้นฟูศาสนสถาน และที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย
ทั้งนี้ ภายในงานมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์ สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ บุคลากร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เครือข่ายบัณฑิตอาสาฯ และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่เข้าร่วม
ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และแผ่นดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ วันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งในด้านชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก
ซึ่ง บัดนี้ ปริมาณฝนเริ่มลดลง และสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่สภาพความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้รับการประสานงานจากศูนย์อำนวยการบริหาร ชายแดนภาคใต้ ให้ร่วมบูรณาการกับ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายภาคประชาชน เปิดปฏิบัติการ ฟื้นฟูศาสนสถาน และที่อยู่อาศัย ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์
พร้อมผู้ต้องขังกองนอก เข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักในรอบ
50 ปี ในการเก็บกวาด ทำความสะอาดสถานที่ที่ได้รับผลกระทบ
พร้อมทั้งได้จัดเตรียมถุงยังชีพ อาหารแห้ง น้ำดื่ม
เพื่อมอบให้แก่ครัวเรือนผู้ประสบภัย
ต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 15.30 น. พ.ต.อ.ทวี
สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และคณะ ประกอบด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ
นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขาธิการ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรม นายธนาวิทย์
ไชยานุพงศ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ พร้อมด้วยนายสหกรณ์ เพ็ชรนรินทร์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง รอง เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายวีรพัฒน์ บุญฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก องค์การบรินราธิวาส
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาเยี่ยมเยี่ยนให้กำลังใจ
และมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ
วัดทรายทอง บ้านบากง หมู่ 6
ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
โดยมี นายซูปิยัน แคเมาะเล็ง นายอำเภอรือเสาะ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ หมู่บ้าน บากง นาโอน ท่าเรือ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้
ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม ครั้งนี้ ได้ เล่าถึงเหตุการณ์
และความต้องการ ในการช่วยเหลือ จาก .พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
อีกด้วย
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เกิดภัยภิบัติซึ่งถือว่าเป็นภัยภิบัติที่หนักในรอบ 50 ปี ความทุกข์ของประชาชนก็เป็นความทุกข์ของรัฐบาล การจัดโครงการในวันนี้เป็นการปฏิบัติฟื้นฟู ศาสนสถานที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัย ซึ่งศาสนสถานทั้งมัสยิดและวัด ถือว่าเป็นสมบัติร่วมกัน วันนี้ กรมราชทัณฑ์ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น
โดยมีการนำผู้ต้องขังมาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย แม้ขณะนี้ภาพรวมสถานการณ์ระดับลดลงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมาฟื้นฟูให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ในนามของรัฐบาลจะรวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟู และเร่งเข้ามาดูแลต่อไป
สำหรับ
พื้นที่ของอำเภอรือเสาะมีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ รวม 8,356
คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 52 หลัง เสียหายบางส่วน 1,209
หลัง วัด/มัสยิด 13 แห่ง โรงเรียน 15 แห่ง
สะพาน/คอสะพาน 15 แห่ง ถนน 66 สาย
การให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพและปัจจัยช่วยเหลืออื่น
อำเภอรือเสาะร่วมกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน และภาคประชาชนได้สนับสนุนอาหารปรุงสุก ข้าวกล่อง น้ำดื่ม
ถุงยังชีพมอบให้แก่ครัวเรือนผู้ประสบภัยในพื้นที่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น