12 พฤศจิกายน วันชี้ชะตาเลือกตั้งตัวแทนเกษตรกรในกองทุนฟื้นฟูฯ ใครกวาด 15,000 คะแนนมีสิทธิ์เข้าวิน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้จะมีการเลือกตั้งตัวแทนเกษตรกร ในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) แทนชุดเก่าที่หมดวาระลง ซึ่งผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเป็นการกำหนดไว้เฉพาะเกษตรกรที่เป็นสมาชิก กฟก.เท่านั้น เกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง
นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล อดีตรองประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ตามที่กฎกระทรวงกำหนด ให้มีการเลือกตั้งกรรมการผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) โดยมีผู้แทนเกษตรกรจำนวน 20 คน จัดตามสัดส่วนเกษตรกรสมาชิก ที่่มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 5,267,720 คน ซึ่งแบ่งผู้แทนเกษตรกรได้ดังนี้ ภาคเหนือมีผู้แทน 5 คน ภาคกลาง 4 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 คน และภาคใต้ 4 คน
สำหรับบทบาทหน้าที่ของผู้แทนเกษตรกรที่มาจากการเลือกตั้งมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอความเห็นต่อรัฐบาลในการดูแลจัดการปัญหาหนี้สิน รวมทั้งการฟื้นฟูพัฒนาอาชีพเกษตรกรทั่วประเทศ ผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับการเลือกตั้งจะเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายทั้งด้านหนี้สินและการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร เพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรต่อไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อสรรหาตัวแทนเกษตรกรที่มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่ดังกล่าว จึงขอเชิญชวนให้สมาชิกกองทุนฟื้นฟู เข้าคูหา
นายวงศ์วริศ์ วงษ์จันทร์ ผอ.สำนักการจัดการหนี้ฯ ประกาศรายชื่อผู้แทนที่เข้าร่วมสมัคร ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 127 คน มีใครบ้าง พร้อมเบอร์หมายเลขบอร์ดกองทุนฟื้นฟู มีใครบ้าง พร้อมคำแนะนำ ก่อนวันเลือกตั้ง ขอให้สมาชิกตรวจสอบรายชื่อจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ที่ว่าการอำเภอ/เขต หรือ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัด หากตรวจสอบแล้วไม่พบรายชื่อ ขอให้ติดต่อที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดที่ท่านขึ้นทะเบียนรายชื่อไว้
แต่จากการตรวจสอบพื้นฐานเกษตรกรสมาชิกเพียงส่วนน้อยที่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งตัวแทนเกษตรกร ในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ หน่วยงานจัดการเลือกตั้งควรเร่งประชาสัมพันธ์ และแจ้งสมาชิกกองทุนให้ออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ได้ตัวแทนเกษตรกรอย่างแท้จริงเข้าไปทำงานในกองทุนฟื้นฟูฯ และผู้สมัครเองก็ต้องเร่งเดินหน้าแนะนำตัว พร้อมนโยบาย และเชิญชวนเกษตรกรสมาชิกออกไปใช้สิทธ์เลือกตั้ง
จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า เกษตรกรสมาชิกออกไปใช้สิทธ์กันค่อนข้างน้อย ประมาณ 20% ต้นๆ อันเป็นการสะท้อนว่า การประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง และกว้างขวางพอ หรือการตื่นตัวของเกษตรกร ยังไม่พอสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯในฐานะผู้จัดการเลือกตั้งควรเร่งมือเชิญชวนเกษตรกรสมาชิกให้มากกว่านี้ เจ้าหน้าที่รัฐเองก็ควรวางตัวเป็นกลาง เพราะ #นายหัวไทร ทราบว่า นายอำเภอบางอำเภอวางตัวไม่เป็นกลาง
กล่าวสำหรับภาคใต้มีผู้สมัครมากถึง 23 คน มีคนที่เคยเป็นกรรมการเก่าลงสมัครถึง 8 คน นับเป็นการแข่งขันในสนามเกษตรกรที่ดุเดือดอีกสนามหนึ่ง และจากการประเมินคร่าวๆกับข้อมูลที่ไม่มากนัก คะแนนน่าจะกระจุกตัวอยู่กับผู้สมัครที่เป็นกรรมการเก่า 8 คน เพราะมีชื่อเป็นที่ปรากฏอยู่แล้ว ส่วนหน้าใหม่คงต้องใช้ความพยายามอีกมาก
การเลือกตั้งตัวแทนเกษตรกรในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู หาเสียงพื้นที่มากกว่า สส.เยอะ เพราะต้องหาเสียงครอบคลุมทั้งภาค ภาคใต้ก็ทั้ง 14 จังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก แต่ด้วยผู้มีสิทธิ์ไม่มาก นายหัวไทรประเมินว่า ใครมีคะแนนถึง 15,000 คะแนน ก็น่าจะเข้าวินแล้ว
สมมติว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธ์ 25% กับจำนวนผู้มีสิทธิ์ในภาคใต้ 1,000,000 คน (ตัวเลขกลมๆ) ก็จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ประมาณ 250,000 คน ถั่วเฉลี่ยของคะแนนก็จะอยู่ที่ 10,000 ต้นๆด้วยซ้ำไป แต่เพื่อความชัวร์ ผู้สมัครที่หวังผลชนะ จะต้องทำคะแนนให้ได้ 15,000 คะแนน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น