โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2566

“นายหัวสิทธิ์” เปิดตัวลงชิง ส.ส.โซน “ชะอวด-จุฬาภรณ์” ชน “อาญาสิทธิ์” คนที่เคยสนับสนุน(มีคลิป)

 “นายหัวสิทธิ์” เปิดตัวลงชิง ส.ส.โซน “ชะอวด-จุฬาภรณ์” ชน “อาญาสิทธิ์” คนที่เคยสนับสนุน(มีคลิป)

…..


ได้เจอกับนายสิทธิรัก ทิพย์อักษร หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “ นายหัวสิทธ์” ในวันที่ผมลงไปปลูกจากในป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งนายหัวสิทธิ์เป็นคนหนึ่งที่ให้การสนับสนุนโครงการ “หิ้วชั้น แบกจอบ ไปปลูกจาก” และร่วมกิจกรรมปลูกจากจนจบสิ้น


นายหัวสิทธิ์ ถ้ามองจากภาพลักษณ์ภายนอก เขาน่าจะคือชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ไว้ผมยาว ไว้หนวด ไว้เครา ไม่พิถีพิถันกับการแต่งตัว แต่ลึกๆแล้ว นายหัวสิทธิ์ เขาเป็นนักธุรกิจในวงการอสัง

หาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างครบวงจรรายใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ เมื่อธุรกิจลงตัว เขาย้อนกลับมาดูแลบ้านเกิด มองเห็นปัญหามากมาย เขาจึงไม่นิ่งนอนใจ ด้วยการเริ่มต้นก่อตั้ง “ชมรมสำนึกรักษ์บ้านเกิด” ไฟไหม้ น้ำท่วม โควิด ทุนการศึกษา ส่งเสริมกิจกรรมกีฬา เป็นภารกิจที่เข้าทำ และยังมีอีกมากมาย

นายหัวสิทธิ์ เปิดเผยกับ #นายหัวไทร ว่า ชมรมสำนึกรักษ์บ้านเกิด มีภารกิจในการอนุรักษ์ป่า ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ช่วยเหลือเกษตรกร ชาวบ้าน ทุกปัญหาเราไม่ได้นิ่งเฉย ต้องยื่นมือเข้าไปช่วย นอกเหนือจากการช่วยเหลือจากภาครัฐ เราเป็นส่วนของชาวบ้านจับมือกัน ร่วมแรงร่วมใจกัน ที่ผ่านมาก็ทำหลายอย่าง น้ำท่วม ไฟไหม้ โควิดระบาด การส่งเสริมการเล่นกีฬา

“เราทำมาหลากหลายมาก ส่งเสริมคนดีให้มีความก้าวหน้า เยาวชนเราก็ให้ทุนการศึกษา ผมไม่ได้ถือว่าชะอวดคือบ้านเกิด แต่บ้านเกิดผมคือประเทศไทย ตรงไหนเดือดร้อนผมก็เข้าไปช่วยเหลือ”


นายหัวสิทธิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เพิ่งไปสร้างโรงเรียน ตชด.ที่เชียงใหม่ด้วยทุนส่วนตัวเกือบสองล้านบาท ใครเดือดร้อนอะไร เราก็จะมาพิจารณาเพื่อให้การช่วยเหลือ”


นายหัวสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่คิดว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำยังมีอีกมาก สรรหามาเป็นคำพูดยาก

“ผมอยากสร้างความสุขให้กับตัวผมเอง อยากมีความสุขมากๆ ตอนนี้ก็มีความสุขระดับหนึ่ง แต่อยากเห็นคนอื่นมีความสุขด้วย ผมจะมีความสุขมากๆ ถ้าเห็นพี่น้องของผมมีความสุข”


สิทธิรัก กล่าวอีกว่า ภารกิจต่อไปที่ตั้งใจจะทำ คือการเป็นตัวแทนของชาวชะอวดในภาคการเมือง 

“ที่ผ่านมาผมก็ช่วยเหลือทุกคน แต่ไม่ได้ดั่งใจเท่าที่ควร จึงปรึกษาหารือกับทีมงาน และตัดสินใจลงสมัครเอง”


ทั้งนี้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา สิทธิรัก ให้การสนับสนุน อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ในการเลือกตั้งซ่อม และอาญาสิทธิ์ ก็ชนะการเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ ส่วนสิทธิรัก เสนอตัวลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ รอ มติจากพรรค แต่ไม่น่ามีปัญหา จะสับหลักกันกับพงศ์สิน เสนพงศ์


กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งในโซนชะอวด จุฬาภรณ์ เฉลิมพระเกียรติ จุฬาภรณ์ พระพรหม มีอาญาสิทธิ์ เป็น ส.ส.อยู่ ในนามพรรคพลังประชารัฐ คู่แข่งที่ปรากฏตัวขัดแล้ว มี “ณัฐกิตติ์ หนูรอด” จากพรรคภูมิใจไทย ที่เวลานี้ถือว่าเป็นคู่แข่งเต็งหนึ่งอยู่ มีสิทธิรัก ทิพย์อักษร จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และถ้าแบ่งเขตชัดเจนแล้ว ร่อนพิบูลย์บางส่วนมาอยู่เขตนี้ด้วย “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.ประชาธิปัตย์ อาจจะมาลงเขตนี้ด้วย ให้ยุทธการ รัตนมาศ ไปลงโซนหัวไทร-เชียรใหญ่


สิทธิรัก เคยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวทะเลใต้TV.ตอนหนึ่งว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สนับสนุน ส.ส.คนปัจจุบันทุกคนแสดงเจตนาหันมาให้การสนับสนุนตนในการลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตอำเภอ ชะอวด จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเชียรใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับ ส.ส.ที่พวกเขาลงมติถอนการสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจึงได้ทำการเปิดตัวต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้ง เพื่อแสดงความตั้งใจในการทำงานการเมือง


 ศูนย์ข่าวทะเลใต้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิทธิรัก ทิพย์อักษร เปิดตัวโดยชูจุดขายความเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ มีจิตอาสา เติบโตมาจากพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน แต่เป็นผู้มีความมุมานะในการศึกษาเล่าเรียนจนสำเร็จปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและประกอบสัมมาชีพทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จและมีฐานะมั่นคงนอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 15 ปีของการดำเนินธุรกิจ นายสิทธิรัก ยังได้รวมกลุ่มเพื่อนๆ ก่อตั้งโครงการ”สำนึกรักบ้านเกิด” ทำกิจกรรมโครงการจิตอาสาไปสู่ครอบครัวและเยาวชนที่ยากจน ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารโดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งมีโรงเรียน ตชด.ตั้งอยู่ทั่วประเทศในนามโครงการคาราวาน “พี่ให้น้อง”


ซึ่งนอกจากจะนำเครื่องอุปโภค บริโภค อุปกรณ์กีฬา ฯลฯ ไปมอบให้แล้ว ยังได้ร่วมกันจัดสร้างอาคารเรียนถาวรให้ในหลายพื้นที่อีกด้วย โดยเขาให้เหตุผลว่าเป็นเพราะตนเองเป็นเด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน เมื่อมีโอกาสจึงอยากจะแบ่งปันและพยายามสร้างโอกาสให้กับทุกคน เช่นเดียวกับตนที่ได้รับโอกาสจากการได้มาอาศัยหลับนอนกินอยู่ในอาคาร “รักเมืองไทย” ที่โรงเรียนวัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จนเกิดแรงบันดาลใจที่รู้สำนึกและตอบแทนคุณแผ่นดินตามปณิธานของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิรักเมืองไทยที่ตนจดจำฝังใจมาตั้งแต่วัยเด็กจนปัจจุบัน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น