“กฤษณ์ สุริยผล” เด็กหนุ่มไฟแรง ขันอาสารับใช้ชาว “บางกอกน้อย-ตลิ่งชัน” ในนามชาติพัฒนากล้า (ขมคลิปสัมภาษณ์)
…
คลิปสัมภาษณ์
ได้เจอกับ “กฤษณ์ สุริยผล”
ที่คุ้นเคยกันแต่ในสื่อโซเชี่ยล
แต่ได้เจอกันในงานแถลงข่าวการจัดมวยมหากุศลของสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ
จึงได้เวลาตั้งวงสนทนากัน
แน่นอนว่านักการเมืองต้องบอกว่ากระแสตอบรับดี
แต่ประเด็นคำถามของ #นายหัวไทร คือทำไมต้องเป็นชาติพัฒนากล้า
ทำไมไม่เป็นประชาธิปัตย์ ในฐานะเคยทำงานร่วมกับประชาธิปัตย์มายาวนาน
เป็นเลขาฯองอาจ คร้ามไพบูลย์
“ผมติดตามแนวคิดของคุณกรณ์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง
เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนค่าการกลั่น ซึ่งผมอยู่ในวงการขนส่งมานาน
เรียกร้องเรื่องน้ำมันแพงมาพอสมควร ประกอบกับแนวคิดเรื่องการปลดล็อกแบล็คลีสต์
ยูโร เพื่อเปิดทางให้คนเข้าถึงเงินทุน หลายอย่างคิดตรงกันกัน
จึงตัดสินใจไปอยู่กับท่านกรณ์”
กฤษณ์ ยังบอกว่า
เหตุผลอึกอย่างคิดเขตบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน ประชาธิปัตย์เขามีคนอยู่แล้ว
เราเขาไปเบียดยาก จึงหาพรรคใหม่ดีกว่า ตอนแรกก็ไปกับพรรคกล้า
แต่เมื่อคุณกรณ์มาอยู่กับพรรคชาติพัฒนากล้าจึงตามมาด้วย
ถามว่าทำไมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งที่นครศรีธรรมราชบ้านเกิด
และเขตบ้านเกิด ส.ส.เก่าก็ไม่แข็งนัก ผู้สมัครหน้าใหม่ก็ยังมือไม่ถึง
คำตอบที่ได้คือ ถ้าผมได้ลงสมัครที่บ้านเกิด โซนเชียรใหญ่ หัวไทร ผมจะชอบมาก
แต่ในช่วงนั้นหันซ้ายมองขวา ไม่รู้จะเข้าทางใครกับพรรคไหน จึงเดินเข้าหาคุณกรณ์
และได้รับมอบหมายให้ลงสมัครเขตบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นเขตที่คุ้นเคย
ทำงานในพื้นที่มานาน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียง
แทนพี่น้องประชาชนผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับผลกระทบจากโครงการนโยบายของภาครัฐ
ผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์คือเรื่องการก่อสร้าง-ซ่อมถนนพระราม2
ซ่อมสร้างไม่แล้วเสร็จ ทำให้รถติดและก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ใช้ถนน
จนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทั้ง3ท่านรีบลงพื้นที่เร่งรัดให้การก่อสร้างเสร็จโดยเร็วสื่อออกข่าวติดต่อกันหลายวัน
ขนาดนามว่าเป็นถนน 7 ชั่วโคตร 2
เรื่องที่2เรื่องน้ำมันแพงเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลหน้ากระทรวงพลังงานและทำเนียบรัฐบาลในที่สุดรัฐบาลตรึงราคาขายไม่เกินที่35บาทต่อลิตร
“หลังจากที่ได้ลงพื้นที่นั่งเรือคลองบางกอกน้อย
คลองตลิ่งชัน คลองบางพรม คลองมอญ
ต้องการเห็นความเจริญก้าวล้ำทัดเทียมกับนานาประเทศที่ได้รับการพัฒนาเป็นรูปธรรมมากว่าการพูดหรือที่เรียกกันว่า
“พูดมากกว่าทำ” แต่เราต้องการให้ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำตลิ่งชัน
ตลาดน้ำวัดสะพาน เป็นจุดเช็คอินท่องเที่ยวครับ”
กฤษณ์ ยังอธิบายว่า อยากจะเติมต่อสานแนวคิดผ่านการเดินทางเยี่ยมชมตลาดน้ำตลิ่งชัน พบปะประชาชน และตามบ้านริมคลองบางกอกน้อย ชมพิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี สืบสานงานศิลป์ผ่านการแกะสลักลวดลายที่งดงามผ่านจิตรกรกรมศิลป์ ต่อด้วยการนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ผ่านคลองบางกอกน้อย เส้นทางสายน้ำ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมย่านฝั่งธน เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือสัมผัสกลิ่นอายคนริมคลองที่เปรียบได้กับเวนิชเมืองไทยคนทั่วโลก
ได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนคนริมคลอง
และพร้อมที่จะผลักดันให้นักท่องเที่ยวได้เปิดใจสัมผัสความเรียบง่ายของคนไทยผ่านการท่องเที่ยว
กิน ชอป นั่นหมายความว่ามาที่เดียวได้ครบจบที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
หรือตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นการสร้างจุดกึ่งกลางการค้า นั่งเรือ ขึ้นรถ ชอปชิม
พักบ้านโฮมสเตย์ที่ล้อมรอบไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและวิถีชีวิตเรียบง่ายของนักท่องเที่ยว
เพราะเราเชื่อมั่นว่า “มิตรภาพที่ดี
เริ่มที่เราเป็นคนคิดกำหนดผลักดันให้เป็นนโยบาย การเดินทางสะดวก สบาย
ปลอดภัย รถ เรือ
รางเชื่อมโยงไร้รอยต่อบัตรโดยสารบัตรเดียวเที่ยวได้ตลอดวันครับ
นี้เป็นวิสัยทัศน์ของ “กฤษณ์ สุริยผล”
หนุ่มใต้แดนสะตอที่มาเติมโตอยู่ในเมืองหลวง และผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมามากพอ
ถึงเวลาจึงตัดสินใจกระโดดลงสู่สนามเลือกตั้งด้วยตัวเองกับพรรคชาติพัฒนากล้า
แพ้-ชนะ
อยู่ที่ประชาชนว่าเดินเข้าสู่คูหาแล้วจะกาให้ใคร หรืออาจจะกาให้ “กฤษณ์ สุริยผล”
เข้าไปทำหน้าที่แทนในสภา ก็เป็นได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น