โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เบื้องหลัง นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ ได้เข้ารับตำแหน่ง นอภ.เมืองสงขลา ท่ามกลางกระแสคัดค้านทางโซเซียล

 เบื้องหลัง นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ ได้เข้ารับตำแหน่ง นอภ.เมืองสงขลา ท่ามกลางกระแสคัดค้านทางโซเซียล 



    (ชมคลิป) ผอ.สัญญา  วัชรพันธุ์ เครือข่ายภาคประชาชนคนสงขลา/ที่ปรึกษาสมาพันธ์ไทยพุทธ จชต.ให้สัมภาษณ์กรณี นายอำเภอวิชาญรับตำแหน่ง นายอำเภอเมืองสงขลา ท่ามกลางกระแสคัดค้านทางโซเซี่ยล


      ประพันธ์  ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน@ ชายแดนใต้/รายงาน  

 

  เมื่อวันที่26 พฤศจิกายน 2565 ภายหลังมีการเผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยที่ 2899/2565 ลงวันที่ 15 พ.ย. 65 โดยมีสาระสำคัญให้ "นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์" นายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่ง นายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อ.เมือง จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 65 เป็นต้นไปนั้น  ท่ามกลางกระแสคัดค้านทางโซเซียล 

     ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวถูกส่งต่อๆ กันในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะกลุ่มไลน์ และเฟซบุ๊กต่างๆ ของคนสงขลา ส่งผลให้หลายภาคส่วนในจังหวัดมีความรู้สึกไม่ดีนัก และไม่ตอบรับคำสั่งย้ายครั้งนี้ เนื่องจากหลายคนทราบดีว่า นายวิชาญ เคยถูกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ร้องเรียนถึงพฤติกรรมบางอย่าง และเรียกร้องให้ย้ายออกจากพื้นที่ ในช่วงเดือน เม.ย. 65 ซึ่งทางอธิบดีกรมการปกครอง ก็มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง

 


      อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 65 อธิบดีกรมการปกครองมีคำสั่งให้ไปรับตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส เช่นกัน แต่ถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่อีกครั้ง และมีกระแสเรียกร้องให้โยกย้ายออกนอกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีการชะลอคำสั่งที่ให้ไปรับตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดีเอาไว้ก่อน

 



         กระทั่งล่าสุดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ไปรับตำแหน่งใหม่เป็นอำเภอเมือง จ.สงขลา ในวันที่ 28 พ.ย. 65   ส่งผลให้ประชาชนและข้าราชการในพื้นที่ต่างมีความรู้สึกและแสดงออกร่วมกันในมุมที่ไม่พอใจอย่างชัดเจน พร้อมทั้งได้มีการแสดงความคิดเห็นขับไล่ในโซเซียลมีเดีย เพื่อคัดค้านนายอำเภอคนใหม่

 

         ขณะเดียวกัน   คนสงขลายินดีต้อนรับ​ นายวิชาญ​ ชัยเศรษฐสัมพันธ์​ เป็นนายอำเภอคนใหม่​ คนสงขลายินดีต้อนรับ​ นายวิชาญ​ ชัยเศรษฐสัมพันธ์​ เป็นนายอำเภอคนใหม่​

   ในฐานะคนสงขลาและในนามเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน​ จ.สงขลา​ ได้ตรวจสอบประวัติและผลการทำงานของ  นายวิชาญ​ ชัยเศรษฐสัมพันธ์​ ผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่ง​ นอภ.เมือง​ จ.สงขลา​ คนใหม่​  ในวันที่​ 28​ พฤศจิกายน​ 2565​ นี้แล้ว​ สรุปได้ว่า

   1.เป็นคนดี​ มีความร้​​ู​ มีความสามารถ​ เคยมีผลงานดีเด่นระดับจังหวัดและระดับประเทศ​ มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี​

   2.การที่เคยถูกร้องเรียนสมัยที่เป็น​ นอภ.รือเสาะนั้น​ กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบมีข้อยุติแล้ว​ สรุปว่า​ ไม่มีความผิด

  3.การที่ถูกย้ายด่วนออกจากพื้นที่​ อ.รือเสาะ​นั้น เป็นเพียงเพื่อการแก้ปัญหาป้องกันเหตุร้ายรุนแรงเฉพาะกิจ​ ตามระเบียบของทางราชการ

  4.เรื่องที่ถูกร้องเรียนนั้น​ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความเห็นต่างของผู้นำศาสนาอิสลามและการเมืองในท้องถิ่น​บางส่วน เพราะมีส่วนหนึ่งที่เคยไปแสดงความชื่นชมยินดี​ และมีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่พึงพอใจ​ จึงได้รวมรายชื่อร้องเรียน​ ซึ่งทางราชการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกันไปแล้ว

  5.คนดั้งเดิมในพื้นที่​ อ.เมือง​ จ.สงขลา​ ไม่เคยมีปรากฏความคิดต่างหรือขัดแย้งทางศาสนาพุทธและอิสลามหรือทุกศาสนา​ ทุกคนอยู่ร่วมกันมาแบบญาติพี่น้องอย่างสันติสุข​ จึงเห็นควรเปิดโอกาสให้​ข้าราชการ (นอภ.)​ ซึ่งเป็นคนหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถได้เข้ามาทำงาน​  เปลี่ยนจากการที่เมืองสงขลารอรองรับแต่ข้าราชการสูงอายุหรือมาตามเส้นสาย

   6.ในฐานะที่เมืองสงขลาเป็นบ้านเกิดของ​ พล.อ.เปรม​ ติณสูลานนท์อดีตประธานองคมตรีและรัฐบุรุษ​ และท่านอาศิส  พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี​ ผู้เป็นปูชนียบุคคลสำคัญของเมืองสงขลาและประเทศไทย  ซึ่งเสมือนแสดงถึงสัญลักษณ์แห่งความมีคุณธรรมของเมืองสงขลา​

    ประกอบกับเมืองสงขลาเป็นเมืองที่มีประชากรทั้งไทยพุทธและไทย​มุสลิม​อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข​

   ในฐานะที่นายวิชาญ​ ชัยเศรษฐสัมพันธ์​ เป็นผู้ถือกำเนิดใน​ จ.นราธิวาสและเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ​โดยกำเนิด เป็นผู้รับราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอด​ และถูกร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม​ ซึ่งได้มีการสอบสวนและดำเนินการตามระเบียบราชการไปเรียบร้อยแล้ว​ จึงเห็นควรอย่างยิ่งที่ได้รับพิจารณาให้ไปดำรงตำแหน่งที่อำเภอเมืองสงขลา​  ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเป็นกลางและเป็นเมืองหลักที่สำคัญของทางราชการ​ การเมือง​ การศาสนาและอื่นๆ​ เพื่อแก้ไขและป้องกันภาพลักษณ์ของความแตกแยกหรือขัดแย้งทุกประการ

   ในส่วนประเด็นความขัดแย้งทางศาสนา​ ในฐานะคนสงขลา​ ได้มองถึงประเด็นนี้ว่า​

 ... หลักศาสนาทุกศาสนาไม่ได้มีความขัดแย้งกัน​ แต่ผู้นำหรือผู้ที่คิดว่ารู้​ หรือผู้สอน​ หรือผู้ที่นับถือศาสนา​ และผู้ที่ไม่รู้จริงต่างหาก​ ที่นำเอาหลักศาสนามาตีความให้ขัดแย้ง​ สร้างความวุ่นวายกันในสังคม

    ความขัดแย้งทางศาสนาและการเมือง(การเลือกตั้ง)​ย่อมเกิดจาก​ ความไม่รู้จริง​ ความไม่ใช่เป็นนักการศาสนาหรือนักการเมืองที่แท้จริง​ หรือผู้หวังผลประโยชน์ อิทธิพลหรือบารมี​ส่วนตนต่างหาก โดยอาศัยหลักศาสนา​ ที่ทำให้เกิดการขัดแย้ง​ แตกแยก​


  เพราะทุกศาสนา​ ย่อมสอนให้ดูที่เจตนา​ มีเหตุผล​ และให้อภัย​ ไม่มีให้เข่นฆ่า​ ให้ทุกคนปฏิบัติตนเป็นคนดี​ ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข​ สันติ​ และส่งเสริมคนดีในสังคม

   ด้วยเหตุดังกล่าวโดยสรุปข้างต้น​ ในฐ​านะคนสงขลา​ จึงขอแสดงความยินดีต้อนรับและให้โอกาสแก่​ นายวิชาญ​ ชัยเศรษฐสัมพันธ์​ ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็น นอภ.เมืองสงขลา​ ตามคำสั่งของทางราชการ

    ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน​ กรุณาอย่าใช้พื้นที่เมืองสงขลา​ เป็นพื้นที่แอบอ้างหรือแสวงหาผลประโยชน์​หรืออิทธิพล​ สร้างความขัดแย้งที่มิชอบด้วยคุณธรรมและกฏหมาย​

   เพราะเมืองสงขลาและคนสงขลา​ มีความยึดมั่นในศักดิ์ศรีและเกียรติประวัติที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งราชอาณาจักรและราชวงศ์แห่งสยาม​ เป็นเมืองหลักของทางศาสนา​ และเคยเป็นเมืองหลักที่สำคัญหลายๆด้านของภาคใต้มาตั้งแต่อดีต​

   ขอขอบคุณในความร่วมมือ​ เรามาร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาคนและสังคมให้มีความสุข​ เจริญ​ ก้าวหน้าและมั่นคงกันต่อไป

  และในโอกาสนี้​ ขออนุญาตอวยพรให้​ นอภ.เมืองสงขลาคนเก่า​ ที่ย้ายไปเป็นปลัด​ จ.ปัตตานี​ จงประสพแต่ความสุข​ สำเร็จ​ ปลอดภัย​ สุขภาพแข็งแรงตลอดไปด้วยนะครับ​ ขอบคุณครับ

         นายสัญญา​ วัชรพันธุ์

   -  ในฐานะคนสงขลาและเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน​ จ.สงขลา

                      27​ พฤศจิกายน​ 2565

                       


         ทั้งนี้     นายสัญญา วัชรพันธุ์    -  ในฐานะคนสงขลาและเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จ.สงขลา และที่ปรึกษาสมาพันธ์ไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้  ขอบคุณพื่สุริยาที่กรุณาตั้งประเด็นถาม

  ผมขออนุญาตแจ้งเหตุผลกรณีการแสดงความต้อนรับ​ นอภ.เมืองสงขลาคนใหม่​ ทั้งๆที่มีกระแสโซเขี่ยลคัดค้าน​ และเคยมีเรื่องถูกร้องเรียนให้ออกจากอำเภอท้องที่เดิม

  ผมไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับ​ นอภ.วิชาญ​ ที่ไปรับตำแหน่ง​ นอภ.เมืองสงขลาคนใหม่​

   แต่ผมและคณะทำงาน.​มีเหตุผลในการที่นำเสนอความคิดเห็นมาเป็นข้อความในกลุ่มไลน์ดังนี้

  1.ข้าราชการที่ทำงานแล้วถูกร้องเรียน​ เมื่อมีการสอบสวนแล้วไม่ปรากฏความผิด​ เราต้องคืนศักดิ์ศรีและอำนาจหน้าที่ให้แก่เขา

  2.เรื่องที่ถูกร้องเรียนที่​ อ.รือเสาะ​ เป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา​ เมื่อตรวจสอบแล้ว​ ไม่ปรากฏความผิด​ แต่มีกำนัน​ ผญบ.ราว​ 10​ คน  จากทั้งหมด​ 75  กว่าหมู่บ้าน​ และเคยมีผู้นำศาสนากว่า​ 30​ คน​ ได้ไปแสดงความขอบคุณ​ที่​ นอภ.ได้ผลักดันให้มีการพัฒนาเกี่ยวกับศาสนาอิสลามในพื้นที่​

  4.หลังจากสอบสวนแล้วกรมการปกครองมีคำสั่งให้ลงตำแหน่งที่  อ.สุไหงปาดี​ กลุ่มเดิมก็คัดค้าน​ ไม่ให้ลงในพื้นที่​ จขต.

  ถ้าหากกรมการปกครอง​ ไม่สามารถส่ง​ นอภ.ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติราชการได้​ แม้แต่จะมาลงใน​ อ.เมืองสงขลา  ย่อมนับเป็นความเสียหายที่ใหญ่หลวงของประเทศ​

  5.นอภ.ท่านนี้เป็นคนไทยพุทธที่เกิดใน​ จ.นราธิวาส​ ปฏิบัติราชการใน​ จขต.มานาน​ แล้วถูกร้องเรียนเรื่องอิสลาม​ และสอบสวนแล้วไม่ปรากฏความผิด​ และกลุ่มเดิมยังขยายบทบาทเสมือนเป็นอิทธิพลทางศาสนา​ คัดค้านไปทั่วทุกพื้นที่​ จะเป็นการเพิ่มสร้างรอยร้าวทางศาสนามากยิ่งขึ้น​ เสมือนยิ่งสร้างความกดดันให้คนไทยพุทธขัดแย้งกับมุสลิมกว้างขวางออกไปทั่วประเทศ

   ผมและคณะทำงาน​ จึงมีความเห็นร่วมกันว่า

  ".. เราควรยึดถือคำปณิธานของ​ พล.อ.เปรมที่ว่า​ "เราต้องช่วยกันสร้างความเป็นไท​ และเป็นธรรมให้กับสังคม.. "

  และต้องช่วยกันผดุงเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเมืองสงขลาไว้ให้ได้.​ไม่ควรปปล่อยให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง​ และต้องให้โอกาส​ เป็นที่ยืนข​องคนดี​ ให้เขาได้มีสถานที่พิสูจน์ตัวเอง

  นี่คือ​ เหตุผลที่มาของการแสดงความยินดี​ ต้อนรับนายวิชาญ​ นอภ.เมืองสงขลา.​คนใหม่      

   นายสัญญา วัชรพันธุ์    -  ในฐานะคนสงขลาและเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จ.สงขลา และที่ปรึกษาสมาพันธ์ไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้  ได้กล่าวทิ้งทาย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น