โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ยาวๆไป….จะหมดอายุความอีกแล้ว คดี “ฮั้ว”จัดซื้อรถซ่อมถนนของ อบจ.สงขลา

 ยาวๆไป….จะหมดอายุความอีกแล้ว คดี “ฮั้ว”จัดซื้อรถซ่อมถนนของ อบจ.สงขลา

……. 


      บางคนอาจจะแปลกใจกับการที่นายเชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต. อาซาน  จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อเร่งรัดดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวนสงขลา ใน 2 คดี



       สองคดีที่ว่าเป็นคดี อาญาที่ 76/2564 และคดีอาญาที่ 77/2564 เพื่อให้เร่งดำเนินคดีที่เคยแจ้งความไว้แล้วกับ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน 

และกลุ่มบริษัทคู่เทียบ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฮั้ว)เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้รับความเสียหาย 





      เหตุผลของการออกมาจี้ตำรวจให้เร่งรัดคดี ติดตามจับกุมผู้ต้องหา เนื่องจากผู้มอบอำนาจมีความกังวลเรื่องของห้วงเวลาที่นานพอสมควรแล้ว อีกทั้งกำลังจะขาดอายุความ 

      โดยเฉพาะคดีแรกจะขาดอายุความในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 และคดีที่ 2 ขาดอายุความในวันที่ 18 กันยาน 2565 ขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีจำนวนหลายกลุ่ม จึงเป็นเหตุให้ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปหลายคน และยังจับตัวไม่ได้


     นายอิทธิพล ดวงเดือน ผู้บริหารบริษัท พลวิศว์ แทคพลัส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประมูลรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาครั้งที่ 3 ที่ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จ่ายเงินให้กับนายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นผู้ต้องหาร่วมอยู่ในของคดีนี้ด้วย 

      ที่สำคัญคือ นายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นผู้ ชนะการประมูลขายรถซ่อมบำรุงทางฯให้กับ อบจ.สงขลา ทั้งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมถึงครั้งที่ 3 ด้วย

     อบจ.สงขลามีความกังวลว่าผู้ต้องหาทั้งหมดพยายามที่จะประวิงเวลา เพื่อให้คดีขาดอายุความทางอาญา และไม่ต้องรับโทษทางอาญา จากความพยายามยื่นร้องขอความเป็นธรรม ทั้งๆที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในทางแพ่งไปแล้วจากการที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ อบจ.สงขลาจ่ายค่ารถ 50 กว่าล้าน พร้อมดอกเบี้ยอีก 30 กว่าล้าน ซึ่งเป็นเงินภาษีประชาชนจำนวนมากที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาต้องจ่ายตามคำสั่งศาล

    

     แม้พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสงขลา จะยืนยันว่า หลังได้รับสำนวนการสอบสวนมาจาก ป.ป.ช. ทางตำรวจก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมกันทำงานเก็บหลักฐานทั้งสองคดี 

     “ทางคณะกรรมการสอบสวนได้มีการเร่งรัดให้การสอบสวนให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับคู่กรณีทั้งสอง และในส่วนจะยื้อเวลาหรือไม่นั้น เราได้มีการทำงานตามรูปแบบของคณะกรรมการ คณะทำงานกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด”

     ผู้การฯสงขลา กล่าวยืนยันว่า เรื่องการสิ้นสุดอายุความ เป็นสิ่งที่ทางพนักงานสอบสวนให้ความสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเราได้ทำงานตามกร อบระยะเวลาตามข้อกฏหมาย เพื่อมิให้เกิดความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสงขลา ติดตามบุคคลที่มีหมายจับอยู่แล้ว ซึ่งเรามี พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.ภ.สงขลา เป็นหัวหน้าคณะในการทำงาน โดยขณะนี้ทางตำรวจยังไม่มีความกังวลใจในเรื่องนี้ เพราะว่าจะเป็นฝ่ายใดมีเอกสารหลักฐานใด คณะกรรมการสอบสวนก็มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะนำเสนอต่อพนักงานอัยการฉะนั้นความกังวลใจใดๆ

     แม้พนักงานสอบสวนจะไม่มีข้อกังวล แต่ อบจ.ในฐานะเจ้าทุกข์มีความกังวลใจแน่นอน เพราะมีคดีความมากมายที่หมดอายุความบนมือของพนักงานสอบสวน ไม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาหามาดำเนินคดีได้

      อย่างล่าสุด คดีสนับสนุนให้มีการบุกรุกป่าเขาใหญ่ของ “สุนทร วิลาวัลย์” นายกฯอบจ.ปราจีนบุรี ตำรวจก็ตามจับไม่ได้จนหมดอายุความไปแล้ว 1 คดี 

     อบจ.สงขลาน่าจะมีข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา หลังศาลอนุมัติออกหมายจับ 8 ราย อันเป็นความเคลื่อนไหวในความพยายามจะหลบหนีมากกว่าความพยายามในการติดต่อเข้ามอบตัว และมีรายงานว่า มีอย่างน้อยสองรายหลบหนีไปแล้วด้วย

      คดีเกี่ยวกับการฮั้วประมูลรถซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา นอกจากทาง อบจ.สงขลา ในฐานะผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ล่าสุด ปปช.ก็เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับบุคคลกลุ่มเดียวกันด้วย

      ปปช.ยังดูแลคดีเกี่ยวกับคำร้องให้สอบสวนกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย อดีตนายกฯอบจ.สงขลา ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ (157 ไม่ใช่คดีทุจริต) ชะลอการจ่ายค่ารถให้บริษัท พลวิศว์ ตามคำสั่งของจังหวัดสงขลาให้สอบสวนตามคำร้องว่ามีการฮั้วประมูล และผลสอบสวนพบมีการฮั้วประมูลจริง

      คดีละเว้นของนายนิพนธ์ ปปช.สรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว อัยการพิจารณาแล้ว เห็นว่า สำนวนอ่อน สำนวนไม่สมบูรณ์ถึง 16 จุด เมื่ออัยการเห็นแย้งกับ ปปช.จึงตั้งกรรมการร่วมในการทำสำนวน แต่ ปปช.ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มให้สำนวนสมบูรณ์ได้ อัยการสูงสุดจึงสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว และส่งสำนวนกลับให้ ปปช.ซึ่ง ปปช.มีมติจะฟ้องเอง

      แต่ที่น่าแปลกใจในขณะที่ ปปช.เดินหน้าฟ้องนายนิพนธ์ด้วยตัวเอง แต่กลับส่งเจ้าหน้าที่ไปร้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมฮั้วประมูลรถซ่อมทางของ อบจ.สงขลา กลุ่มเดียวกับที่ อบจ.สงขลาแจ้งความไปแล้ว และศาลออกหมายจับแล้ว

     การที่ ปปช.ส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมฮั้วประมูล เท่ากับเป็นการยอมรับว่ามีการฮั้วประมูลจริง แต่กลับยังจะเดินหน้าฟ้องนายนิพนธ์ ในข้อหาละเว้น (157) ไม่ใช่เรื่องทุจริต

       เรื่องการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา ยังเป็นเรื่องเป็นราวอีกยาว ติดตามกันอีกนาน #นายหัวไทร กำลังประมวลข้อมูล เพื่อเขียน “เปิดตำนานประมูลรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา มรดกบาปจาก อุทิศ ชูช่วย ถึงนิพนธ์ บุญญามณี”

 #ฮั้วอบจสางขลา

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น