สงขลา/ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนตำรวจภูธรภาค9เรียกประชุมตำรวจเจ้าหน้าที่ที่ดินและศูนย์ดำรงธรรมเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบยึดโฉนดที่ดินหลังจากพบว่ามีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าทางภาคอีสาน10-15 เปอร์เซ็นต์ และพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ลงพื้นที่กวาดล้างถึง2ครั้งยึดโฉนดและทรัพย์สินคืนกว่า1,000 ล้าน

สงขลา/ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนตำรวจภูธรภาค9เรียกประชุมตำรวจเจ้าหน้าที่ที่ดินและศูนย์ดำรงธรรมเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบยึดโฉนดที่ดินหลังจากพบว่ามีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าทางภาคอีสาน10-15 เปอร์เซ็นต์ และพล.ต.ต.สุรเชษฐ์  หักพาล ลงพื้นที่กวาดล้างถึง2ครั้งยึดโฉนดและทรัพย์สินคืนกว่า1,000 ล้าน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ที่สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9   เรียกประชุมหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่งในจ.สงขลา เจ้าหน้าที่ที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ดิน 

เพื่อเร่งเดินหน้าการแก้ปัญหาเรื่องโฉนดที่ดินให้กับประชาชนที่มีผลพวงมาจากการกู้เงินนอกระบบและถูกนายทุนยึดอย่างไม่เป็นธรรมซึ่ง  ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนตำรวจภูธรภาค9  พยายามหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อโดยเร็วที่สุด และประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั่งตำรวจ ที่ดินและศูนย์ดำรงธรรมจ.สงขลา เพื่อให้แก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนเร็วขึ้น

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  หักพาล  ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ได้ลงพื้นที่จ.สงขลา มาติดตามเรื่องนี้ถึง2ครั้ง และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่พบปัญหาเรื่องนายทุนเงินกู้นอกระบบที่จงใจที่จะยืดโฉนดที่ดิน เพราะมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าจังหวัดทางภาคอีสาน10-15 เปอร์เซ็นต์ 

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่4 ธันวาคมที่ผ่านมาได้กวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบ10จุด ยึดทรัพย์สินทั้งอาคารพาณิชย์ ที่ดิน และโฉนดที่ดินมูลค่ากว่า 524 ล้านบาท และภาพรวมที่เจ้าหน้าที่ยึดคืนมาได้เฉพาะจ.สงขลากว่า1,000 ล้านบาท

ขอบคุณภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา