สุดทนแล้ว
ชาวบ้านรวมตัวประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะ 2 ตำบลเมืองกระบี่
พบพิรุจไม่โปร่งใสในการบริหารวัดชี้แจงเรื่องเงินทำบุญไม่ได้
วันที่ 16 ตค.61 ที่วัดคลองใหญ่ ม.6 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่
นายอรพันธ์ ไกรเลิศ อายุ 63 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองใหญ่
อยู่บ้านเลขที่ 65 ม.7 ต ทับปริก อ เมืองกระบี่ พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนกว่า500 คน
รวมตัวกันภายในศาลาวัด พร้อมนำป้ายประท้วง
มีข้อความระบุว่า ขอเปลี่ยนเจ้าอาวาส
วัดของเรา มนต์ไปวัดอื่น และเงินวัดหายไปไหน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ
สภ.เมืองกระบี่ จำนวนกว่า 20 นาย เขชาไปดูแลความสงบเรียบร้อย
ซึ่งชาวบ้านมีข้อเสนอให้ทางผู้เกี่ยวข้องเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสในทันที
นายอรพันธ์ ไกรเลิศ
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองใหญ่เปิดเผยว่าทางตนเองและชาวบ้านในตำบลทับปริกและตำบลเขาครามรู้สึกเอือมระอากับพฤติกรรมของพระรูปนี้มากเพราะวัดคลองใหญ่มีอายุร่วม
100 ปี
เมื่อพระรูปนี้มาเป็นเจ้าอาวาสและบริหารวัดมีการปลดกรรมการวัดออกไม่มีการแจ้งการบริหารงานวัด
ทำให้วัดมีความเสื่อมถอยลงไปชาวบ้านที่เคยออยู่ร่วมกันกับวัดมีการเกื้อกูลกันมาด้วยดีเสมอมาก็เริ่มห่างหาย
ตนเองจึงขอนำข้อเรียกร้องของชาวบ้านคือ
1.ขอเปลี่ยนเจ้าอาวาส
2.นิมนต์พระธรรมกายไปอยู่วัดอื่น 3.ชาวบ้านขอมีส่วนร่วมในการดูแลวัด
4.ขอให้เปิดเผยรายรับรายจ่ายของวัด และ5.ขอให้เปลี่ยนเจ้าคณะตำบล นอกจากนั้น
สำหรับสาเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านไม่ได้มีส่วนร่วมกับทางวัดเลย
ทั้งที่ได้มีการช่วยกัน เช่น รายได้จากสวนปาล์มกว่า 30 ไร่
จัดการอย่างเงินไปไหน
รายได้จากกฐินและผ้าป่าที่มีวัตถุประสงค์ ทำไม ไม่ใช้จ่ายให้ตรง
เมรุที่ใช้เผาศพมีสภาพชำรุดทรุดโทรมไม่มีการซ่อมแซม
และทางเจ้าอาวาสมักเลือกกิจนิมนต์โดยเลือกปฏิบัติ และยังมีพฤติกรรมในหลายเรื่องที่ชาวบ้านรับไม่ได้กับเจ้าอาวาสรูปนี้จึงขอให้พระรูปนี้ออกไปจากตำบลทับปริกและตำเขาครามอย่าให้อยู่ในพื้นที่เด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า
ทางพระครูสังวรสุตคุณ เจ้าอาวาส และเป็นเจ้าคณะตำบลทับปริก และ ต.เขาคราม
อ.เมืองกระบี่ ไม่ได้อยู่ในวัด
ประตูกุฏิล็อคแน่นหนาแต่ยังมีรถที่ใช้ระจำตำแหน่งจอดแอบอยู่ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าอาจจะแอบซ่อนอยู่
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่
ขอบคุณ กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น