นราธิวาส ผู้อำนวยการสำนักงาน
ป.ป.ช. ระบุ คณะกรรมการ
ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย ตามที่สำนักงาน
ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาสเสนอ รวม 8 เรื่อง และได้มีคำพิพากษาในคดีแล้ว 1 เรื่อง
วันนี้ (4 ก.ย.60) นายณัฐวุฒ
ขมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า
นับตั้งแต่การประกาศแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงาน ป.ป.ช.ให้มีสำนักงาน
ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2556 ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส
ได้ดำเนินการไต่สวนเรื่องกล่าวหาร้องเรียน ซึ่งคณะกรรมการ
ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัยแล้ว ทั้งสิ้น 8 เรื่อง ประกอบด้วย
ส่วนราชการทั่วไป (ปกเหลือง) จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ คดีหมายเลขแดง 117-1-3/2559
ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2559
กรณีนางสาวกชพร คะนึงคิด
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งคลังจังหัดนราธิวาส
ได้ดำเนินการเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากขององค์กรต่าง ๆ
ซึ่งเปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขานราธิวาส และอยู่ในความดูแล
จัดการหรือรักษาของสำนักงานคลังจังหวัดนราธิวาส ไปโดยมิชอบ จำนวน 3 บัญชี
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 697,017.76 บาท และปลอมเอกสารอันเป็นเอกสารราชการ
และนำไปยื่นต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยราชการ อันเป็นการใช้เอกสารราชการปลอม
คดีหมายเลขแดงที่ 162-2-5/2559
ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 กรณีนายนิตย์ หรือชุติวัต กล้าศักดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมพัฒนา
2 ตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน ออกเอกสารหลักฐานแสดงผลการเรียน หรือ ป.05 หรือใบสุทธิ
ให้แก่นายมานะ ลีมิง ทั้งที่ไม่ได้จบหลักสูตรประถมศึกษาปีที่ 6
โดยที่คดีได้มีการส่งฟ้องศาลจังหวัดนราธิวาส และได้มีคำพิพากษาในคดีนี้แล้ว
คดีหมายเลขแดงที่ 275-2-3/2559
ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 กรณีนายเฉลิม พละสิทธิ์
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมะรือโบตก
กระทำการทุจริตในการยืมเงินทดรองราชการ อนุมัติการยืม
และเบิกเงินจากบัญชีเงินฝากของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก โดยมิชอบ จำนวน 24 สัญญา
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 840,261 บาท
คดีหมายเลขแดงที่ 052-2-5/2560
ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 กรณีนายสถาพัฒน์ สุทธิศักดิ์
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทนราธิวาส กับพวกรวม 7 ราย
ร่วมกันกระทำทุจริต โดยการจัดทำเอกสารการจัดจ้างก่อสร้าง การตรวจรับงาน
กรอนุมัติและการเบิกจ่ายเงินในโครงการก่อสร้างประตูรั้วและป้ายแจวงทางหลวงชนบทนราธิวาสอันเป็นเท็จ
ทั้งที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จตามสัญญา
และคดีหมายเลขแดงที่ 182-2-5/2560
ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 กรณีนายสุนิตย์ ธรรมประพัทธ์
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส
สั่งการให้แก้ไขรายงานการประชุมเรื่องจัดซื้อครุภัณฑ์
ซึ่งไม่ถูกต้องตรงตามความจริงแล้วใช้รายงานการประชุมดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ปกเขียว) จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่
คดีหมายเลขแดงที่ 334-2-5/2559 ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2559
กรณีนายสกุลศักดิ์ มะดาโอ๊ะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลปาเสมัส
อำเภอสุไหงโก-ลก ใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (หลังใหม่)
และปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (หลังเก่า)
โดยมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คดีหมายเลขแดงที่ 009-2-5/2560 ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560
กรณีนายอาแว สารู
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกาเยาะมาตี อำเภอบาเจาะ กับพวกรวม
3 ราย ร่วมกันหักเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (เงินโบนัส) ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ.2554 ขององค์กรบริหารส่วนตำบลกาเยาะมาตี อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
และคดีหมายเลขแดงที่ 120-2-5/2560 ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม
2560 กรณีว่าที่ร้อยตรีบดินทร์ ลอแมง
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลลำภู และนางสาวรัตนา ขัดแก้ว
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 5 องค์การบริหารส่วนตำบลลำภู
อำเภอเมืองนราธิวาส ร่วมกันกระทำการทุจริต โดยจัดทำเอกสารใบส่งของ
ใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงิน
แล้วลงรายมือชื่อในใบตรวจรับพัสดุแผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการงานวันลอยกระทง
ประจำปี 2558 งบประมาณประจำปี 2559 ขององค์การบริหารส่วนตำบลอันเป็นเท็จ
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส
ได้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา
หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
หรือผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัยแล้วแต่กรณี
อย่างไรก็ตามการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด
ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ
ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สำนักงาน
ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส มีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนที่อยู่ในขั้นแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน
จำนวน 25 เรื่อง ซึ่งหากเรื่องร้องเรียนใดมีมูล คณะกรรมการ
ป.ป.ช.จะมีมติให้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
ขอบคุณข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น