พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร
หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ประชุมติดตามการดำเนินโครงการตาม Road Map ณ ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค ๔ สน. พร้อมตรวจศูนย์ CCTV สภ.เมืองยะลา และ ศชต.
วันนี้ (๓๑ ส.ค.๖๐ เวลา ๐๙๐๐ น.) พล.อ.อุดมเดช
สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตาม
การดำเนินโครงการตาม Road Map การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ของผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ณ ห้องประชุม ๑ กอ.รมน.ภาค ๔ สน.
โดยมี ผอ.รมน.ภาค ๔ ผู้แทน ศอ.บต.
กอ.รมน. จังหวัด (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ สงขลาส่วนหน้า)
กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ เข้าร่วมประชุม
การติดตามโครงการตาม Road Map ดังกล่าว เป็นงานที่ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. และ ศอ.บต.
เป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการ โดยมีโครงการที่สำคัญๆ ได้แก่
การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม การจัดตั้ง
ชคต.เพิ่มเติม ๖๐ ตำบล
ประชารัฐจิตอาสาญาลันนันบารู ๒๐๐ ตำบล การฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่รัฐ
การสร้างพื้นที่ปลอดภัย
การแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี ยุทธศาสตร์ชุมชนศรัทธา “กำปงตักวา” เพื่อสันติสุขอย่างยั่งยืน รวมทั้ง
ระบบกล้อง CCTV และการพัฒนาท่าอากาศยานบ่อทอง
โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม
มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กำลังอาสาสมัคร
และกำลังประชาชนทุกประเภท
ให้มีขีดความสามารถในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน/ตำบล
โดยในห้วงที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค ๔ สน.
ได้จัดให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และแผนรักษาความปลอดภัยต่างๆ การฝึกทบทวนอาสาสมัครและกำลังประชาชน
ทั้งนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอเพื่อคัดเลือกกลั่นกรองผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่อาสาสมัคร
โครงการจัดตั้ง ชคต.เพิ่มเติม ๖๐ ตำบล
เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กำลังประจำถิ่น
กำลังประชาชน รวมทั้งผู้นำตำบล/หมู่บ้าน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยตำบล/หมู่บ้านตนเอง
เสริมกำลังหลักในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการบรรจุสั่งใช้สมาชิกอาสาสมัครไปแล้ว ๗๒๐
อัตรา อยู่ระหว่างการฝึก ณ ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานเพิ่มเติม
โครงการประชารัฐญาลันนันบารู ๒๐๐ ตำบล
เพื่อขยายงานป้องกันและบำบัดยาเสพติดให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเน้นการสร้างจิตอาสาขึ้นมาทุกหมู่บ้านเป้าหมายจำนวน ๑,๓๐๐ หมู่บ้าน
ซึ่งปัจจุบันได้ตั้งทีมตำบลครบทั้ง ๒๐๐ ตำบล ๒๐๐ ชุด ชุดละ ๒ คน รวม ๔๐๐ คน เข้าทำงานในพื้นที่แล้ว
๑,๒๒๘ หมู่บ้าน สำหรับงบประมาณที่ได้รับ
นำไปใช้สนับสนุนสมทบทุนศรัทธาคนละบาท/วันของชมรมจิตอาสาตำบล
โครงการการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่รัฐ
มีเป้าหมายมุ่งเน้นการลดเงื่อนไขความขัดแย้งในพื้นที่
และไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา
มีการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพกรอบแนวทางการปฏิบัติงาน เพิ่มประสิทธิภาพผู้บังคับการหน่วย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ข้าราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่
รวมทั้งจัดให้มีการประเมินผลแผนงานโครงการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ จำนวน ๑๓ เรื่อง
โดยผลการประเมินแสดงให้เห็นว่า
ประชาชนมีความพึงพอใจต่อการแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่รัฐ
และต้องการให้ปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง
การสร้างพื้นที่ปลอดภัย
มีกิจกรรมที่ดำเนินการ คือ การจัดกิจกรรมปฏิเสธความรุนแรง ซึ่งได้จัดในระดับอำเภอ
๓๗ ครั้ง ระดับจังหวัด ๘ ครั้ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๕๐,๐๐๐ คน ส่วนการจัดกิจกรรมเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้เห็นต่าง
สามารถลดความหวาดระแวง สร้างความเข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
และทำให้ประชาชนหันมาให้ความร่วมมือในการให้ข่าวสารและร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่ภาครัฐจัดเพิ่มขึ้น
โครงการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี
ได้ดำเนินกิจกรรมทั้งหมด ๔ กิจกรรม ได้แก่
การพบปะพูดคุยกับบุคคลเป้าหมายและเครือญาติ การพูดคุยเพื่อสันติสุขกับภาคประชาสังคมในพื้นที่ จชต.
การเปิดพื้นที่รวบรวมประเด็นความเห็นของผู้นำทางความคิดในพื้นที่
จชต. และการเปิดเวทีสาธารณะ กิจกรรมต่าง ๆ ดังกล่าว ช่วยสร้างความเข้าใจ
ความเชื่อมั่น และเกื้อกูลต่อการสร้างสภาวะแวดล้อมสำหรับการพูดคุยเพื่อสันติสุขต่อไป
โครงการชุมชนศรัทธา “กำปงตักวา” มีการจัดทำยุทธศาสตร์ชุมชนศรัทธา “กำปงตักวา” เพื่อสันติสุขอย่างยั่งยืน
โดยลงพื้นที่เก็บข้อมูลและศึกษาหมู่บ้าน/ชุมชนที่ประสบความสำเร็จเป็นชุมชนศรัทธา
และถอดบทเรียน เพื่อนำมาจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าว นำเรียนต่อรองนายกรัฐมนตรี
/ประธาน คปต.
โครงการบูรณาการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(CCTV) ในพื้นที่ จชต. มีการดำเนินงานเป็น ๓ ระยะ
สามารถจัดตั้งศูนย์และเชื่อมโยงเครือข่ายได้จำนวน ๔๖ ศูนย์
พร้อมติดตั้งระบบบริหารจัดการสัญญาณ ระบบค้นหาและตรวจสอบเป้าหมายอัตโนมัติ
ซึ่งจะสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ โดยในระดับปฏิบัติการ
จะสามารถปฏิบัติงานทั้งเชิงรุก ในการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังการก่อเหตุ
ส่วนงานเชิงรับ จะใช้ติดตามและขยายผล
เพื่อนำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีผู้ก่อเหตุต่อไป
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานบ่อทอง
เพื่อรองรับการสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่
และเพื่อเตรียมความพร้อมในการลงทุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
รวมทั้งเชื่อมโยงการขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต โดยในห้วงที่ผ่านมา
ศอ.บต.ได้จัดประชุมหารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งมติที่ประชุมให้มีการขยายรันเวย์ท่าอากาศยานบ่อทอง
โดยกำหนดการดำเนินการเป็น ๒ ระยะ คือ ระยะที่ ๑ มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคง
ส่วนระยะที่ ๒ เป้าหมายเพื่อการพาณิชย์
ซึ่งต้องขออนุมัติจัดทำโครงการศึกษาความเป็นไปได้และการสำรวจออกแบบเบื้องต้น
เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจในระดับนโยบายต่อไป
ภายหลังการประชุม หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
ได้เดินทางไปตรวจศูนย์ควบคุม CCTV ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา
และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
รวมทั้งเดินทางมาเป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปต.ส่วนหน้า ณ
ห้องประชุมสำนักงาน ฯ ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น