สตูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ร่วมโครงการประชารัฐวัดสร้างสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้(ชมคลิป)
วันที่28ส.ค.2560ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดควนกาหลง
อ.กาหลง จ.สตูล พระเทพสิทธิมุนี เจ้าคณะภาค 18 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ในพิธีสวดมนต์เพื่อเสริมสร้างสันติสุข 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการประชารัฐ
วัดสร้างสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดสตูลจัดขึ้น ณ วัดควนกาหลง
โดยมีนายสรเดช
สุนทรารชุน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมนายวาทิน กรดเต็ม
ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ
เจ้าหน้าที่ คณะครู นักเรียน นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมพิธีกว่า 1,500 คน
ทั้งนี้ยังได้นิมนต์คณะสงฆ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สตูล ยะลา สงขลา
นราธิวาส และปัตตานี กว่า 300 รูป ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ
อาทิ การจัดนิทรรศการการเผยแผ่และการศึกษาพระพุทธศาสนา
กิจกรรมการสาธิตศูนย์ฝึกอาชีพและจำหน่ายสินค้าชุมชนของศูนย์ฝึกอาชีพในวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการแสดงความสามารถจากเครือข่าย “บวร” คือ บ้าน วัด และโรงเรียน ในพื้นที่ 5
จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น การสวดมนต์เป็นหมู่คณะ การสวดสรภัญญะ
พร้อมทั้งจัดให้มีการประชุมพระสังฆาธิการในพื้นที่
เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่
จากนั้นนายออมสิน ชีวะพฤษ์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปยังท่าเทียบเรือปากบารา
ในพื้นที่อำเภอละงู
เพื่อเยี่ยมเยียนและตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในการสัญจรทางน้ำ
โดยเฉพาะในช่วงมรสุมพายุที่ผ่านมา ซึ่งนายวินัย หมื่นสุวรรณ
ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิ , ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค
สาขาสตูล ได้รายงานว่าทางจังหวัดสตูลใช้มาตรการความปลอดภัยขั้นสูงในการให้บริการ
จึงทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆ
อย่างไรก็ตามนายออมสินได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมตลอดเวลา
และปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด
พร้อมเพิ่มมาตรการใหม่ๆ ที่ทันสมัย รวดเร็ว ฉับไว
และทันต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกรณีฉุกเฉิน
เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ
ในจังหวัด ซึ่งจะเป็นการต่อยอดสร้างรายได้ให้กับประชาชน
กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสตูลให้เฟื่องฟูมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณนิตยา แสงมณี // สตูล
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น