โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

*จับตา “BRN” จะยิ่งเข้มแข็งถ้า “IS” แทรกซึมมาเลย์สำเร็จ โดย.. ไชยยงค์ มณิพิลึก***

*จับตา “BRN” จะยิ่งเข้มแข็งถ้า “IS” แทรกซึมมาเลย์สำเร็จ โดย.. ไชยยงค์ มณิพิลึก***

       
       ***คอลัมน์  :  จุดคบไฟใต้
     
     
       
       ☆●☆หยุดเขียนถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มา 1 สัปดาห์ ด้วยหวังลึกๆ ว่าความรุนแรงจะสงบลงต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่ย่างเข้าเดือนรอมฎอนเป็นต้นมาการก่อเหตุลงลงเรื่อยๆ แม้จะไม่แน่ใจว่ามาจากฝีมือของ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” หรือเป็นเพราะ “บีอาร์เอ็น” ที่นำโดย “ดูลเลาะ แวมะนอ” อยู่ระหว่างการปรับทิศทาง หลังจากที่ถูกรัฐบาลมาเลเซียกดดัน โดยเฉพาะสันติบาลมาเลเซียเรียกตัวไปพูดคุยเมื่อไม่นานมานี้
       
       ▪เพราะลึกๆ แม้จะยกประโยชน์ให้จำเลยคือ ยกความชอบให้กับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่สามารถทำให้ การก่อเหตุลดลง ถ้าเทียมกับการก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนเมื่อปี 2559 แต่จากการตรวจสอบการทำหน้าที่ของกองกำลังในพื้นที่ กลับยังเห็น “จุดอ่อน” เห็น “ช่องว่า” มากมายที่โจรใต้ยังสามารถก่อเหตุได้ถ้าคิดจะทำ จึงทำให้เเชื่อว่าเหตุร้ายที่ลดลง 2 เดือนที่ผ่านมาเกิดจากปัจจัยภายในของ “แนวร่วม” บีอาร์เอ็นเอง
       
       ▪และน่าจะเป็นเช่นนั้น เนื่องเพราะนับตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ เหตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่างเกิดขึ้นแบบ “ถี่ยิบ” แม้จะไม่ใช่ปฏิบัติการ “คาร์บอมบ์” หรือ “ระเบิดแสวงเครื่อง” เป็นหลัก แต่ก็มีปฏิบัติการ “รายวัน”อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเหตุที่สำคัญๆ ได้แก่
     

       ▪การขว้างระเบิดแบบไปป์บอมบบ์ใส่จุดตรวจตำรวจที่ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ผลคือตำรวจตาย 1 เจ็บ 1 ส่วนโจรใต้ลอยนวล ยิงดาบตำรวจ สภ.สายบุรีเสียชีวิตในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ยิงอาสาสมัครประจำ อ.สายบุรีเสียชีวิต 1 มีประชาชนถูกลูกหลงด้วย 1 ราย ยิงพ่อค่าเร่ขายฟูก 2 แม่ลูกชาวไทยพุทธ ลูกตาย แม่เจ็บ ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และเหตุยิงบ้านคนไทยพุทธที่ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ 8 หลัง มีคนเจ็บ 8-10 คน นี่ยังไม่รวม เหตุยิงรายวันอีกหลายราย ซึ่งยังก้ำกึ่งระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องความมั่นคง
       
       ▪ที่สังเกตคือ ทุกเหตุเป็นการก่อเหตุใน “ชุมชน” เช่น จุดตรวจปาลุกาสาเมาะตั้งอยู่ในชุมชน ยิงบ้านคนไทยพุทธในเวลาเดียว 8 หลังที่ตั้งอยู่ในชุมชน ไม่ห่างจากจุดตรวจเท่าไหร่ ยิงนายดาบพบขับ ผกก.สภ.สายบุรี ห่างจากจุดตรวจไม่มาก ยิง อส.สายบุรี ยิงในร้านน้ำชากลางหมู่บ้าน และยิง 2 แม่ลูกที่ขับรถเร่ขายฟูกก็เป็นการปฏิบัติการในชุมชน แถมมีการ “ทิ้งใบปลิว” แสดงความรับผิดชอบว่า เป็นโจรใต้ที่มีเป้าหมายต่อปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐ
       
       ▪ปฏิบัติการของโจรใต้ทั้งหมด นั่นคือ “คำตอบที่ชัดเจน” ว่ากลุ่มโจรใต้หรือแนวร่วมยังมี “ขีดความสามารถ” ในการปฏิบัติการต่อ “เป้าหมาย” ที่ต้องการอย่างได้ผล โดยปราศจาก “การขัดขวาง” จากเจ้าหน้าที่รัฐ
       
       ▪ทั้งที่พื้นที่ปฏิบัติการของโจรใต้อยู่ในเขตชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการรักษาความสงบมากกว่าพื้นที่ห่างไกล แต่โจรใต้ยังปฏิบัติการได้สำเร็จ เป้าหมายเสียชีวิต และที่สำคัญหลังการปฏิบัติการคือ สามารถหลบหนีได้อย่าง “ลอยนวล” และ “ปลอดภัย”
       
       ▪อันเป็นไปตามหลักการของขบวนการบีอาร์เอ็น ที่หลังการปฏิบัติการต่อเป้าหมายแล้วต้องหลบหนีอย่างปลอดภัยของทั้ง “คนลงมือ” “คนมารับปืน” และ “คนพาหลบหนี” ตามยุทธวิธี “โอกาสมี ทางหนีสะดวก” ให้ปฏิบัติการได้ทันที
       
       ▪ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันที่จะมีเหตุรายวันที่เกิดความสูญเสียอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้น พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติสุข” ฝ่ายไทย ได้แถลงข่าวถึง “ความก้าวหน้า” ของกระบวนการพูดคุยว่า คณะทำงานเทคนิคร่วมของคณะพูดคุยสันติสุขระหว่าง “รัฐไทย” กับ “มาราปาตานี” และ “รัฐบาลมาเลเซีย” ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกไว้ว่า
       
       ▪ได้ทำการตัด “คณะกรรมการประเมินพื้นที่”  เพื่อกำหนด “พื้นที่ปลอดภัย” หรือ “เซฟตี้โซน” ออกจากคณะพูดคุยไปแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเพื่อความคล่องตัวในการเดินหน้าของคณะทำงาน มีการยกเลิกพื้นที่ปลอดภัยหรือเซฟตี้โซนจากที่เคยกำหนดไว้ 5 อำเภอ เหลือเพียง 1 อำเภอในแผ่นดิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นการ “นำร่อง” ในการสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นพื้นที่ของอำเภอไหน หรือในจังหวัดอะไร
       
       ▪สิ่งที่ พล.อ.อักษราต้องการ “สื่อสาร” ถึงคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ การเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติสุข “ไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดความรุนแรง” แต่การพูดคุยคือการ “ลดความรุนแรง” ดังนั้นการที่สื่อมวลชนและประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า การเดินหน้าการพูดคุยทำให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง จึงเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้”
       
       ▪นั่นคือ  “คำชี้แจง” และถือเป็น “ทัศนะ” ของ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย
       
       ▪แต่ใน “ความสอดคล้อง” คือหลังการออกมาแถลงข่าวของ พล.อ.อักษราก็เกิด “เหตุร้ายขึ้นแบบถี่ๆ” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนทำให้นักวิเคราะห์สถานการณ์และคนในพื้นที่อดคิดไม่ได้ว่า สถานการณที่เกิดขึ้นในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โจรใต้ต้องการแสดงถึง “นัย” อะไรหรือไม่ต่อกระบวนการพูดคุยสันติสุขที่กำลังจะมีการประชุมร่วมในอีกไม่ช้านานนี้
       
       ▪หรือนี่เป็นการแสดงออกของบีอาร์เอ็นที่ “ไม่เห็นด้วย” และประกาศ “ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มมาราปาตานี” หลังจากที่ฝ่ายไทยพยายาม “ขอร้อง” รัฐบาลมาเลเซียให้นำตัวแทนของบีอาร์เอ็นใน “ปีกการเมือง” มาร่วมคณะเพื่อเจรจากับฝ่ายไทยแต่ก็ไม่เป็นผล
       
       ▪ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งการให้สันติบาลที่ “ดูแล” กลุ่มบีอาร์เอ็นอยู่ในแดนเสือเหลือง ไปกดดันผู้นำบีอาร์เอ็นไม่ว่าจะเป็น ดูลเลาะ แวมะนอ กับ เด็ง แวกาจิ และ อดุลย์ มุณี ฯลฯ ให้ทำให้ 2 เรื่องคือ 1. ทำความต้องการของฝ่ายไทยที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมาราปาตานี และ 2. ห้ามยุ่งเกี่ยวกับขบวนการรัฐอิสลามหรือไอเอส
       
       ▪ดังนั้นที่ในห้วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาการก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ลดน้อยลง นั่นอาจจะมาจากการพูดคุยระหว่างผู้นำบีอาร์เอ็นกับตำรวจสันติบาลมาเลเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสูงสุด ในการ “คงอยู่” ของขบวนการบีอาร์เอ็น
       
       ▪แต่ก็มีสัญญาณที่ทำให้เชื่อว่า ดูลเลาะ แวมะนอ ยังคงปฏิเสธการส่งตัวแทนปีกการทหารเข้าร่วมกับกลุ่มมาราปาตานี เพื่อร่วมโต๊ะพูดคุยสันติสุขกับตัวแทนรัฐไทย ที่สำคัญบีอาร์เอ็นไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดพื้นที่เซฟตี้เซนที่เหลือเพียง 1 อำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
       
       ▪ทั้งนี้การลดพื้นที่เซฟตี้โซนจาก 5 อำเภอ เหลือแค่ 1 อำเภอ ถือเป็น “ความได้เปรียบ” ของฝ่ายมาราปาตานีที่มีรัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้ออกคำสั่งอยู่เบื้องหลังมากกว่า แม้จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถที่จะหาพื้นที่ปลอดภัยได้ง่ายขึ้นก็ตาม
       
       ▪แต่ถ้าเหลือพื้นที่เซฟตี้โซนแค่ 1 อำเภอเดียว แล้วยังเกิดเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ได้อีก นั่นจะเป็นการพิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือของบีอาร์เอ็น อนาคตของกลุ่มมาราปาตานีกับเวทีการพูดคุยที่มีรัฐบาลมาเลเซียเป็นผู้กำหนดก็อาจจะต้อง “ปรับเปลี่ยนวิธีการ” อีกครั้ง
       
       ▪สิ่งที่ต้องจับตามองใกล้ชิดต่อไปคือ หลังความสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำอีกในรอบกว่า 10 วันที่ผ่านมา นับจากนี้ไปจนถึงวันเปิดโต๊ะพูดคุยสันติสุขรอบหน้าจะยังเกิดความรุนแรงต่อเนื่องไปอีกหรือไม่ และกำลังในพื้นที่ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะปฏิบัติการอย่างไรให้สถานการณ์ลงความรุนแรงลดลง
       
       ▪โดยเฉพาะเพราะปฏิบัติการต่อเป้าหมายที่เป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” และ “คนไทยพุทธ” ในรอบ 10 วันที่ผ่านมาเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ดูลเลาะ แวมะนอ ยังให้บีอาร์เอ็นคงยุทธศาสตร์การใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐและคนไทยพุทธอย่างเป็นด้านหลัก
       
       ▪บางทีการเข้าไปของไอเอสสู่ประทศมาเลเซีย นั่นจะยิ่งทำให้บีอาร์เอ็นมีความเข้มแข็งมากกว่าเดิม เพราะรัฐบาลมาเลเซียอาจจะต้องอาศัยบีอาร์เอ็นในการขับไล่ไอเอส โดยอาจจะต้องให้สิทธิพิเศษกับบีอาร์เอ็นมากขึ้นอีก
       
       ▪หากเป็นเช่นนั้นยิ่งนับเป็นไปตาม “ความฝัน 100  ปี” ของขบวนการบีอาร์เอ็นที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวานทองของไทยให้ได้ และที่สำคัญเป็นไปตามที่มี “มุสลิมกลุ่มหนึ่ง” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้วาดหวังไว้ด้วย☆●☆//sm.rp.

ขอบคุณโดย MGR Online  

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น