ภูมิใจไทย กล้าธรรม จ่อเบียดเจ้าของสนามภาคใต้ ในห้วงเวลาที่ประชาธิปัตย์อ่อนแอ
…….
กรรมการบริหารพรรคกล้าธรรม กำลังนำพาพรรคเข้าร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคภูมิใจไทย เป็นแกนนำ โดยสนับสนุนให้ “อนุทิน ชาญวีระกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี
ข่าวลือหน้าหูว่า พรรคกล้าธรรมอาจจะได้เก้าอี้มหาดไทยมานั่งด้วยซ้ำ อันเป็นการต่อรองเหมือนสมัยภูมิใจไทย เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ส่วนจะยังได้คุมกระทรวงใหญ่เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการต่อหรือไม่ จะได้เก้าอี้ตรงไหนเพิ่มขึ้นอีกไม้นานจะได้รู้กัน
การจัดวางบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี จะเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ของพรรคด้วย ยุทธศาสตร์ของพรรคว่าจะคาดหวังในการเติบโตอย่างไร แน่นอนว่าภาคเหนืออย่างพะเยา อันเป็นจังหวัดบ้านเกิดของ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค พะเยาจึงเป็นจังหวัดเป้าหมาย มีการจัดวางให้น้องรัก “อัครา พรหมเผ่า” มานั่ง รมช.เกษตรฯ
ภาคใต้ก็น่าจะเป็นอีกสนามเลือกตั้งที่พรรคกล้าธรรมหวังจะเข้าไปมีส่วนแบ่ง 53-54 ที่นั่ง กล้าธรรมจะต้องได้มากกว่าเดิม เดิมมี “บิ๊กโอ-ก้องเกียรติ์ เกตสมบัติ เขต 8 นครศรีธรรมราช สส.กฤต ชนนพัฒน์ นาคสั้ว เขต 4 สงขลา และ สส.บีลา-สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ
สส.นราธิวาส เขต 3
การตั้งเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคกล้าธรรมตั้งเป้าไว้ 10–12 ที่นั่งในภาคใต้ ถือว่าเป็น “ความหวังสูง” เพราะปัจจัยการเมืองภาคใต้ยังมีโครงสร้างที่ซับซ้อนอยู่
1. โครงสร้างการเมืองภาคใต้ ประชาธิปัตย์ แม้จะอ่อนแรง แต่ยังมีฐานประเพณีในหลายเขต (โดยเฉพาะสงขลา พัทลุง นครศรีฯ ชุมพร) เป็นต้น
ภูมิใจไทย กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ใช้เครือข่ายท้องถิ่นและงบประมาณในช่วงเป็นรัฐบาลผลักลงพื้นที่อย่างหนัก
พลังประชารัฐ/รวมไทยสร้างชาติ อาจไม่แข็งแรงเท่าสองพรรคข้างต้น และกำลังอยู่ในภาวะล่าถอย
พรรคประชาชนมีแรงหนุนจากคนรุ่นใหม่ แต่ยังยากในพื้นที่ชนบทภาคใต้
ดังนั้นสนามภาคใต้กลายเป็น สงครามหลายเส้า พรรคเล็กใหม่อย่างกล้าธรรมจึงมีทั้ง “ช่องว่าง” และ “แรงต้าน” พร้อมกัน ช่องว่างที่พรรคอื่นเปิดไว้ ส่วนแรงต้านเกิดจากภาพลักษณ์ของแกนนำพรรคบางคน
2.จุดแข็งของกล้าธรรม มีคนรุ่นใหม่ (ช่น ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ที่ชาวางขลานิยมชมชอบ และกำลังแสดงบทสร้างบารมีชนกับผู้มากบารมีเดิม เป็นคนมีฐานะ กล้าได้กล้าเสีย อ่อนน้อมถ่อมต้นเข้าหาชาวบ้าน สร้างผลงานเป็นที่ยอมรับหรือผู้มากบารมี “กำนันศักดิ์-พงศ์ศักดิ์ จ่าแก้ว สุราษฏร์ธานี ก็น่าจะร่วมกันผลักดันภารกิจของพรรคให้ลุล่วงได้ หรือถ้าเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่อย่างบิ๊กโอเข้ามาแสดงฝีมือก็จะเกิดประโยชน์กับการทำพื้นที่ เพราะเลือกตั้งครั้งหน้าบิ๊กโออาจจะเจอกระดูกก้อนใหญ่รออยู่
ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้พรรคกล้าธรรมจัดวางคนรุ่นใหม่มีคุณภาพเข้าไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี บวกรวมกับอาศัยฐานเสียงระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะเครือข่าย อบจ. อบต. ในบางจังหวัด ก็จะเป็นเครื่องมืออย่างดีให้คนทำพื้นที่สะดวกขึ้น
4. โอกาสของพรรคกล้าธรรมตามจังหวัดต่างๆ
สงขลา 2
นครศรีฯ 2-3
พัทลุง 1
สุราษฏร์ธานี 2-3
ชุมพร 1
ตรัง / กระบี่ / ภูเก็ต แข่งยาก เพราะประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยยังแข็ง
จังหวัดชายแดนใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) แม้จะมีโอกาสน้อย แต่ไม่ควรลืมว่า สส.บีลา ก็ไม่ธรรมดา พรรคประจำถิ่นอย่างพรรคประชาชาติ ก็จะอ่อนแรงลง เมื่อวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา วางมือทางการเมืองกับช่วงวัยที่เริ่มร่วงโรย พรรคกล้าธรรมก็มีโอกาสแทรกเข้ามาได้
โดยสรุปความเป็นไปได้ 10–12 ที่นั่ง ถือว่าสูงเกินจริงในบรรยากาศการเมืองปัจจุบัน แต่ถามว่า โอกาสมีความเป็นไปได้ไหมจริง ตอบได้ว่ามี ขึ้นอยู่กับการคัดสรรคนมาลงสมัคร นโยบายพรรค และสำคัญคือยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีของพรรค
#นายหัวไทร
#พรรคกล้าธรรม
#สนามภาคใต้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น