อบจ.สงขลายกเลิกเก็บเงินจักรยานยนต์ข้ามฟาก ยัดเยียดประชานิยม ควักทุน-เฉือนเนื้อจ่าย(มีคลิป)
……
ได้อ่านข่าวในเพจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ได้จัดประชุมคณะทำงานครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เพื่อศึกษาผลกระทบจากการยกเลิกเก็บค่าโดยสารรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซด์) ที่ใช้บริการแพขนานยนต์
อบจ.สงขลาที่บริหารโดย “สุพิศ พิทักษ์ธรรม”นายกฯอบจสงขลา และฉัตรเพ็ชรครุอำโพธิ์ เป็นรองนายกฯ ดูแลกิจการแพขนานยนต์ มีแนวคิดเป็นนโยบายยกเลิกการจัดเก็บค่าข้ามฟากระหว่างฝั่งหัวเขาแดงกับฝั่งแหลมสนอ่อน สำหรับรถจักรยานยนต์จากเดิมเก็บคันละ 3 บาท
การประชุมคณะทำงานคาดว่ามีความเป็นไปได้ ในการยกเลิกการเก็บค่าข้ามฟากสำหรับรถมอเตอร์ไซด์ แต่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาโครงสร้างทางการเงิน ผลกระทบด้านการดำเนินงาน และผลต่อผู้ใช้บริการ
สถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการแพขนานยนต์คือฝั่งแหลมสนอ่อน–สิงหนคร มีการเก็บค่าบริการรถจักรยานยนต์ประมาณ 3 บาท/คัน และรถยนต์เก็บประมาณ 20 บาท/คัน ส่วนคนเดินข้ามฟรี
รายได้จากแพขนานยนต์ในปีงบประมาณล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านบาท แต่ต้นทุนมากกว่า 70 ล้านบาท (รวมค่าน้ำมันและการซ่อมบำรุง) มีรายได้ประมาณวันละ 20,000 บาท
เอาเป็นว่าการให้บริการแพขนานยนต์ อยู่ในภาวะขาดทุนปีละ 35 ล้านบาท ต่อเนื่องมาหลายปี ต้องนำเงินภาษีจากตัวอื่นมาชดเชย
ขณะนี้ อบจ.สงขลายังอยู่ในกระบวนการ ศึกษาอย่างละเอียด ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผนทางการเงิน การจัดหาต้นทุนชดเชย ช่องทางการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจากภาษี หรือมาตรการอื่น ๆ
ขั้นตอนถัดไป 1.อบจ.สงขลา ติดตามผลการศึกษา: อบจ.จะนำผลวิเคราะห์เสนอในที่ประชุมอีกครั้ง เพื่อขอความเห็นชอบ หากสภาเห็นชอบ การยกเลิกพร้อมทั้งมาตรการรองรับอาจประกาศใช้ แต่เป็นประเด็นว่าจะชี้แจงต่อประชาชนอย่างไร สื่อสารสู่ประชาชนให้ชัดเจนถึงผลดี ผลกระทบ พร้อมรับฟังเสียงสะท้อน อาจจะต้องถึงขั้นทำประชาพิจารณ์หรือเปล่า
ประเด็นสำคัญ คือ นายกฯสุพิศ เคยประกาศเป็นนโยบายจะเร่งรัดแก้ไขปัญหาการให้บริการแพขนานยนต์ ที่รถรอคิวนาน และยาว ทำให้เสียเวลา และวันแรกของการเข้าทำงาน คือการไปดูปัญหาการให้บริการแพขนานยนต์ ซึ่งช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาได้รับการแก้ไข ได้รับเสียงปรบมือให้ แต่การยกเลิกการเก็บค่าบริการสำหรับรถมอเตอร์ไซด์ทั้งๆที่อยู่ในภาวะขาดทุน ไม่ทราบว่า ผู้บริหาร อบจ.คิดอะไรอยู่ กับการกำหนดนโยบายให้บริการเฉพาะกลุ่ม คือกลุ่มคนย่านสิงหนคร สทิงพระ ระโนด แต่เอาเงินภาษีคนทั้งจังหวัดมาชดเชย ผิดหลักการ “ใครใช้คนนั้นจ่าย ใครกินคนนั้นจ่าย”
เข้าใจได้ว่าเป็นบริการสาธารณะ ควรคิดค่าบริการในอัตราที่ไม่แพง 3 บาท ไปกลับ 6 บาท ก็น่าจะเหมาะสม ไม่แร้นแค้นเกินไป ผู้ใช้บริการก็จ่ายได้ อย่างรถไฟฟ้าในกรุงเทพ ก็ถือเป็นบริการสาธารณะ เก็บในอัตราสูง จนมาถึงรัฐบาลปัจจุบันกำหนดเป็นนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ไม่ใช้ให้บริการฟรี
วิธีการนี้เป็น“ประชานิยม” มายัดเยียดให้ประชาชนกลุ่มเดียวเอาเงินภาษีมาใช้ในการหาเสียงล่วงหน้าหรือเปล่า
ลองเช็คดูใครจะลงชิงนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงหนครหรือเปล่า ตั้งสติใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบดีกว่าโวยวายกับนักข่าวที่นำเสนอข้อมูล
#นายหัวไทร
#แพขนานยนต์
#เลิกเก็บค่าข้ามฟากมอเตอร์ไซด์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น