โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ถึงเวลาทบทวนประวัติศาสตร์ประชาธิปัตย์ เมื่อเลขาธิการพรรค ยังไม่รู้ตำนานในตำแหน่งที่นั่งอยู่

 ถึงเวลาทบทวนประวัติศาสตร์ประชาธิปัตย์ เมื่อเลขาธิการพรรค ยังไม่รู้ตำนานในตำแหน่งที่นั่งอยู่

…….


ฟังแล้วจะเป็นลม เมื่อนายกฯชาย เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อแบบ “Exclusive” ว่าเขาคือชาวสงขลาคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มีใครหยิบมาใส่ อันเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนในประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ในประเด็นข้อเท็จจริง และได้กลายเป็นที่สนใจของคนในแวดวงการเมือง โดยเฉพาะในหมู่ผู้ติดตามประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีรากฐานยาวนานและซับซ้อน

แม้คำกล่าวของนายเดชอิศม์จะฟังดูน่าภาคภูมิใจ หากแต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์แล้ว กลับพบว่าคำกล่าวนี้คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงอย่างชัดเจน

ย้อนกลับไปเมื่อหลายทศวรรษก่อน พรรคประชาธิปัตย์เคยมีเลขาธิการที่ชื่อว่า “วีระ มุสิกพงศ์” ซึ่งได้รับตำแหน่งในยุคสมัย”พิชัย รัตตกุล“เป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น 

วีระ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ”วีระกานต์ มุสิกพงศ์“ ตามคำแนะนำ และคำขอร้องของผู้เป็นพ่อโดยในช่วงนั้นวีระเป็นนักข่าว นักเขียนให้กับหลายสำนัก แต่เขียนให้ปรจำกับสยามรัฐ มีชื่อเสียงกระฉ่อนถึงความกล้าหาญ แหลมคมในการนำเสนอ และเริ่มก้าวเข้าสู่แวดวงการเมือง ถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีบทบาทโดดเด่น และที่สำคัญคือเขาเป็น “ชาวอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา” โดยกำเนิด

ปี 2518 วีระเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมกรุงเทพมหานคร และได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องมา สองสมัย และผันตัวเองไปลงสมัครที่จังหวัดพัทลุง ได้รับเลือกตั้งต่อเนื่องอีก 3 สมัย

วีระ มุสิกพงศ์ ไม่เพียงแต่เป็นชาวสงขลาคนแรกที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หากยังถือเป็นหนึ่งในบุคลากรทางการเมืองที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในยุคเปลี่ยนผ่านของพรรค ทั้งในด้านแนวคิด ยุทธศาสตร์ และบทบาททางสังคม

ความคลาดเคลื่อนในคำให้สัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์ อาจสะท้อนถึงช่องว่างของความทรงจำในพรรค หรืออาจเป็นเพียงความผิดพลาดทางข้อมูล แต่สำหรับผู้ที่ติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิดแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่ “เรื่องเล็ก” เพราะตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คือหนึ่งในหัวใจของกลไกขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์ของพรรค ที่บ่งชี้ถึงอำนาจ อุดมการณ์ และแนวทางการบริหารจัดการภายในพรรค

การยืนยันถึง “ความเป็นคนแรก” ในบทบาททางการเมืองจึงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง มิใช่เพียงคำกล่าวอ้างในห้วงอารมณ์หรือเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองเฉพาะหน้า เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น มีพยานรู้เห็น มีหลักฐาน และมีผู้คนมากมายที่ยังจดจำได้

หากย้อนกลับไปพิจารณา ”เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์“ หลายคนมีบทบาทสำคัญในการเมืองไทย โดยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรก คือ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ที่มีนายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค ยังมีเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายคนที่เอ่ยชื่อแล้วจะร้อง ”อ๋อ“ ล้ำเลิศในเชิงยุทธทางการเมือง เช่น ดำรง ลัทธิพิพัฒน์ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธื์ สุเทพ เทือกสุบรรณ ก่อนจะมาเป็นเฉลิมชัย ศรีอ่อน และเดชอิศม์ ขาวทอง

บุคคลเหล่านี้ คือบุคลากรระดับนำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ควรได้รับการจดจำ เป็นคุณูประการต่อพรรคประชาธิปัตย์ และชาติบ้านเมือง เพราะทุกคนก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีทุกคน

แต่เมื่อบุคคลระดับเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน คิดภาคภูมิใจว่า ตนเองเป็นขาวสงขลาคนแรกที่ได้รับเลือดเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อันเป็นการสะท้อนถึงการไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของพรรคเลย 

นี้ยังไม่พูดถึงเจตนารมณ์อุดมการณ์ของพรรคว่ามันจะเลือนลางไปขนาดไหนกับทีมบริหารพรรคยุคปัจจุบัน อาจถึงเวลาแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทย จะต้องหันมาทบทวน “ประวัติศาสตร์ของตนเอง” อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ข้อเท็จจริงถูกกลบด้วยคำกล่าวลอย ๆ และเพื่อให้เกียรติแก่บุคคลที่เคยสร้างคุณูปการให้กับพรรค ไม่ว่าจะอยู่ในหรืออยู่นอกพรรคในวันนี้ก็ตาม

หรือเดชอิศม์ ขาวทอง คิดว่า วีระเป็นคนพัทลุง เพราะเรียนหนังสือที่พัทลุง เป็น สส.พัทลุง ตั้งลำให้ดีครับเดชอิศม์ ในวันที่มีหัวโขนสำคัญ พลาดแล้วเรืออาจจะฝ่าพายุไปไม่รอด

 #นายหัวไทร

 #เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

 #วีระมุสิกพงศ์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น