คู่ชิง “สุนทร-สจ.กระวี” ลงสู่ศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีฯ เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว
……
ใกล้วันศาลฏีกานัดอ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหา มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช พรรคภูมิใจไทย ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พบมีการเคลื่อนไหวมากผิดปกติของคาดิเดท ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม หากผลทางคดีออกมาเป็นลบ คือมุกดาวรรณโดนใบแดง
พบการเคลื่อนไหวมากผิดปกติของ “สุนทร รักษ์รงค์” ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีแรงงาน “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” โดยในรอบ 1 อาทิตย์ “สุนทร”โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ้คถึงสรรพคุณของตัวเองถึงสองครั้ง เรื่องแรกเป็นการกล่าวถึงตำนานของตัวเอง “จากนักศึกษากิจกรรม สู่นักเคลื่อนไหวทางการ” และก้าวเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
ตอนที่ 2 สุนทร เขียนถึงประวัติการทำงานของตัวเอง เน้นไปที่การช่วยเหลือชาวสวนยางพารา ขาวสวนปาล์ม
ตอนแรกสุนทร บรรยายว่า
จากนักกิจกรรมในรั้วมหาลัย สู่การเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคม
โดยเฉพาะประเด็นสิทธิของเกษตรกร
ทั้งเรื่องยาง ปาล์ม ที่ดินทำกิน หนี้สิน และอื่นๆ
เมื่อมาเป็นนักการเมือง ต้องกล้านำเสนอนโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหา โดยวิธีการร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบ
คนที่เก่งกว่าเราและมีข้อมูลเชิงลึก ก็คือเครือข่ายพี่น้องเกษตรกร เราเป็นแค่นักประสานงาน วิเคราะห์ข้อมูล และช่วยผลิตนโยบายที่ตรงกับความต้องการของเกษตรกร
หมดยุคการกำหนดนโยบายจากบนลงมาข้างล่าง โดยทึ่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะผู้มีส่วนได้เสียต้องออกแบบและกำหนดอนาคตของตนเอง
ต้องสร้างอำนาจกำหนดใหม่ให้ประชาชนก่อน
จึงสามารถใช้วาทกรรม
“การทำงานการเมืองที่ยึดโยงกับผลประโยชน์ของประชาชน” พร้อมติดแฮสแท็ค #สุนทรลูกชาวบ้าน ลงวันที่ 17 มีนาคม 2568
ส่วนตอนที่สอง บรรยาสรรพคุณตัวระบุว่า
การต่อสู้เพื่อพี่น้องชาวสวนยาง
เส้นทางการต่อสู้ของสุนทรลูกชาวบ้าน จากแกนนำประท้วงราคายางข้างถนน สู่อดีดบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย และได้รับเลือกตั้งจากชาวสวนยางทั่วโลกเป็นอดีตบอร์ดยางระดับสากล(GPSNR) 2 สมัย
มีโอกาสได้ประชุมในเวทีระดับสากล ที่ประเทศสิงคโปร์ ฝรั่งเศส และอังกฤษ อีกทั้งยังได้รับโอกาสให้เป็นประธานร่วม(CO-Chairman) ของ GPSNR ในปี 2567
ผมเดินมาถึงจุดนี้ เป็นเพราะมีลมใต้ปีกคอยสนับสนุน นั่นก็คือพี่น้องชาวสวนยางทั่วประเทศ และภาคีเครือข่ายนักเคลื่อนไหวทางสังคม
ผมจึงต้องทำงานอย่างหนัก ให้สมกับที่พี่น้องชาวสวนยางไว้วางใจ สิ่งที่ภาคภูมิใจคือการเอาพี่น้องชาวสวนยางชายขอบ หรือชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และคนกรีดยาง เข้าสู่ระบบ นั่นคือสามารถขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยได้
ในเวทีระดับสากล เมื่อมีข้อกำหนดของ EU ที่เรียกว่า EUDR ไม่รับซื้อยางจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า ผมก็ต่อสู้ด้วยข้อกฎหมายว่า หลังมติ ครม.26 มิถุนายน 2561 ประเทศไทยไม่มีสวนยางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ยังวัดแปลงไม่แล้วเสร็จ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของชาวสวนยาง รัฐให้สิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินแก่ชาวสวนยางแล้ว ในฐานะไทยคือเบอร์ 1 ผู้ผลิตยางของโลก ผมเชื่อว่ามีส่วนผลักดันทำให้ข้อกำหนดของ EUDR จึงกำหนดไม่รับซื้อยางจากพื้นที่ไม่ชอบด้วยด้วยกฎหมาย(บุกรุกป่าไม้) ตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ความผันผวนเรื่องราคายางจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวสวนยางมาโดยตลอด จนยางกลายเป็นพืชการเมือง ผมและภาคีเครือข่ายสมัชชาสวนยางยั่งยืน พยายามเสนอนโยบายการทำสวนยางยั่งยืน เพื่อให้พี่น้องชาวสวนยางหลุดพ้นกับดักราคายางตกต่ำ อีกทั้งเป็นการเตรียมการให้ไทยเป็นผู้นำการทำสวนยางที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อันเป็นกระแสกรีน จากปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงของโลก
พร้อมสโลแกน “ไม่เสียสละ ชัยชนะไม่เกิด”
#สุนทรลูกชาวบ้าน
ลงวันข 19 มีนาคม 2568
ส่วนอีกคนที่เคลื่อนไหวในพื้นที่หนักเหมือนกัน คือ สจ.กระวี หวานแก้ว ด้วยการนำผลงานที่ทำในช่วงนี้มาโพสต์ในเฟสบุ้ค อันเป็นผลงานในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สว.ณัฐกิตติ์ หนูรอด ตัวอย่างเช่น
“วันนี้ 13 มีนาคม 2568 ได้รับมอบหมายจากท่าน ส.ว. ณัฐกิตติ์ หนูรอด สมาชิกวุฒิสภา จ.นครศรีธรรมราช ให้ร่วมต้อนรับผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในโอกาสมามอบนโยบายด้านการศึกษาให้กับโรงเรียนไม้เรียงประชาสรรค์ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รร.ในสังกัดการบริหาร ของ อบจ.นศ และต่อด้วยร่วมงานปัจฉิมนิเทศ มอบทุนการศึกษาแก่น้องๆ นักเรียน รร.นางเอื้อยวิทยา อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ครับ
สจ.กระวี หวานแก้ว
ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกวุฒิสภา จ.นครศรีธรรมราช ท่านณัฐกิตติ์ หนูรอด รายงาน
หรือ…? มีโอกาสก็ต้องทำงานให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ เต็มความสามารถครับ... 11 มีนาคม 2568 ช่วงเวลาก่อนเที่ยง ต้องขอขอบพระคุณท่าน ส.ว. นครศรีธรรมราช ท่านณัฐกิตติ์ หนูรอด เป็นอย่างสูง ที่ได้นำโครงการน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน ของ ต.ห้วยปริก อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เข้าไปอภิปรายติดตามโครงการในวุฒิสภา ให้พี่น้อง ต.ห้วยปริกและพื้นที่ใกล้เคียงครับ...
ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
สจ.กระวี หวานแก้ว ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ว.ณัฐกิตติ์ หนูรอด ส.ว.นครศรีธรรมราช รายงานครับ
หรือแม้กระทั้งการให้การต้อนรับองคมนตรี …..ฯพณฯ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและรองประธาน มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชและคณะ ตามกำหนดการตรวจเยี่ยม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช และ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เวียงสระ จ.สุราษฏร์ธานี ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคม พศ.2568
ปล.ภาพบรรยาย
สจ.กระวี หวานแก้ว
รองประธานกรรมการ มูลนิธิสมเด็จพระยุพราช ฉวาง คนที่2/ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สมาชิกวุฒิสภา จ.นครศรีธรรมราช ท่าน ณัฐกิตติ์ หนูรอด รายงาน
สื่อก็เริ่มจับตามอง โต๊ะน้ำชา-กาแฟ ยามเช้าก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันบ้างแล้ว ยกข้อดีข้อเสียของแต่ละคนมีแลกเปลี่ยนกัน
ในแง่ของข้อเท็จจริง สจ.กระวี ในระดับพื้นที่ก็มีผลงานอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงเป็น ส.อบจ.เขต อ.ฉวาง ไว้มีโอกาสเหมาะๆ จะนัดสัมภาษณ์สักครั้ง เพื่อนำมาเผยแพร่ให้ได้รับทราบกับ เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย
ส่วนคาดิเดทคนอื่นๆ ยังไม่พบการเคลื่อนไหวมากนัก น่าจะรอผลการตัดสินของศาลในวันที่ 26 มีนาคมนี้เวลา 10.00 น.
#นายหัวไทร
#เลือกตั้งซ่อมเขต8
#ใบแดงมุกดาวรรณ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น