โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2568

น่าสนใจ “พิพัฒน์”คิดอะไรอยู่ ตั้ง “สุนทร รักษ์รงค์“ เป็นคณะทำงาน

 น่าสนใจ “พิพัฒน์”คิดอะไรอยู่ ตั้ง “สุนทร รักษ์รงค์“ เป็นคณะทำงาน

….,


เป็นประเด็นที่น่าสนใจกับการที่ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่งตั้ง สุนทร รักษ์รงค์ อดีตผู้สมัคร สส. เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งปัจจุบันสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแล้ว ให้เป็นคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป


สุนทร ก็โพสต์ว่า

“ผมจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง”

แม้สุนทร รักษ์รงค์ จะยังไม่เปิดตัวชัดเจนว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขต 8 หากศาลฎีกาตัดสินให้ใบแดงและเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง”มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล“ สส. เขต 8 พรรคภูมิใจไทย ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ก็ตาม

แต่สำหรับ #นายหัวไทร เชื่อว่า เป็นการแต่งตั้งอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่งตั้งในช่วงที่อีก 10 วันศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษา สส.มุกดาวรรณ กรณีถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งถ้าศาลเชื่อตามพยานหลักฐานของ กกต. มุกดาวรรณก็จะโดนใบแดง เพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง และน่าจะต้องชดใช้ค่าจัดการเลือกตั้งใหม่ด้วย ซึ่งจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่

การแต่งตั้งสุนทรเป็นคณะทำงานของแกนนำภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย จึงมีความหมายยิ่งต่อการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีฯมีความหมายในแง่ของการคัดสรรตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการแต่งตั้งสุนทรเป็นคณะทำงานมีหลายนัยยะให้พิจารณา

นัยยะหนึ่งอาจจะเป็นการเสริมทีมทำงานในระดับพื้นที่ให้แข็งแกร่งขึ้น กับเป้าหมายการสู้รบในอนาคต แน่นอนว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าภูมิใจไทย จะต้องเปิดหน้าชกแบบเต็มพื้นที่ไม่มีถอยให้ใครในสนามเลือกตั้งภาคใต้ กล่าวสำหรับนครศรีฯ การเลือกตั้งปี 2566 ปักธงเมืองคอนได้ถึงสองที่นั่ง เป้าหมายปี 2570 จึงน่าจะไม่น้อยกว่า 5-6 ที่นั่ง 

แม้จะเป็นเป้าหมายที่ยากกับ 10 ที่นั่งของเมืองคอน และเป็นสนามที่ประชาธิปัตย์จะต้องยืนหยัดรักษาเมืองหลวงไว้ให้ได้ จะเห็นได้ว่า ทำไมพลังเมืองนคร ของเจ้ต้อย -กนกพร เดชเดโช ที่มีแทน-ชัยชนะ เดชเดโช ลูกชายอยู่เบื้องหลังถึงไม่สู้ศึกชิงประธานสภา อบจ.นครศรีฯ เพราะเขาต้องการเปิดทางให้ ”น้ำ-วาริน ชิณวงศ์“ นายกฯอบจ.ได้ทำงานเต็มที่ ไม่มีใครขัดใครขวาง ถ้าสำเร็จก็โชคดีไป แต่พลังเมืองนครประเมินว่า นโยบายที่แถลงไว้ ยากจะทำได้ เช่น ปัญหาขยะล้นเมือง ปัญหาน้ำท่วมเมือง เป็นต้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เป้าหมายของการเมืองกลุ่มนี้จึงมุ่งไปที่การเลือกตั้งใหญ่ สส.มากกว่า แล้วอนาคตค่อยมาหยิบเอาแบบง่ายๆในสนาม อบจ.บนความล้มเหลวในการจัดการของ ”น้ำ-วาริณ“

เมื่อภูมิใจไทย มีเป้าหมายใหญ่ จึงต้องมีคณะทำงานที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง ”พิพัฒน์“ก็คงจะมองเห็นศักยภาพของสุนทร จึงหยิบมาใช้งาน น่าจะใช้งานในเชิงการร่างนโยบายด้านการเกษตรของภาคใต้ เช่น นโยบายยางพารา นโยบายปาล์มน้ำมัน เป็นต้น

โดยพิพัฒน์น่าจะเล็งไปสู่สนามเลือกตั้งใหญ่มากกว่า แค่เลือกซ่อมให้เป็นเรื่องของคนในพื้นที่จัดการกันไป ตัวเลือกสำหรับภูมิใจไทยก็มีอยู่ไม่น้อย กลั่น และกรองออกมาได้ สจ.กระวี หวานแก้ว ผู้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย เช่น การผลักดันเขาศูนย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเที่ยว การผลักดันแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้วยการนำน้ำจากเขื่อนกระทูน มาใช้งานช่วยเหลือเกษตรกร แม้เวลานี้เป็นผู้เชี่ยวชาญปรจำตัว สว.ณัฐกิตติ์ หนูรอด ก็ทำหน้าที่ชงข้อมูลให้ สว.ณัฐกิตติ์ แก้ปัญหาขาดแคล้นน้ำ (แล้ง) ในโซน อ.ฉวาง อย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง

สุนทรเองก็มีความเหมาะสมยิ่งกับการลงสมัคร สส.จะในนามพรรคไหนก็แล้วแต่ เขตไหนก็ได้ หรือลงบัญชีรายชื่อก็ไม่แปลก เพราะเป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีเครือข่ายมาก

สุนทร จากนักศึกษากิจกรรม มาสู่นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กับบทบาทหน้าที่ในการดูแลชาวสวนยาง ชาวสวนปาล์ม

แต่สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีฯสำหรับพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะส่งใครลงสมัครเป้าหมายคือต้องชนะ รักษาฐานเดิมไว้ให้ได้

โดยสรุปว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทยแล้ว มีสองคนนี้เหมาะสมที่สุดในการได้รับโอกาสลงสมัครรับเลือกตั้งรับเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีฯ คนที่คลุกคลีกับชาวบ้าน ลุยอยู่กับพื้นที่ควรได้รับโอกาสนั้น

ความมุ่งมั่น ตั้งใจ อยู่กับมัน ทำให้มันเกิด คือเป้าหมายการต่อสู้ในสนามการเมืองที่ดุเดือด เข้มข้น

 #นายหัวไทร

 #เลือกตั้งซ่อมเขต8

 #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น