ผกก.สภ.โคกเคียนชี้แจงกรณีสาว นราฯร้อง”กัน จอมพลัง” ถูกสามีทหารทำร้ายร่างกายนัดให้ปากคำเพิ่มวันที่ 13 มี.ค. หลังฝ่ายชายเอาสินค้ามาคืนมูลค่ากว่า 100,000 บาทแล้ว ล่าสุดฝ่ายหญิงถอนแจ้งความแล้ว(มีคลิป)

ผกก.สภ.โคกเคียนชี้แจงกรณีสาว นราฯร้อง”กัน จอมพลัง” ถูกสามีทหารทำร้ายร่างกายนัดให้ปากคำเพิ่มวันที่ 13 มี.ค. หลังฝ่ายชายเอาสินค้ามาคืนมูลค่ากว่า 100,000 บาทแล้ว ล่าสุดฝ่ายหญิงถอนแจ้งความแล้ว(มีคลิป)

 ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน

ผกก.สภ.โคกเคียนชี้แจงกรณีสาวนราฯร้อง”กัน จอมพลัง” ถูกสามีทหารทำร้ายร่างกายนัดให้ปากคำเพิ่มวันที่ 13 มี.ค. หลังฝ่ายชายเอาสินค้ามาคืนมูลค่ากว่า 100,000 บาทแล้ว ล่าสุดฝ่ายหญิงถอนแจ้งความแล้ว

จากกรณีเพจดัง”กัน จอมพลัง ช่วยสู้” ลงเพจความว่าตอนนี้มีหญิงหนีตุยมาจาก นราธิวาสมาขอให้ผมช่วย ถูกสามีทหารซัดจนเลือดอาบฝ่ายหญิงแจ้ง ความแจ้งผู้การหน่วยแล้วแต่ฝ่ายชายไม่หยุดตามคุกคามจนหญิงอยู่ไม่ได้ต้องหนีมา ผมรับช่วย 

โดยในหลายๆเพจได้ลงข่าวความว่า…สาวเมืองนราฯ สุดช้ำ ! ถูกผัวทหารทำร้ายร่างกาย ชีวิตไม่ต่างจากตกนรก

เลือกผัวผิดทรมานไปทั้งชีวิต สาวเมืองนราธิวาส หอบร่างที่บอบช้ำ หลังถูกผัวทหารอารมณ์ร้อน ชอบใช้พฤติกรรมรุนแรง เล่นเอาเธอเลือดอาบหน้า เธอเล่าว่า คบหากับแฟนคนนี้มากว่า 7 ปี ช่วงแรก ๆ ดีทุกอย่าง วางแผนชีวิตเตรียมมีลูกด้วยกันแล้ว แต่นานวันไป จากผัวที่เคยดีก็กลายร่างเป็นอสูรร้าย เรื่องทั้งหมดมาจากความหึงหวง หลังจากเธอเปิดร้านขายของสำหรับเด็ก เจอลูกค้ามากหน้าหลายตา ผัวเริ่มจ้องจับผิดเธอ ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้ทำอะไร ผู้ชายที่แสนดีเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจก็ถ่มย้ำลายใส่เธอ ด่าทอ ทุบตี และคอยเช็กโทรศัพท์มือถือเธอตลอดเวลา เพราะคิดว่าเธอมีคนอื่น บางแช็ตฝ่ายชายไปเปิดเจอลูกค้า ส่งสติกเกอร์รูปหัวใจให้เป็นการขอบคุณ จากการขายออนไลน์ ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ฟางเส้นสุดท้าย 1 มกราคม ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ซ้ำยังโทรมาข่มขู่ฆ่า หากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความหรือบอกใคร เธอจึงขอแยกทาง หย่าขาดความรักครั้งนี้ เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมเข้าแจ้งความที่ สภ.โคกเคียน จังหวัดนราธิวาส แต่จนถึงทุกวันนี้ คดีความไม่คืบหน้า และถูกผู้กำกับ สภ.โคกเคียน และผู้บังคับบัญชาของฝ่ายชาย ขอให้เธอไปถอนแจ้งความ เลิกแล้วต่อกัน

สาวผู้เสียหายบุกถึงกองบัญชาการกองทัพบก ต้นสังกัดของฝ่ายชายทันที เพื่อหาหลักประกันความปลอยภัย ให้สาวนราธิวาสได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

ล่าสุดวันนี้ (11 มีนาคม 2568) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถาม พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน ซึ่งเป็นสถานีตำรวจที่ผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความ เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่าในวันที่ 11 มกราคม 68 ที่ผ่านมา น.ส.ราตรี(นามสมมุติ)ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับร.ต.อ.สุนันต์ สมภักสร พนักงานสอบสวนสภ.โคกเคียน แล้วทำการสอบสวนผู้เสียหายและให้ไปตรวจร่างกาย

ที่โรงพยาบาล โดยผู้เสียหายได้นำใบรับรองแพทย์มาให้ซึ่งข้อความระบุว่ามีอาการฟกช้ำ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้เรียกให้ทั้งคู่เข้ามาไกล่เกลี่ย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีทะเลาะวิวาทในครอบครัวระหว่างสามี-ภรรยา ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ หลังจากนั้นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 68 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้จ่าทหารพราน(สามี) มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาทำร้ายร่างกาย 

โดยจ่าทหารพราน ได้พูดจากับพนักงานสอบสวนโดยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนักและเริ่มมีปากเสียงกัน และหลังจากนั้นฝ่ายจ่าทหารพรานก็ได้ขอเข้าไปพบผู้กำกับที่ห้องทำงาน เพื่อร้องขอความเป็นธรรมว่าขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน และกล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีแค่ทำร้ายร่างกายในครอบครัว ขออนุญาตคุยกันก่อนได้หรือไม่ โดยผู้กำกับเองก็อนุญาตเพราะไม่อยากให้มีการกระทบกระทั่งในกรณี เจ้าหน้าที่ทหารพรานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.โคกเคียน เจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจบูรณาการการทำงานมาด้วยกันตลอด

 เพื่อความสบายใจในเมื่ออยากเปลี่ยนพนักงานสอบสวนก็เลยเปลี่ยนพนักงานสอบสวนเป็น ร.ต.อ.พิชญ์ สุวัฒติถิกุล และได้มีการโทรหาพูดคุยกับผู้เสียหาย ซึ่งทาวผู้เสียหายบอกว่าตอนนี้ตนอยู่กรุงเทพฯเพราะจ่าทหารพรานข่มขู่ว่าจะทำร้าย และได้พูดต่ออีกทั้งคู่แต่งงานอยู่ด้วยกันมา 7 ปีแล้วต่างคนก็ต่างรักกัน ซึ่งผู้เสียหายก็บอกว่ารักจ่าทหารพรานคนนี้มาก และฝ่ายชายเองก็รักภรรยามากเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้น พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ได้เสนอให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนามาพูดคุยกัน เพราะทั้งคู่ก็นับถือศาสนาอิสลามเหมือนกัน แต่ทางผู้เสียหายแจ้งว่าไม่เอา เพราะว่ารับไม่ได้ที่ตนโดนทำร้าย โดยฝ่ายหญิงแจ้งว่าต้องการหย่า โดยทั้งสองฝ่ายเลยตกลงหย่ากันในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากนั้นผู้เสียหายได้เข้ามาที่สภ. โคกเคียน

 โดยตกลงว่าจะถอนแจ้งความ ทั้งนี้ผู้เสียหายเปิดร้านค้าขายอุปกรณ์เครื่องใช้เด็ก โดยเข้าไปสำรวจสินค้าแล้วสินค้าหายจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้เป็นอดีตสามีได้เอาไป ผู้เสียหายต้องการสินค้าคืน เนื่องจากสินค้าเหล่านั้นมีมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท โดยผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าจะถอนแจ้งความต่อเมื่อ ภายใน 3 วันฝ่ายชายจะต้องเอาสินค้าเมื่อคืน หลังจากนั้นฝ่ายชายไม่ได้เอาสินค้ามาคืน นั้นผู้เสียหายเลยขึ้นกรุงเทพฯและไปร้องกับ กัน จอมพลัง 

และ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ได้แจ้งว่าเมื่อวานฝ่ายชายได้เอาสินค้าเมื่อคืนให้กับ สภ.โคกเคียนแล้ว 

ซึ่งล่าสุดเพจดัง”กัน จอมพลัง ช่วยสู้” ได้โพสข้อความว่าหลังจากผมพาหญิงจากนราธิวาสถูกสามีทหารซัดน่วมขู่ถอนแจ้งความพร้อมกับเอาของในร้นไปมาที่กองทัพบกและคุยกับท่านผู้การทหารพราน โดยผู้การหน่วยสัญญาลูกผู้ชายกับผมว่า ถ้าลูกน้องมาคุกคามรังแกหญิงคนนี้อีกอีกท่านผู้การจะลาออกทันที ท่านแจ้งกับผมว่าจะปลดอาวุธทหารคนนี้และจะลงโทษทางวินัยพร้อมกับสั่งให้ลูกน้องเอาของมาคืนทันที

 ส่วนหญิงจากนรารับข้อตกลง ส่วนตัวน้องถึงจะจบกันไม่ดีแต่น้องไม่อยากตัดอนาคตอดีตสามี ผมขอฝากถึงหนุ่มทหารคนนี้วันนี้เอ็งรักษาครอบครัวไว้ไม่ได้แล้วต้องรับความจริงให้ได้ สิ่งที่เอ็งควรรักษาหลังจากนี้คือสัญญาที่ให้ผู้การเพราะถ้ารอบนี้รักษาไม่ได้อีกเอ็งจะไม่เหลือใคร เหตุการนี้เป็นทหารคนเดียวที่ทำตัวไม่น่ารักแต่โดยรวมที่ผมเคยทำงานด้วยยังมีทหารที่ทำตัวน่ารักๆอีกเยอะ