โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568

แถลงการณ์ สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา เครือข่ายชาวพุทธเพื่อชายแดนใต้ ประณามการใช้ความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมในพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและแนวทางแก้ไขปัญหา

แถลงการณ์ สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา เครือข่ายชาวพุทธเพื่อชายแดนใต้ ประณามการใช้ความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมในพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและแนวทางแก้ไขปัญหา



เรื่อง ประณามการใช้ความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมในพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและแนวทางแก้ไขปัญหา
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. มีข่าวเหตุยิงปะทะและ วางระเบิดที่ว่าการอำเภอสุไหงโกลก เจ้าหน้าที่ อส.เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 8 คน ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 คน ล้วนละเมิดต่อหลักการสิทธิมนุษยธรรม ซึ่งอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส. ไม่ได้ถูกฝึกมาให้เป็นพลรบ และเป็นการก่อเหตุในพื้นที่สาธารณะ แหล่งเศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยว การใช้วัตถุระเบิดในสถานการณ์ต่าง ๆ อาจขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนและบรรทัดฐานด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะเมื่อส่งผลกระทบต่อประชากรพลเรือนและสิ่งแวดล้อม หลักมนุษยธรรมเน้นการปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีของมนุษย์ ซึ่งรวมถึงการลดความทุกข์ทรมานและการป้องกันการบาดเจ็บล้มตายที่ไม่จำเป็น ซึ่งการใช้วัตถุระเบิดมีผลกระทบต่อพลเรือน ดังนี้
- วัตถุระเบิดมักส่งผลกระทบกว้างขวาง ทำให้พลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
- การโจมตีในพื้นที่ที่มีประชากรพลเรือนหนาแน่น เช่น เมืองหรือชุมชน ขัดกับหลักการเลือกเป้าหมายทางทหาร (Principle of Distinction) ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
การใช้วัตถุระเบิดในสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือนและสิ่งแวดล้อมขัดกับหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น การจำกัดหรือห้ามใช้วัตถุระเบิดบางประเภทจึงเป็นความพยายามสำคัญในการปกป้องชีวิตและศักดิ์ศรีของมนุษย์
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา และเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ขอประณามการกระทำของ ผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรม ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ และเป็นการสร้างความหวาดกลัวแก่พลเรือน ทำลายความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของไทย พร้อมมีข้อเสนอดังนี้
1. ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงต่อพลเรือน และอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ซึ่งไม่ใช้ถูกฝึกมาเพื่อเป็นพลรบ ยุติการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดในการจูงใจในการก่อเหตุ เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากจะละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อหลักมนุษยธรรมอีกด้วย ต้องแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารและพลเรือน
2. ขอสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พยายามระงับยับยั้งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักนิติธรรม ทั้งไม่เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเป็นที่ยอมรับและขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวน และจับกุม ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
3. ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมมือกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต
ทั้งนี้ สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา ร่วมกับเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันดำเนินมาตรการในแนวทางสันติวิธี เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เราขอย้ำว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา และเราหวังว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อสร้างสันติภาพและความเข้าใจอันดีในสังคม
.
สมาคมเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (PDA)
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ชายแดนใต้ (B4P)
May be an image of text

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น