โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เริ่มแล้วอย่างยิ่งใหญ่งานบุญบั้งไฟ 1 เดียวในภาคใต้ จนถูกบรรจุในปฏิทินท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส


เริ่มแล้วอย่างยิ่งใหญ่งานบุญบั้งไฟ 1 เดียวในภาคใต้ จนถูกบรรจุในปฏิทินท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส(มีคลิป)

                                                                           







 ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.68 ที่บริเวณลานเอนกประสงค์บ้านโต๊ะโมะ ม.3 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส ได้เป็นประธานเปิดงานบุญบั้งไฟสุคิริน จากความร่วมมือของน.ส.ภาชินี พฤกษาพิทักษ์ รักษาราชการแทนท่องเที่ยวและกีฬา จ.นราธิวาส และนายมนัส ตั้งใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลถภูเขาทอง ได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นปีที่ 46


 และเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ถือว่าเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของพี่น้องชาวอีสาน ที่โยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ 8 หมู่บ้าน 440 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 2,000 คน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ที่เป็นมนต์เสน่ห์งานประเพณีดั้งเดิมที่สวยงามตระการตา ทั้งยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่คนในภาคใต้หาดูยาก

โดยจุดประสงค์ของงานบุญบั้งไฟของคนภาคอีสานโดยแท้ คือการบูชาพญาแถนหรือเทพแห่งฝน เพื่อต้องการให้มีฝนตกต้องตามฤดูกาล รวมทั้งเป็นการแก้ความเหงาที่ต้องการอยากกลับบ้านซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นจุดขายถูกบรรจุในปฏิทินท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาส ซึ่งตรงกับสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายนในทุกๆปี ซึ่งสะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงการอยู่ร่วมกันของผู้คนในสังคมพหุวัฒนธรรม ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ในการจัดงานกิจกรรมในครั้งนี้

ซึ่งพิธีเปิดเริ่มต้นด้วยขบวนนางรำซึ่งเป็นตัวแทนคนอีสานทั้ง 8 หมู่บ้าน มีทั้งผู้ใหญ่และบุตรหลาน รวมทั้งขบวนรถแห่บั้งไฟที่คนในชุมชนร่วมกันตกแต่งบั้งไฟอย่างสวยงามตระการตา ที่มีนักท่องเที่ยวในพื้นที่และประเทศมาเลเซีย ยืนชมความสวยงามและใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกตลอดเส้นทาง สมกับเป็นงานบุญบั้งไฟ 1 เดียวในภาคใต้ 






 การจุดบั้งไฟที่ ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนกับทางภาคอีสานแท้ๆ แต่ไม่แตกต่างกันมากนัก มีการจัดตั้งเป็นค่ายที่ปีนี้มีบั้งไฟมากถึง 20 ค่าย ส่งเข้าร่วมกิจกรรม 130 บั้งไฟพันเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อชิงเงินรางวัล 20,000 บาท โดยเกณฑ์การตัดสินบั้งไฟที่อยู่ในอากาศนานที่สุด ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของแต่ละค่ายที่ไม่ได้มีการเปิดเผยให้ล่วงรู้ต่อกัน








ด้าน น.ส.พรลภัส บุญโฮม บ้านเดิมอยู่หมู่บ้านเก่าค้อ อ.คง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า มีคนีสานจำนวนมากประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ย้ายลงมาตั้งรกราก พอมาอยู่แล้วคิดถึงบ้านก็ได้รวมตัวกันจัดประเพณีบุญบั้งไฟ เพื่อความหายคิดถึงบ้านที่เคยอยู่พลัดถิ่นพลัดฐานมา ก็เลยเป็นที่มาของงานบญบั้งไฟ เพื่อจะได้รวมตัวกันสังสรรค์พบปะญาติพี่น้อง คือปีนึ่งมีการจัดงานครั้งนึ่งรวมแล้วเป็นปีที่ 46 แล้วจ๊ะ

    ///////////////////////////// 14 มิถุนายน 2568




รมว.ยุติธรรม แถลงจับยาไอซ์ล็อตใหญ่ 615 กก. ในพื้นที่ชายแดนใต้ ลั่นเร่งขยายผลสาวถึงผู้บงการ(มีคลิป)


รมว.ยุติธรรม แถลงจับยาไอซ์ล็อตใหญ่ 615 กก. ในพื้นที่ชายแดนใต้ ลั่นเร่งขยายผลสาวถึงผู้บงการ(มีคลิป)


 ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474 


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตาม เร่งรัด การดำเนินงานป้องกัน ปราบปรามและแก้ไข ปัญหายาเสพติด (ครส.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดยะลา ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสามารถยึดยาไอซ์ได้มากถึง 615 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย และของกลางอื่น ๆ อีกหลายรายการ


การแถลงข่าวครั้งนี้มีบุคคลสำคัญจากหลายภาคส่วนเข้าร่วม อาทิ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, พล.ต.กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และพล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เปิดเผยว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเน้นย้ำการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง คณะกรรมการ ครส. ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) จัดทำแผนรวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงานด้านยาเสพติดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา





 โดยเริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน และจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2568 ในด้านการปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมาย พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 9 เป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทหารในพื้นที่, กก.3 บก.ปส.4 และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 9 เข้าปฏิบัติการใน 150 หมู่บ้าน/ชุมชน ผลการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 218 คดี ผู้ต้องหา 241 คน ยึดยาบ้าได้ 681,753 เม็ด และยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 17,222,996 บาท

สำหรับยาไอซ์ที่จับกุมได้ในครั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่ามีเป้าหมายเพื่อส่งผ่านไปยังประเทศที่สาม รวมถึงนำมาใช้ในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทยที่เป็นเมืองเศรษฐกิจ ซึ่งยาเสพติดเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง และจะเร่งขยายผลไปยังผู้บงการรายใหญ่ รวมถึงผู้ที่มีการฟอกเงินจากขบวนการค้ายาเสพติด 







พร้อมเตรียมหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ จะมีการปรับแผนบูรณาการให้เป็นแผนยุทธการที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในแต่ละพื้นที่ โดยอาศัยพลังจิตอาสาในการเอาชนะยาเสพติด และเน้นแนวทางการบำบัดฟื้นฟูเพื่อให้โอกาสผู้หลงผิดได้กลับตัวกลับใจสู่สังคม ด้วยการสร้างงานและสร้างอาชีพ


ด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยรายละเอียดการจับกุมว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.จชต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และผู้บริหารระดับสูงหลายท่าน ได้จับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ 1 คดี ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายอีรฮัม  นายอับดุลฮาดี และนายไฟท์ซาร์ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พร้อมของกลางยาไอซ์ 615 กิโลกรัม, รถยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตั้งข้อหา "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน โดยผิดกฎหมาย" เหตุเกิดบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ชุมชนลูโบะฆง หมู่ 3 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส


พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการสืบสวนติดตามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีพฤติการณ์ร่วมกันติดต่อกับนักค้ายาเสพติดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อลักลอบลำเลียงยาบ้าและไอซ์มาจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การสืบสวนขยายผลต่อเนื่องมาจากการตรวจยึดยาบ้า 396,000 เม็ด 

เมื่อเดือนกันยายน 2567 ในชุมชนลูโบะฆง ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าบุคคลในเครือข่ายที่ยังไม่ถูกจับกุมยังคงมีความเคลื่อนไหวในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาพักเก็บในหมู่บ้านเกิดเหตุ จึงได้ประสานงานกับแหล่งข่าวในชุมชนอย่างต่อเนื่อง จนได้รับแจ้งว่าเครือข่ายดังกล่าวเตรียมลำเลียงยาไอซ์จำนวนมากเข้ามาพักเก็บเพื่อรอส่งต่อ จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายที่ยังหลบหนีและยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อไป

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568

แม่ทัพภาคที่ 4 มอบหมาย ผอ.ศูนย์สันติวิธี ลงพื้นที่ระแงะ จ.นราธิวาส ขับเคลื่อนนโยบาย 5 งานสำคัญ เสริมสร้างความเข้าใจ-สานพลังทุกภาคส่วน สู่สันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

แม่ทัพภาคที่ 4 มอบหมาย ผอ.ศูนย์สันติวิธี ลงพื้นที่ระแงะ จ.นราธิวาส ขับเคลื่อนนโยบาย 5 งานสำคัญ เสริมสร้างความเข้าใจ-สานพลังทุกภาคส่วน สู่สันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้



ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน


วันนี้ (10 มิถุนายน 2568) เวลา 13.30 น. ที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มอบหมายให้  พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่

 เพื่อสร้างความเข้าใจและขับเคลื่อนงานตามแนวทางนโยบาย 5 งานสำคัญของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 รวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติงานมิติการเมือง และแนะนำคู่มือชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนราชการ 3 ฝ่าย, ชุดปฏิบัติการฝ่ายกิจการพลเรือนและชุดปฏิบัติการสริมสร้างความเข้าใจ เพื่อนำไปประยุกต์ปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยมี นายวิมุตติ อำนักมณี นายอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส, พันตำรวจเอก ศุภชัช (ยีหวังกอง) ณ พัทลุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ  ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ


ในการนี้ พลตรี เฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของการประสานงานในมิติการเมือง และการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานราชการ 3 ฝ่าย พร้อมทั้งแนะนำ 


คู่มือชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับพี่น้องประชาชน และพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน 

โดยเฉพาะระดับศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ ร่วมมือกันอย่างจริงจังในการ แก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยมีพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา เพื่อร่วมกัน ขับเคลื่อนจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป





คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธร รือเสาะ (กต.ตร.สภ.รือเสาะ ) จัดประชุม เน้น!!ความปลอดภัยชีวิตเพื่อสนอง ความต้องการของประชาชนในพื้นที่(มีคลิป)

 คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธร รือเสาะ (กต.ตร.สภ.รือเสาะ ) จัดประชุม เน้น!!ความปลอดภัยชีวิตเพื่อสนอง ความต้องการของประชาชนในพื้นที่(มีคลิป)



           เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน    2568 เวลา 09.30 น.ที่ ผ่านมา ณ ห้องศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธร รือเสาะ อำเภอ รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส  นายเจริญลาภ  นราสัตยวงศ์ ประธาน คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ ทำหน้าที่ประธาน ประชุม คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรรือเสาะ (กต.ตร.สภ.รือเสาะ ) ครั้งที่ 1 ประจำปี งบประมาณ 2568

 



        เพื่อให้คำปรึกษา ขอเสนอแนะข่าวสาร ปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ หาทางแก้ไข ส่งเสริมการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของตำรวจและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ งาน ประจำเดือน โดยมี พ.ต.อ.ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์.  ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร รือเสาะ พ.ต.ท.มานพ พรหมเมศ  สารวัตรปราบปราม .สถานีตำรวจ .รือเสาะ  คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธร รือเสาะ  เข้าร่วมประชุม



 

      หลังจากนั้น “พ.ต.อ.ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์  นายเจริญลาภ นราสัตยวงศ์ ประธาน คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรรือเสาะพร้อมด้วยคณะกรรมการได้ร่วมถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน






























ประพันธ์  ฤทธิวงศ์  บรรณาธิการปลายด้ามขวานชายแดนใต้/และคณะกรรมการ  ตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจสถานีตำรวจภูธร รือเสาะ   ภาพข่าว/รายงาน