โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567

“สรรเพชญ บุญญามณี”; ดุจดั่งเพชรที่เจียรนัยแล้ว

 “สรรเพชญ บุญญามณี”; ดุจดั่งเพชรที่เจียรนัยแล้ว 

……




สรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา เขตเลือกกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์  โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว แสดงจุดยืนชัดเจน ไม่เห็นด้วยกับการนำพาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ตามเทียบเชิญ 

ของพรรคเพื่อไทย

สรรเสชญ แสดงจุดยืนเคียงข้างกับ “ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน และจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์” 3 อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ยืนหยัดรักษาเจตนารมย์ และอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ ยืนอยู่คนละฝั่งกับพรรคเพื่อไทย ด้วยนโยบาย อุดมการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างชัดเจน

“ผมขอแสดงจุดยืนในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้แทนประชาชนชาวสงขลา คือ “ไม่เห็นชอบ” และขอคัดค้านการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ไม่ว่ามติของกรรมการบริหารพรรค - สส. จะออกมาเป็นอย่างไร “ผมพร้อมเคารพมติเสียงส่วนมาก” แต่ผมขอใช้สิทธิ์ 1 เสียงในฐานะ สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงมติ “ไม่เห็นชอบ” เพื่อคัดค้านการนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย         

ชัดเจน งดงาม ดุจดั่งเพชรเม็ดงาม ได้รับเสียงปรบมือ ชื่นชมจากชางสงขลา และคนไทยทั้งประเทศ ท่าทีและจุดยืนที่มั่นคงเหล่านี้อาจจะสืบสายเลือดมาจากผู้เป็นบิดา “นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายกฯอบจ.สงขลา


วันนี้ของ ”น้องเพชญ“ แพรวพราวดุจเพชรที่เจียรนัยแล้ว เป็นเครื่องประดับเม็ดงามของ ”ประชาธิไตย“ ในบริบทของพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเป็น สส.เพียงสมัยแรกก็ตาม แต่ถือเป็น young blood เป็นดาวประดับฟ้าที่เจิดจรัสแสงส่องแพรวพราวระยิบระยับ เปี้ยมล้นไปด้วยเจตนารมย์ และอุดมการณ์ประชาธิปัตย์


”วันนี้ รัฐบาลมีเสียงในสภาเกิน 300 เสียงแล้ว ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องเพิ่มเสียงรัฐบาลในรัฐสภา เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอดีตดังที่เคยเป็นมา ไม่ว่าจะเป็นการดันกฎหมายจนสุดซอย หรือการกระทำต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดพวกมากลากไปโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา และที่สำคัญที่สุดผมไม่สามารถทรยศพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ พรรคเราต่อสู้ทางด้านความคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองที่ไม่ชอบธรรมมาอย่างยาวนาน ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งปัจจุบันก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “นายกรัฐมนตรีตัวจริงคือใคร” หรือใครเป็นผู้ครอบครองรัฐบาล สิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายความเข้มแข็งของพรรคการเมืองและประชาธิปไตยอย่างชัดเจน พร้อมกับการปิดสวิตช์ 3 ป. ที่ว่า นั่นคือ ประชาชน ประชาธิปไตย และประชาธิปัตย์ 

สรรเพชญ ตอกย้ำว่า ในเวลานี้ประเทศต้องการฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ไว้คอยตรวจสอบการทำงาน และถ่วงดุลการใช้อำนาจของรัฐบาล ถ้าหากวันนี้เราเลือกที่จะเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อเข้าไปมีอำนาจ โดยละทิ้งประชาชนที่สนับสนุนเราตลอดมา การเลือกตั้งครั้งหน้า แม้แต่เป็นฝ่ายค้าน ประชาชนก็อาจจะไม่ให้โอกาสเราอีกต่อไป

แน่นอนที่สุดว่า จุดยืนของสรรเพชญ อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายบริหารพรรคในเวลานี้ที่นำโดย “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรคผู้ตระบัดสัตย์ ประกาศเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอาจจะเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” มี “เดชอิศม์ ขาวทอง” เป็นเลขาธิการพรรค ที่สะท้อน “ความอยาก”มาตั้งแต่ต้นว่า อยากเป็นรัฐมนตรี อยากร่วมรัฐบาล ตั้งแต่เขายังไม่เทียบเชิญ

โดยเฉพาะการแสดงออกของเดชอิศม์ ขาวทอง ที่บอกว่า คนสงขลาส่วนใหญ่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล การยกคำว่าคนสงขลาส่วนใหญ่ขึ้นมาอ้าง ทำให้คนสงขลาไม่น้อย ไม่ค่อยจะพอใจ บางคนทำคลิปตอบโต้ผ่านสื่อโซเชี่ยล จนมีการแชร์กันกระจาย ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่า ไม่จริงที่คนสงขลาส่วนใหญ่อยากให้ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล อยากรู้ว่า เดชอิศม์ไปถามใครมา ถามภรรยา และลูกเหลอ


แน่นอนครับว่า ไม่ว่าจะเป็นท่าทีจากสรรเพชญ หรือท่าทีจากเดชอิศม์ จะสะท้อนผ่านการเลือกตั้งในสมัยหน้า การเลือกตั้งสมัยหน้าถ้าเป็นไปตามวาระก็เดือนพฤษภาคมปี 2567 ส่วนสภาจะอยู่ได้จนครบวาระหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมนักการเมือง และสถานการณ์ทางการเมือง อาจจะจบลงด้วยยุบสภา หรืออุบัติเหตุอื่นทางการเมืองก็เป็นได้

ขอให้รัฐบาลนี้รอดพ้นจากปากกาของนักร้อง และผู้อยู่เบื้องหลังนักร้องให้ได้ก่อน ดูข้อมูลแล้ว ทั้ง “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” คงหนีไม่พ้นถูกร้องเรียนเรื่อง “จริยธรรม”แน่นอน เฉลิมชัยมีทั้งเรื่องหมู่เถื่อน มีตั้งวาระกรรมเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต

รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะมา มีชื่อหลายคนจ่อคิวถูกร้องเรียนเรื่องจริยธรรม ไม่เว้นแม้แต่แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ที่จะโดนเรื่องข้อสอบรั่ว สมัยสอบเข้าจุฬา และการถือครองสนามกอล์ฟอัลไพล์ ที่ดินบริตาคให้วัดของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา 30% แม้นแพทองธารจะพยายามออกมาบอกว่า ลาออกจากทุกบริษัทในเครือชินวัตรก่อนเข้ารับตำแหน่ง แต่คงลืมไปว่า การลาออกกับการถือครองหุ้นเป็นคนละเรื่องกัน

ที่สำคัญ “จริยธรรม” มีกรอบที่กว้างมาก เริ่มต้นตั้งแต่คลอด จนถึงตาย ไม่ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่ง “เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์“ อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ รับมรดกที่ดินมาจากพ่อ ยังถูกประหารชีวิตทางการเมือง แต่ไม่ว่าข้อสอบรั่ว หรือครอบครองสนามกอล์ฟอัลไพล์ เป็นเรื่องที่แพทองธารก่อการขึ้นมาเอง รับมาเอง

ขอให้ ”น้องเพชร“ รักษาความแพรวพราว เงางามไว้ให้ตลอด แล้วจะได้เป็น สส.สงขลาตลอดกาล ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหนก็ตาม


#ประชาธิปัตย์

#ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน

#ลูกสงขลา

#ยึดมั่นอุดมการณ์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น