“ราเมศ”สวด‘อันวาร์’! ‘เอาความเท็จป้ายสีปชป. ชี้ปชช.ตัดสินได้ดีหรือไม่?
คนมีวุฒิภาวะเขาไม่ทำกัน! "ราเมศ"สวด"อันวาร์" เอาความเท็จป้ายสีพรรคปชป. ชี้ปชช.ตัดสินได้ลูกที่ด่าพ่อแม่ตัวเองดีหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายอันวาร์ สาและ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พร้อมกับระบุเหตุผลที่เขียนในหนังสือลาออกนั้น ว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่บิดเบือน และทำให้พรรคเกิดความเสียหาย คนที่มีวุฒิภาวะเขาไม่ทำกัน การลาออกถือว่าเป็นการตัดสินใจส่วนของคุณอันวาร์ แต่ไม่ควรมาทำร้ายบ้านเกิด บ้านที่เคยใช้อาศัย พูดไปก็คงไร้ประโยชน์ แต่สิ่งนี้จะทำให้ประชาชนตัดสินได้ว่าลูกที่ด่าพ่อแม่ตัวเองดีหรือไม่ดี และสิ่งที่คุณอันวาร์ทำดีหรือไม่ดี
นายราเมศ กล่าวว่า การที่นายอันวาร์ ระบุว่าเป็นการทำไปเพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีคิด "ทำในสิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด" นั้น ตนเห็นว่า เป็นเพียงประโยคที่ดูดีในคำพูดเท่านั้น แต่พรรคได้ยึดหลักการนี้มาตลอด และที่สิ่งสำคัญคือ สมาชิกพรรคต้องมีวินัย ซื่อสัตย์ต่อองค์กรเป็นสำคัญด้วย ไม่เช่นนั้นจะพูดอย่างไรก็ได้แต่การกระทำสวนทางกันตลอด
นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนการที่บอกมาว่าประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม ต้องทำ ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ดีแต่พูดนั้น ตนเชื่อว่าแก่นแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ มีอุดมการณ์มั่นคงเช่นเดิม ที่ยึดการทำงานให้กับประชาชนและประเทศ แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไปในวันนี้ อย่างแรกคือ การที่พรรคไม่มีสมาชิกพรรคที่จะคอยทิ่มแทงให้ร้ายพรรคตลอดเวลา ดังนั้น หากพรรคดีแต่พูดตามที่นายอันวาร์บอก นายอันวาร์ก็คงไม่มาถึงวันนี้เป็นแน่ การที่นายอันวาร์ได้เป็น ส.ส.มา 4 สมัย ได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการในนามพรรคประชาธิปัตย์ นโยบายพรรคมากมายที่สามารถทำจนสำเร็จและพี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์มากมาย แต่สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่นายอันวาร์กลับทำเป็นมองไม่เห็น
"ดังนั้น ในวันข้างหน้าเมื่อได้ไปอยู่พรรคใหม่แล้ว หากนายอันวาร์แน่จริง ก็ขอให้ช่วยหาเสียงโดยยกเลิกสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำไว้จนเป็นผลสำเร็จให้หมด ทั้งเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ เรื่องกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โครงการนมโรงเรียน โครงการประกันรายได้พี่น้องเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์กว่า 8 ล้านคน โครงการบ้านมั่นคง การให้สิทธิในที่ดินทำกิน และอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นนักปฏิบัติมาตลอดไม่ใช่เพียงแต่พูดอย่างเดียว เพราะถ้าพูดอย่างเดียวจะอยู่มาได้ถึง 77 ปีได้อย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะขณะที่กำลังชี้นิ้วว่าพรรคอยู่ แต่อีกสี่นิ้วที่เหลือก็ชี้เข้าหาตัวคุณอันวาร์หมดเช่นกัน" นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า โดยส่วนตัวแล้วตนกับนายอันวาร์ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ยังสามารถเคารพนับถือกันเหมือนพี่น้อง แต่วันนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีก เพราะการกระทำแบบนี้ หากเป็นคนดีคนจริงเขาไม่ทำกัน ตนยังจำคำที่นายชวน หลีกภัย ได้ขอร้องกับสมาชิกพรรคทุกคนว่า หากไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรค ก็อย่าเป็นตัวถ่วงของพรรค หมายความว่า อย่าคอยแต่วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพยายามหาทางช่วยเหลือ เพราะแต่ละคนก็ได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งนั้น จึงเชื่อมั่นว่าสมาชิกพรรคทุกคนได้ตระหนักในคำของนายชวน ส่วนคนที่ไม่คิดถึงเรื่องนี้ก็ขอให้ไปดี และขอให้พรรคที่รับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ โชคดีเช่นกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น