โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

นายหัวไทร จับตามอง จุดโฟกัส แก้รัฐธรรมนูญ ใครจะโหวตตัดอำนาจตัวเอง

 นายหัวไทร  จับตามอง จุดโฟกัส  แก้รัฐธรรมนูญ ใครจะโหวตตัดอำนาจตัวเอง



แก้รัฐธรรมนูญ ใครจะโหวตตัดอำนาจตัวเอง ;นายหัวไทร

…..

วันที่ 6-7 จะเป็นวันประชุมรัฐสภา ซึ่งหมายถึงการประชุมร่วมกันของสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นเอง ซึ่งมีระเบียบวาระการประชุมอยู่หลายเรื่อง แต่วาระสำคัญคือการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีอยู่ 5 ร่าง รวมถึงร่างของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยยาย พรรคเสรีรวมไทย อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ล่ารายชื่อประชาชน เสนอขอแก้ไข ม.272 ตัดอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี

 


นายสมชัย ในฐานะคณะผู้รณรงค์แก้ไข ม.272 ได้เขียนประเมินเสียงในรัฐสภา ในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในบทเฉพาะกาลมาตรา 272 ประเด็นการตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรกของรัฐสภา ตามที่ประชาชน 64,151 รายชื่อเสนอ ว่า

 

ประเมินเสียง ส.ส. และ ส.ว. ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี สำหรับการประชุมรัฐสภา 6-7 กันยายน 2565

 

1.สิ่งที่ต้องการ คือ คะแนนเสียงรวมเกินครึ่งของรัฐสภา คือ ประมาณ 365 เสียง โดยในจำนวนดังกล่าว ต้องมี ส.ว.อย่างน้อย 84 เสียง

 

2.สิ่งที่คาดว่าจะได้จาก ฝั่ง ส.ส. คือ น่าจะความเห็นไปในทางเดียวกันทั้ง 100% ว่าสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว เพราะหากพรรคใดบอกว่า อยากให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี คงเป็นประเด็นจุดอ่อนในการหาเสียง ดังนั้น คะแนนฝั่ง ส.ส. น่าจะได้จาก ส.ส. เกือบทั้งหมดที่มาประชุม ประมาณ 300-400 เสียง

 

3.สิ่งที่คาดว่าจะได้จากฝั่ง ส.ว. คือ น่าจะได้เสียงสนับสนุนไม่เกิน 40 เสียง จาก ส.ว.ที่มาประชุมประมาณ 150 คนจาก 250 คน โดยส่วนใหญ่ที่เหลือจะเลือกใช้วิธีงดออกเสียง มากกว่า ลงมติไม่รับ

 

4.หากแก้ไขสำเร็จ ถือว่าเป็นสิ่งดีต่อระบบการเมืองไทย ที่คืนสู่ภาวะปกติ เข้าสู่การแข่งขันทางการเมืองที่เป็นธรรม ลดความขัดแย้งในสังคม แต่หากไม่สำเร็จ ถือเป็นเชื้อต่อความสำเร็จของฝ่ายประชาธิปไตยในอนาคต

 

      การสะท้อนเสียงจากการประเมิน สรุปความได้ว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายสมชัยจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพราะมีเสียง สว.ไม่ถึง 84 เสียง หรือ 1/3 นั้นเอง เหตุที่ประเมินว่าจะได้นับเสียงสนับสนุนจากสว.ไม่ถึง 1/3 เพราะเป็นการแก้ไขเพื่อตัดอำนาจของ สว.ในการโหลตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นเอง ไม่เกี่ยวกับหลักการประชาธิปไตยอะไร

 

       ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สว.มาจากการสรรหา และแต่งตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 250 คน โดยมี 6 คนมาโดยตำแหน่งจาก ผบ.เหล่าทัพต่างๆ รวมถึงปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย อยู่ในวาระ 5 ปี และใน 5 ปีนี้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีได้

      สว.ชุดนี้ใช้สิทธ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 1 ครั้ง และถ้าเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งหน้าปี 2566 สว.ชุดนี้ก็ยังมีสิทธ์ออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีได้อีก 1 ครั้ง เว้นเสียแต่ว่า มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ได้สำเร็จด้วยการตัดสิทธิ์ของ สว.ในการออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป

     ถ้าแก้ไขไม่สำเร็จ สว.250 คนก็ยังคงสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 1 ครั้ง ก็ถือว่ายังเป็นคราบไครของเผด็จการที่ยังหลงเหลืออยู่ในระบอบประชาธิปไตย ที่มี 250 เสียงอยู่ในมือไม่ต้องลงสู้สนามเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้าฝ่ายมีอำนาจปัจจุบันเพียงรวมเสียง สส.ให้ได้เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 251 เสียงก็จะเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว โดยมีเสียง สว.250 เสียงรองรังอยู่แล้ว

     แต่ถ้าฝ่ายเรืองอำนาจปัจจุบัน รวมเสียงได้ไม่ถึง 251 เสียง แปลความได้ว่า อีกฝ่ายรวบรวมเสียงได้มากกว่า ก็จะเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมในการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่ว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.หรือไม่เท่านั้นเอง ถ้า สว.ไม่ออกเสียงสนับสนุนก็ไม่อาจจะจัดตั้งรัฐบาลได้ เว้นเสียแต่ว่า สว.สำเนียกนึกถึงเสียงของประชาชนที่เลือกตั้งอีกฝ่ายหนึ่งเข้ามามากกว่า ยอมโหวตให้ผ่าน

     นี้เป็นอีกก้าวย่างของกระบวนการประชาธิปไตยของไทยเรา ถ้าฟังตามการประเมินเสียงของอ.สมชัย โอกาสจะตัดอำนาจ สว.ในการออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีแทบจะไม่มีเลย…อนิจจาประชาธิปไตย

 #นายหัวไทร #แก้รัฐธรรมนูญ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น