โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

เส้นทางการเมือง “นิพนธ์ บุญญามณี” จากนักศึกษากิจกรรมสู่รัฐมนตรี ;นายหัวไทร

 เส้นทางการเมือง “นิพนธ์ บุญญามณี” จากนักศึกษากิจกรรมสู่รัฐมนตรี ;นายหัวไทร

……


นิพนธ์ บุญญามณี เป็นนักการเมืองและทนายความ เขาเพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา หลัง ป.ป.ช.ส่งสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เบิกจ่ายงบประมาณให้กับบริษัทที่ชนะการประมูลรถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา หลังพบว่ามีการสมยอมราคา (ฮั้ว) และทางจังหวัดสงขลาสั่งชะลอการจ่าย

       กล่าวสำหรับนิพนธ์ ยังมีตำแหน่ง เป็นรองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน รวม 8 สมัย อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสงขลา


นิพนธ์ บุญญามณี เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นคนไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน เป็นหลานของบุนติ่น แซ่อิ้ว (เอี้ยว) ซึ่งอพยพมาจากอำเภอเจียวอัน จังหวัดเจียงจิว มณฑลฮกเกี้ยน เป็นบุตรของเฉี้ยงและจิ้ว บุญญามณี


นิพนธ์ เข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนวัดนาทับ อ.จะนะ โรงเรียนถนนวิเชียรชม และจบมัธยมปลายจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบเนติบัณฑิตไทย (สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา), ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง


ชีวิตครอบครัว นิพนธ์ สมรสกับ กัลยา บุญญามณี ปลัดเทศบาลนครสงขลา มีบุตร-ธิดา 3 คน ได้แก่ นิธิยา บุญญามณี สรรเพชญ บุญญามณี และนิธิกร บุญญามณี โดยบุตรคนแรกรับหน้าที่ดูแลธุรกิจสืบทอดจากบิดา คนที่สองคือสรรเพชญ สนใจงานการเมือง เคยลงสมัคร สส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่สำเร็จ และยังมุ่งมั่นทำงานการเมืองต่อไป ส่วนคนสุดท้องก็ดูแลภารกิจด้านกฎหมายให้กับคนในครอบครัว และธุรกิจในครอบครัว


นิพนธ์เติมโตมากับนักศึกษากิจกรรม ในม.รามคำแหง อดีตประธานชมรมค่ายอาสาพัฒนารามทักษิณ ในยุคก่อตั้ง เขายังตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคเยาวชนก้าวหน้า นิพนธ์ เป็นหัวหน้าพรรค สมัยเรียน ม.ปลาย ปี 2518 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ สงขลา ซึ่งเป็นยุคแห่งการแสวงหาของขบวนการนักเรียน นักศึกษา ถือเป็นฝ่ายก้าวหน้าในขบวนการนักศึกษาในยุคนั้น


นิพนธ์โตมาพร้อมเพื่อนร่วมสถาบัน “เจือ ราชสีห์” ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขึ้นเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ จากการบ่มเพาะประสบการณ์มากมายจาก “เสธฯหนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์


จบนิติศาสตร์ และเนติบัณฑิตนิพนธ์ บุญญามณี บ่ายหน้ากลับสงขลา เปิดสำนักงานทนายความ จังหวะปะเหมาะนิพนธ์ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาจังหวัดสงขลา ได้รับเลือกเป็น 2 สมัย (พ.ศ. 2528, พ.ศ. 2533) ด้วยคะแนนท่วมท้นเป็นประธานสภาจังหวัดสงขลาด้วย


นิพนธ์ ถือเป็นยังประชาธิปัตย์ (young democrat )รุ่นแรกๆ ของพรรค ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาเยาวชนมา ต่อมาได้เข้าสู่งานการเมืองระดับชาติโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา และได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 หรือ 35/1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเรื่อยมารวม 5 สมัย คือ 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ/สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย (2548, 2550, 2554)[2] รวมทั้งสิ้นเป็น ส.ส. 8 สมัย


นิพนธ์ บุญญามณี ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในปี พ.ศ. 2537 เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (ไตรรงค์ สุวรรณคีรี)ในปี พ.ศ. 2541 และเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งในปี พ.ศ. 2542 ประจำตัวพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ และ พ.ศ. 2543 ประจำตัวบัญญัติ บรรทัดฐาน รองเลขาธิการพรรคในยุคที่มีสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิดารพรรคและเป็นรองเลขาธิการพรรคต่อมาอีกหลายปี

ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลจะมีชื่อนิพนธ์ เป็นรัฐมนตรีทุกครั้ง เช่น จะได้เป็นรัฐมนตรีแรงงานบ้าง รัฐมนตรีพัฒนาสังคมฯบ้าง แต่ก็พลาดโอกาสทุกครั้ง


ในการทำงานในฐานะฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลเงาขึ้น นิพนธ์ ได้ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเงา และเมื่อตำแหน่งนายกฯอบจ.สงขลาว่างลง นิพนธ์ตัดสินใจลาออกจาก สส.และไปลงสมัครเป็นนายกฯอบจ.สงขลา และได้รับเลือกตั้งมาสองสมัย โดยเอาชนะ “อุทิศ ชูช่วย” เพื่อนร่วมสถาบัน


นิพนธ์ ลาออกจากส.ส. เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯอบจ.สงขลา จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2562 ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หลังประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 เพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา


นิพนธ์ ถูกบริษัทพลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ชนะการประมูลรถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เหตุไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถให้ผู้ชนะการประมูล มูลค่า 50 กว่าล้านบาท แต่ทาง อบจ.สงขลาก็ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการฮั้วประมูล ทางจังหวัดสงขลาจึงสั่ง อบจ.สงขลาชะลอการจ่าย นิพนธ์จึงไม่เบิกจ่ายงบก้อนนี้ตามคำสั่งของจังหวัดในฐานะผู้บังคับบัญชา และมีการฮั้วประมูลด้วย มีการใช้เอกสารปลอมด้วย


ป.ป.ช.มีมติส่งสำนวนฟ้องนิพนธ์ไปยังอัยการ ซึ่งอัยการเห็นแย้งกับ ป.ป.ช.จึงมีการตั้งกรรมการร่วมพิจารณาสำนวน พบมีจุดอ่อนถึง 16 จุด และ ป.ป.ช.ก็ไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มมาปิดจุดอ่อนได้ คณะกรรมการร่วมจึงมีมติสั่งไม่ฟ้อง และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด อัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ส่งสำนวนกลับไปให้ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติฟ้องเอง


เมื่อสำนวนฟ้องไปถึงศาลนิพนธ์จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อออกไปต่อสู้คดีโดยไม่ต้องมีตำแหน่งรัฐมนตรีไปกดดันใคร และไม่ประสงค์ใช้เวลาราชการไปต่อสู้คดี


วันนี้นิพนธ์ ยังมีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตามภารกิจที่จะต้องเดินหน้าขับเคลื่อน ฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป เพื่อก้าวสู่สนามเลือกตั้งในอีกไม่นานนี้

 #นายหัวไทร #นิพนธ์ #ประชาธิปัตย์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น