ยาวๆไป….จะหมดอายุความอีกแล้ว คดี “ฮั้ว”จัดซื้อรถซ่อมถนนของ อบจ.สงขลา
…….
บางคนอาจจะแปลกใจกับการที่นายเชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต. อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อเร่งรัดดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวนสงขลา ใน 2 คดี
สองคดีที่ว่าเป็นคดี อาญาที่ 76/2564 และคดีอาญาที่ 77/2564 เพื่อให้เร่งดำเนินคดีที่เคยแจ้งความไว้แล้วกับ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน
และกลุ่มบริษัทคู่เทียบ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฮั้ว)เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้รับความเสียหาย
โดยเฉพาะคดีแรกจะขาดอายุความในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 และคดีที่ 2 ขาดอายุความในวันที่ 18 กันยาน 2565 ขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีจำนวนหลายกลุ่ม จึงเป็นเหตุให้ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปหลายคน และยังจับตัวไม่ได้
นายอิทธิพล ดวงเดือน ผู้บริหารบริษัท พลวิศว์ แทคพลัส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประมูลรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาครั้งที่ 3 ที่ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จ่ายเงินให้กับนายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นผู้ต้องหาร่วมอยู่ในของคดีนี้ด้วย
ที่สำคัญคือ นายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นผู้ ชนะการประมูลขายรถซ่อมบำรุงทางฯให้กับ อบจ.สงขลา ทั้งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมถึงครั้งที่ 3 ด้วย
อบจ.สงขลามีความกังวลว่าผู้ต้องหาทั้งหมดพยายามที่จะประวิงเวลา เพื่อให้คดีขาดอายุความทางอาญา และไม่ต้องรับโทษทางอาญา จากความพยายามยื่นร้องขอความเป็นธรรม ทั้งๆที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในทางแพ่งไปแล้วจากการที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ อบจ.สงขลาจ่ายค่ารถ 50 กว่าล้าน พร้อมดอกเบี้ยอีก 30 กว่าล้าน ซึ่งเป็นเงินภาษีประชาชนจำนวนมากที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาต้องจ่ายตามคำสั่งศาล
แม้พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสงขลา จะยืนยันว่า หลังได้รับสำนวนการสอบสวนมาจาก ป.ป.ช. ทางตำรวจก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมกันทำงานเก็บหลักฐานทั้งสองคดี
“ทางคณะกรรมการสอบสวนได้มีการเร่งรัดให้การสอบสวนให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับคู่กรณีทั้งสอง และในส่วนจะยื้อเวลาหรือไม่นั้น เราได้มีการทำงานตามรูปแบบของคณะกรรมการ คณะทำงานกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด”
ผู้การฯสงขลา กล่าวยืนยันว่า เรื่องการสิ้นสุดอายุความ เป็นสิ่งที่ทางพนักงานสอบสวนให้ความสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเราได้ทำงานตามกร อบระยะเวลาตามข้อกฏหมาย เพื่อมิให้เกิดความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสงขลา ติดตามบุคคลที่มีหมายจับอยู่แล้ว ซึ่งเรามี พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.ภ.สงขลา เป็นหัวหน้าคณะในการทำงาน โดยขณะนี้ทางตำรวจยังไม่มีความกังวลใจในเรื่องนี้ เพราะว่าจะเป็นฝ่ายใดมีเอกสารหลักฐานใด คณะกรรมการสอบสวนก็มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะนำเสนอต่อพนักงานอัยการฉะนั้นความกังวลใจใดๆ
แม้พนักงานสอบสวนจะไม่มีข้อกังวล แต่ อบจ.ในฐานะเจ้าทุกข์มีความกังวลใจแน่นอน เพราะมีคดีความมากมายที่หมดอายุความบนมือของพนักงานสอบสวน ไม่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาหามาดำเนินคดีได้
อย่างล่าสุด คดีสนับสนุนให้มีการบุกรุกป่าเขาใหญ่ของ “สุนทร วิลาวัลย์” นายกฯอบจ.ปราจีนบุรี ตำรวจก็ตามจับไม่ได้จนหมดอายุความไปแล้ว 1 คดี
อบจ.สงขลาน่าจะมีข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา หลังศาลอนุมัติออกหมายจับ 8 ราย อันเป็นความเคลื่อนไหวในความพยายามจะหลบหนีมากกว่าความพยายามในการติดต่อเข้ามอบตัว และมีรายงานว่า มีอย่างน้อยสองรายหลบหนีไปแล้วด้วย
คดีเกี่ยวกับการฮั้วประมูลรถซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา นอกจากทาง อบจ.สงขลา ในฐานะผู้เสียหายจะไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ล่าสุด ปปช.ก็เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับบุคคลกลุ่มเดียวกันด้วย
ปปช.ยังดูแลคดีเกี่ยวกับคำร้องให้สอบสวนกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย อดีตนายกฯอบจ.สงขลา ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ (157 ไม่ใช่คดีทุจริต) ชะลอการจ่ายค่ารถให้บริษัท พลวิศว์ ตามคำสั่งของจังหวัดสงขลาให้สอบสวนตามคำร้องว่ามีการฮั้วประมูล และผลสอบสวนพบมีการฮั้วประมูลจริง
คดีละเว้นของนายนิพนธ์ ปปช.สรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว อัยการพิจารณาแล้ว เห็นว่า สำนวนอ่อน สำนวนไม่สมบูรณ์ถึง 16 จุด เมื่ออัยการเห็นแย้งกับ ปปช.จึงตั้งกรรมการร่วมในการทำสำนวน แต่ ปปช.ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มให้สำนวนสมบูรณ์ได้ อัยการสูงสุดจึงสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว และส่งสำนวนกลับให้ ปปช.ซึ่ง ปปช.มีมติจะฟ้องเอง
แต่ที่น่าแปลกใจในขณะที่ ปปช.เดินหน้าฟ้องนายนิพนธ์ด้วยตัวเอง แต่กลับส่งเจ้าหน้าที่ไปร้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมฮั้วประมูลรถซ่อมทางของ อบจ.สงขลา กลุ่มเดียวกับที่ อบจ.สงขลาแจ้งความไปแล้ว และศาลออกหมายจับแล้ว
การที่ ปปช.ส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมฮั้วประมูล เท่ากับเป็นการยอมรับว่ามีการฮั้วประมูลจริง แต่กลับยังจะเดินหน้าฟ้องนายนิพนธ์ ในข้อหาละเว้น (157) ไม่ใช่เรื่องทุจริต
เรื่องการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา ยังเป็นเรื่องเป็นราวอีกยาว ติดตามกันอีกนาน #นายหัวไทร กำลังประมวลข้อมูล เพื่อเขียน “เปิดตำนานประมูลรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา มรดกบาปจาก อุทิศ ชูช่วย ถึงนิพนธ์ บุญญามณี”
#ฮั้วอบจสางขลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น