โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565

นายหัวไทร จับประเด็น หิ้วกระเป๋าออกจากประชาธิปัตย์อีกราย “น้อย-วิทยา”

 นายหัวไทร  จับประเด็น  หิ้วกระเป๋าออกจากประชาธิปัตย์อีกราย “น้อย-วิทยา”

นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย เป็นรุ่นใหญ่อีกคนที่ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยยื่นหนังสือลาออกต่อเจ้าหน้าที่พรรคเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้(22 เม.ย.)


ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกครั้งนี้ นายวิทยา กล่าวว่า ตนอยู่พรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์นานที่สุดในชีวิตการเมือง และที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นในพรรค โดยเฉพาะกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ ที่สร้างความเสียหายให้กับพรรคฯ ซึ่งตนอยากให้กรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคแสดงความรับผิดชอบ และแสดงสปิริตกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้ เพราะเรื่องมาตรฐานจริยธรรมต้องสูงกว่ากฎหมาย พรรคฯไม่ผิด แต่มีคนผิด


 ดังนั้นต้องมีคนรับผิดชอบ เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคชุดนี้เป็นคนชักจูงนายปริญญ์เข้ามาอยู่ในพรรคฯ ถือเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เหลือพรรค และส่วนตัวยังคงรักพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนพร้อมกลับมาหากมีการเปลี่ยนแปลง และขอย้ำว่าการตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นเรื่องภาพลักษณ์ และความรู้สึกของประชาชนล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับว่าพรรคฯจะไม่ส่งตนลงผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เพราะตนมีชื่อลงสมัครอยู่แล้ว


“อย่าให้พรรคฯช้ำจนไม่เหลือชื่อประชาธิปัตย์ ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะไม่เหลือพรรค คำว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแบบนี้ เพราะเราถูกสอนมาว่าต้องรู้จักรับผิดชอบต่อสังคม และความรู้สึกของประชาชน ไม่ใช่เกาะเกี่ยวเหนียวติดอยู่กับตำแหน่ง ผมถูกฝึกมาอย่างนั้น พรรคฯเป็นของทุกคน พรรคฯก็เป็นของผม แต่ผมต้องหาคนรับผิดชอบให้ได้ เมื่อไม่มีใครรับผิดชอบ ผมต้องเลือกปกป้องพรรคฯ” นายวิทยา กล่าว


เมื่อถามว่า หมายความว่าผู้บริหารพรรคควรแสดงสปิริตลาออกทั้งคณะ เพื่อแสดงความรับผิดชอบใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ควรคิดแบบนั้น เพราะพรรคฯถูกทำร้าย พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองมายาวนาน ตนอยากเห็นพรรคฯอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อคนในพรรคฯทำผิด ผู้บริหารพรรคฯก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะสมัยที่ตนเป็นรมว.สาธารณสุข เคยถูกพาดพิงก็แสดงความรับผิดชอบ ตนเป็นส.ส.มา 30 กว่าปี อยู่มาหลายพรรค และคิดว่าจะอยู่พรรคประชาธิปัตย์นานที่สุด ใครก็อิจฉา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรคจะคิดอย่างไร จึงเป็นสาเหตุทำให้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคครั้งนี้


ต่อข้อถามว่า ได้ตัดสินใจหรือยังว่าจากนี้จะไปร่วมงานการเมืองกับพรรคไหนนายวิทยา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ตอนนี้ขออยู่นิ่งๆก่อน แต่คิดว่าตัวเองยังมีน้ำยา ส่วนจะไปร่วมงานกับพรรคไหนต่อไปนั้น ตนมองว่าต้องเป็นคนที่พร้อมเสียสละเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามาพูดคุยทาบทามไปร่วมงานด้วยหลายคน แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ


กล่าวสำหรับนายวิทยาเคยเป็นอดีตประธานวิปรัฐบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ลาออก)รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัย

วิทยาไม่ได้เกิดทางการเมืองในนามประชาธิปัตย์ แต่มาจากพรรคอื่นที่สมัครคู่กับ “สุธรรม-ชำนิ-วิทยา” และได้รับการคัดเลือกแบบ “ล้ม”ประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ


“สุธรรม-ชำนิ-วิทยา” ล้ม “ณรงค์-ธงชาติ-สัมพันธ์” สมัยการเลือกตั้งแบบ “พวงเล็ก” แต่หลังจากนั้น “สัมพันธ์ ทองสมัคร”ทาบทามให้มาอยู่ประชาธิปัตย์ ได้รับการเลือกตั้งมาตลอด จนชำนิได้เป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และต่อมาวิทยาก็เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข 


ส่วนสุธรรมช่วงหลังแยกตัวไปอยู่กับพรรคไทยรักไทย เคยออกจากพรรคเพื่อไทย แตกแบงค์พันไปร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่ล่าสุดก็กลับเข้ามาเพื่อไทยอีกรอบ


เมื่อการเลือกตั้งเป็นแบบเขตเดียวเบอร์ วิทยามายึดฐานอยู่โซนปากพนัง หัวไทร เชียรใหญ่ ส่วนชำนิก็ไปลงโซนบ้านเกิดร่อนพิบูลย์

ต้องจับตาว่า ทางเดินของวิทยาสำหรับการเมืองในนครศรีธรรมราชว่าจะไปอย่างไร และต้องเกาะติดว่าจะไปอยู่พรรคไหน

วิทยา กล่าวเอาไว้น่าสนใจว่า ช่วงนี้ขออยู่นิ่งๆก่อน ยังไม่ไปไหน และยังพร้อมจะกลับมาฟื้นฟูประชาธิปัตย์หากพรรคการบริหารพรรคชุดนี้รับผิดชอบต่อความเสียหายของพรรคต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตีความได้ว่า วิทยายังพร้อมจะกลับมายังบ้านเก่าประชาธิปัตย์ ถ้ากรรมการบริหารพรรคชุดนี้ลาออก และกลับมาร่วมสร้างบ้านใหม่

 #นายหัวไทร #วิทยา #ประชาธิปัตย์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น