โฆษณา

จำนวนผู้เข้าชม

วิเคราะห์ เจาะลึก มุมมองการเมือง พบกับนายหัวไทรนักข่าวหัวเห็ด จาก ปลายด้ามขวานชายแดนใต้

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ตรึงตา ตรึงใจ...ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน เจาะเกราะเรื่องจริง ถูกมองเป็นภาระส่วนทางสังคม (ชมคลิป)

 

ตรึงตา ตรึงใจ...ประพันธ์ ฤทธิวงศ์ บก.ปลายด้ามขวาน เจาะเกราะเรื่องจริง ถูกมองเป็นภาระส่วนทางสังคม (ชมคลิป) 






     คนพิการ   "มักจะถูกมองว่าเป็นภาระและส่วนเกินของสังคม คนพิการไม่ครบกาย กับคนปกติธรรมดาทั่วไป แต่แท้จริงแล้ว   พิการของร่างกายที่ปรากฏให้เห็นเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก    จิตใจเกินร้อย เพราะภายในนั้นทุกคนบนโลกนี้ต่างมีสิ่งดีในตัวของตัวเอง 

 


 


    เมื่อวันที่     7- 8 พฤศจิกายน2563 ที่ผ่านมา สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานวันคนพิการครั้งที่ 52 ขึ้นที่ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม  อิมแพ็ค  เมืองทองธานี  (Hall 5)




     โดยต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเสมอภาคของคนพิการในด้านต่างๆ ทั้ง สุขภาพ อาชีพ หรือสวัสดิการ ที่คนพิการควรจะได้รับ 





    ทั้งนี้ พร้อมต้องการให้ทุกคนมองคนพิการว่า.. พวกเขามีศักยภาพในการพัฒนาตนเองได้หลากหลาย หลายมิติ

   ซึ่งสังคมจะต้องช่วยกัน ส่งเสริม แสดงถึงการยอมรับ ของสังคมไทย ว่ามีศักดิ์ศรีทัดเท่าเทียมคนปกติ      คนพิการที่มีความสามารถ และประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมต่อไป..

 

 


   



       การจัดงานปีนี้อยู่ภายใต้หัวข้อ "คนพิการ  ชีวิตวิถีใหม่  ใต้ร่มพระบารมี  "  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้   นายอำพล  เสนาณรงค์  เป็นผู้แทนพระองค์เป็นองค์ประธาน เปิดงาน...วันคนพิการ  ครั้งที่ 52  ประจำปี 2563

   


      


 


   ภายในงานนอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อคนพิการจำนวนหลายพันคนจากทั่วประเทศที่มาร่วมงานแล้ว ยังมีการจัดบู๊ธสำหรับให้คำปรึกษาหรือตอบปัญหาสำหรับผู้พิการในด้านต่างๆ เช่น รับปรึกษาปัญหาทางกฎหมายของผู้พิการ การประเมินความพิการ การจดทะเบียนคนพิการ เป็นต้น 






          ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานอาหารกลางวันเลี้ยงคนพิการ และประชาชน วันละ 5,000 ชุดด้วย




    สำหรับการรับรางวัลนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ นายอำพล เสนาวงศ์ เป็นผู้แทนพระองค์ เพื่อเป็นองค์ประธานในการเปิดงานและพระราชทานรางวัลแด่บุคคลพิการตัวอย่าง  ๒๑ คน จากการคัดเลือกบุคคลพิการจะพิจารณาจากผู้พิการทั้ง  ๗ ประเภททั่วประเทศ ๑๓๑     




          โดยมี  นางวิไลวรรณ  ลายถมยา  เป็นประธาน ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกบุคคลพิการประเภทต่างๆ  ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านคนพิการทั่วประเทศ  จำนวน  131 คน โดยมีบุคคลพิการ ที่มีความเหมาะสมได้รับการประกาศเกียรติคุณบุคคลพิการตัวอย่าง จำนวน 18 คน  และสรรหาคนที่พิการเป็นที่ยอมรับของสังคมเพิ่ม อีก 3 คน  รวมจำนวนทั้งสิ้น 21 คนคน

      


       ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือการประกาศรายชื่อ"บุคคลพิการตัวอย่าง" ประจำปี 2562 ซึ่งมีทั้งสิ้น 21คน   ให้เป็นบุคคลพิการตัวอย่าง ประจำปี 2563  เข้ารับประทานโล่ประกาศเกียรติคุณ  ยกย่องให้เป็นบุคคลพิการตัวอย่าง เพื่อเป็นแบบอย่างในการต่อสู้โดยไม่ท้อถอย  จนประสบความสำเร็จ และเป็นอย่างที่ดีต่อไป

 


          คนพิการที่ได้รับการคัดเลือกเป็นบุคคลพิการตัวอย่าง จะได้รับโล่พระราชทาน และเงินรางวัลประทานนายอำพล  เสนาณรงค์ เพื่อเป็นการยกย่องให้กำลังใจแก่คนพิการที่ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

 




          หนึ่งในคนพิการจากภาคใต้ จังหวัดนราธิวาส  ที่ได้รับการคัดเลือกประจำปีนี้ คือ  นายประพันธ์  ฤทธิวงศ์ เจ้าของเวปไซด์ บรรณาธิการปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้      โดยได้ได้รับมอบโล่รางวัลพระราชทานคนพิการดีเด่นตัวอย่าง  ประจำปี  2563

 

          หลังจากเข้าร่วมในพิธีแล้ว "ประพันธ์  ฤทธิวงศ์ " บรรณาธิการเจ้าของเว็ปไซต์ ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้ มีโอกาสเปิดเผยความในใจ ว่าเป็นคนชาวอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นลูกคนโตจากพี่น้องทั้งหมดสามคน  ปัจจุบันอายุ 61 ปี 

 

          ประวัติพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมายภายหลัง   เมื่ออายุ 20 ปี  เนื่องจากประสาทการได้ยินสูญเสีย และแก้วหูทะลุจากการติดเชื้อ  จึงต้องใช้เครื่องช่วยฟัง    ในวัยเด็กเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านบากง จังหวัดนราธิวาส  จนจบชั้นประถม 6 หลังจากนั้นจึงเข้ามาศึกษาต่อมัธยมศึกษาต่อที่โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์  อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส จนกระทั่งจบ มศ.3 แล้วเข้าต่อมหาวิทยาลัยเทคนิดยะลา เข้าเรียนช่างเฃื่อม  ได้อยู่ 1 ปี ได้เกิดการสูญเสียการได้ยินได้ไปรักษาหูที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพ  ไม่สามารถได้ยินเหมือนคนปกติ  ต้องอาศัยเครื่องช่วยฟัง ตอนนั้นอายุ 20 ปีจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

          หลังจากนั้นก็กลับมาอยู่บ้าน กรีดยาง และใช้เวลาว่างเรียนศึกษานอกโรงเรียนอำเภ อรือเสาะ จนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) และด้วยความมุ่งมั่นใฝ่รู้รักการอ่านหนังสือ ฝึกวาดภาพ และเรียนรู้การถ่ายรูป(กล้องฟิมส์สมัยนั้น) และเป็นนักข่าวอิสระ ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง  เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้เป็นที่ยอมรับ แม้จะมีปัญหาด้านการสื่อสาร  แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำงานด้วยเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนาด้านกายและใจอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง มิได้ยิ่งหย่อนกว่าคนปกติทั่วไป  และสามารถเป็นกำลังในการพัฒนาสังคมประเทศชาติได้

             และจุดนี้เองที่เป็นบันไดก้าวแรกแห่งความสำเร็จของชายนักสู้ผู้นี้ ..ปัจจุบัน  เป็นนักข่าว เจ้าของเวปไซต์และบรรณาธิการ ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้ ในการนำเสนอข่าวสาร เป็นสื่อกลางสร้างความเข้าใจระหว่างภาครัฐกับประชาชน ด้วยจรรยาบรรณในวิชาชีพ ด้วยคุณธรรม จริยธรรมต่อสาธารณชน  ทำให้ได้รับรางวัล  เชิดชูเกียรติ ทางด้านการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารมวลชนมากมาย


                        ด้วยผลงานที่ประจักษ์ยุคสื่อออนไลน์ที่ได้แพร่หลายจึงได้สร้างกลุ่มไลน์และเข้าร่วมกลุ่มไลน์เพื่อสร้างเครือข่ายในการส่งข่าวและรับข่าวสารกว่า 200 กลุ่ม สร้างFacebook มีผู้ติดตามกว่า 4,000 คน สร้างบล็อกเกอร์ เพจหนังสือพิมพ์ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้  Twitter รือเสาะนิวส์ และยูทูปในนามชื่อผม ได้นำเสนอข่าวสารทุกเรื่องราวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่า 1,000 เรื่อง ปัจจุบันสถิติคนดูกว่า 7 ล้านคน มีผู้ติดตามเกือบ 2 หมื่น เวปสื่อออนไลน์ ปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้  ยอดวิวกว่า  1 ล้าน1 แสน

                          ตลอดระยะเวลาที่อยู่วงการสื่อมวลชนมากว่า 30 ปี  จึงได้รับการไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นบรรณาธิการ ศูนย์รวมข่าวสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหัวหน้าข่าวชายแดนใต้ หนังสือพิมพ์โฟกัส ทูเดย์ รายสัปดาห์ และยังเป็นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนราธิวาส ของ ช่อง 13 สยามไทย ข่าวรอบรั้วภูธร  อีกด้วย

                           นักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ดีต้องมีความรับผิดชอบ ด้วยจรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม ทางศีลธรรม และมโนธรรมด้วย จะต้องเป็นครูของสังคม ที่พึ่งหลักประกันของสังคมและประชาชน จะต้องให้ความสว่างแก่ผู้อ่าน หน้าที่คือบอกเล่าสาธารณชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันต่อวัน ยึดสัจธรรมเป็นสรณะ

                        เมื่อมาถึงวันนี้ ได้นำความภาคภูมิใจ มีโอกาสรับใช้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสังคมและประเทศชาติ จะขอยึดมั่นด้วยอุคมการณ์ สร้างสุข สนุกกับงาน  สร้างต้นทุนทางสังคม ด้วยคุณธรรม จริยธรรม ความศรัทธา นำมาสู่เวปปลายด้ามขวาน@ชายแดนใต้  w.w.w. Deep  South post .com



                       ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  ได้รับได้รับรางวัล เชิดชูเกียรติ ทางด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน อาทิเช่น เกียรติบัตรรางวัลเข็มพระราชทานผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)ประจำปี  2560  กลุ่มสื่อสารมวลชน( สาขาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี )   โล่เกียรติคุณ คนดีของแผ่นดินปี  2561 จากชมรมพลังสื่อมวล 2016 จังหวัดสงขลา  รางวัล    Maha Naga Awards” 2019 ครั้งที่ 1 บุคคลต้นแบบดีเด่นแห่งปี  ประเภท สื่อสารมวลชน ดีเด่นและล่าสุด  รางวัล  โล่ประกาศเกียรติคุณ  บุคคลพิการตัวอย่างงานวันคนพิการ ครั้งที่ 52 ประจำปี  2563 จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชูปถัมภ์

       ในโอกาสนี้   ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้  นอกจากเป็นการยืนยันคุณค่าในงานที่ทำด้วยใจรัก ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผมมีอุดมการณ์ ยึดมั่นจรรยาบรรณ วิชาชีพ

 

        ความรู้สึกที่ได้รางวัลมากมายและได้รับการยกย่อง "บุคคลพิการตัวอย่าง" นั้น ประพันธ์บอกว่ารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเขาเองผ่านช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตมามากมาย เคยรู้สึกท้อแท้ แต่ก็คิดได้ว่า อย่ามองแต่สิ่งที่ขาด  จนพลาดในสิ่งที่มี  ทุกคนเกิดมาเท่ากัน  ทีมีไม่เท่ากันคือใจ   และคนที่ไม่ประสบความสำเร็จคือคนที่ถอดใจ ทุกคนสามารถเรียนรู้กันได้ คนที่เขาทำสำเร็จคือคนที่พยายามมากว่าเราเท่านั้นเอง

          เมื่อคิดได้จึงใช้ส่วนที่เป็นประโยชน์ของเราทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้มากที่สุด

          สำหรับคนที่รู้สึกท้อแท้หรือกำลังหมดหวังกับสิ่งต่างๆ ประพันธ์ ฝากบอกว่า อยากให้คิดว่าคนที่กำลังคิดท้อแท้เป็นคนที่คิดผิด ไม่อยากให้หนีปัญหา อยากให้ลุกขึ้นมาสู้กับปัญหาทุกปัญหา เพราะทุกปัญหามีทางแก้เสมอ แล้วเราจะประสบความสำเร็จ



          แต่สิ่งที่คนพิการฝากความหวัง ไว้กับหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง  ต้องช่วยกันส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิของคนพิการ ให้สามารถเข้าถึง  และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรได้อย่างทัดเทียมกับคนทั่วไป


 
          แต่อย่างไร ก็ต้องขอขอบคุณ  นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ  ผู้ที่ได้นำเอกสารแบบฟอร์มในการนำเสนอชื่อผมในโครงการคัดเลือกบุคคลพิการตัวอย่างในครั้งนี้ โดยผมได้จัดรวมรวบผลงานเป็นเล่มจำนวน จำนวน 14 ชุด และค่อยประสานงานให้ทุกด้าน  จึงได้รับการพิจารณาผ่านการคัดเลือก “บุคคลพิการตัวอย่าง”  ประจำปี  2563 



         ด้านนายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ   ได้กล่าวเปิดเผยว่า ผมได้รู้จักกับนายประพันธ์ ฤทธิวงศ์ ตั้งแต่บรรจุรับราชการใหม่ๆที่อำเภอศรีสาคร เมื่อปี 2535 ในนามนักข่าวที่สร้างสรรค์งานข่าว เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของอำเภอรือเสาะและจังหวัดนราธิวาส ด้วยดีเสมอมา

            ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท ตั้งใจจริง เพื่อให้ผลงานออกมาดี โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น เมื่อปลายปี 2562 ผมมีโอกาสได้มาเป็นพัฒนาการอำเภอรือเสาะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม และเป็นคนรือเสาะคนแรกที่ได้เป็นพัฒนาการอำเภอรือเสาะ 

            จึงได้ทราบข้อมูลว่า นายประพันธ์ ฤทธิวงศ์ เป็นบุคคลพิการทางการได้ยิน จึงหาทางช่วยเหลือตามสมควร และเมื่อสภาสังคมสงเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดโอกาสให้คัดเลือกบุคคลพิการตัวอย่างระดับประเทศ ผมจึงถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริม สนับสนุน เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนพิการได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ซึ่งในปี 2563 ได้มีการคัดเลือกคนพิการตัวอย่างระดับประเทศ จำนวน 21 คน และนายประพันธ์ ฤทธิวงศ์ เป็นคนพิการตัวอย่างคนแรกของจังหวัดนราธิวาสที่ได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศนี้

              ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจแก่ตัวเองและวงศ์ตระกูล อีกทั้งเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดนราธิวาส ถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้ว่า นายประพันธ์ ฤทธิวงศ์ เป็นคนพิการ เพราะทำงานเหมือนคนปกติทั่วไป มีความขยันขันแข็ง รับผิดชอบสูง มีคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณที่ดี เหมาะสมกับรางวัลพระราชทานที่ได้รับ ในนามข้าราชการประชาชนอำเภอรือเสาะและจังหวัดนราธิวาส จึงขอแสดงความชื่นชมยินดีและมีความภาคภูมิใจในผลงานที่ผ่านมาและรางวัลที่ได้รับเป็นอย่างยิ่ง

          

          ผม..ก็ต้องขอขอบคุณ.....ทุกท่าน ผู้มีอุปการคุณ ที่ให้โอกาสยืนหยัดอยู่ได้ทุกวันนี้..และอยู่จุดนี้ได้ตลอดมา..เพราะทุกท่านคือผู้ยิ่งใหญ่ในใจของผมพร้อมที่จะทำหน้าที่สื่อมวลชน เพื่อสังคมและประเทศชาติต่อไป..



              ครับ   ถึงแม้หูพิการมีการปัญหาในการสื่อสาร โดยใช้เครื่องช่วยฟัง  แต่จิตใจไม่ได้พิการและความพิการไม่ได้เป็นอุปสรรคของความสำเร็จและการทำดีแก่สังคม

 

 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น