สงขลา//
ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านเตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดกับคนขับรถกระบะที่บรรทุกแมวมาทิ้งไว้ในวัดทุ่งงาย
ต.ทุ่งใหญ่ จนถูกฝูงสุนัขในวัดกัดตายไปถึง33ตัวและรอดเพียง3
ตัว เนื่องจากรับได้และให้ดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมกับเตรียมสร้างกรงเลี้ยงสุนัขในวัดที่มีอยู่กว่า30
ตัวเพื่อความปลอดภัย
ความคืบกรณีมีคนขับรถกระบะแอบนำแมวไปปล่อยไว้ในวัดทุ่งงาย
ต.ทุ่งใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงตี2เมื่อวานนี้
และถูกฝูงสุนัขจรจัดภายในวัดที่มีอยู่กว่า30
ตัว รุมขย้ำจนตายไป33ตัว รอดเพียงตัว3
ตัว
ล่าสุดในวันนี้(11ธ.ค.)นายสุชาติ
มณีโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่6 บ้านทุ่งงาย ต.ทุ่งใหญ่ เปิดเผยว่า
ในวันนี้จะนำชาวบ้านที่ไปพบสุนัขนอนตายเกลื่อนบริเวณวัดเป็นคนแรกเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.คอหงส์พร้อมหลักฐานต่างๆเช่นกล้องวงจรปิดภาพรถที่นำแมวมาทิ้งไว้ในวัด
เพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวและดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพราะชาวบ้านไม่มีใครรับได้
และรถคันนี้น่าจะมาจากในเมืองหาดใหญ่
ผู้ใหญ่บ้านยังกล่าวอีกว่า
สำหรับมาตรการควบคุมสุนัขจรจัดภายในวัดที่มีอยู่กว่า30
ตัวนั้นได้หารือกับทางเจ้าอาวาสวัดและคณะกรรมการวัดเพื่อที่จะจัดสร้างคอกเลี้ยงสุนัขเหล่านี้ให้อยู่เป็นสัดส่วนเพื่อความปลอดภัย
เพราะปัจจุบันอาศัยอยู่บริเวณหน้าโรงธรรมและกุฎิเจ้าอาวาส
และสุนัขเหล่านี้ยอมรับว่าค่อนข้างดุ
ทางด้านองค์กรที่ช่วยเหลือแมวในอ.หาดใหญ่ อย่าง
น.ส.ธนา โตะราม ตัวแทนพรรคเพื่อแมวหรือเดโมแคท ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า
แมวเหล่านี้น่าจะถูกวางยาซึมแล้วจับใส่กรงและกล่องกระดาษก่อนที่จะนำมาปล่อยที่วัดและยังอยู่ในอาการเซื่องซึมจึงถูกฝูงสุนัขรุมกัดได้ง่าย
เพราะปกติแมวจะค่อนข้างว่องไวมากยากที่จะจับได้หรือถ้าถูกสุนัขไล่กัดก็ไม่น่าจะตายมากขนาดนี้เพราะน่าจะวิ่งหนีได้เร็ว ส่วนที่มาของแมวนั้นไม่น่าจะมาจากแมวที่มีการเลี้ยงตามวัดหรือที่องค์กรสัตว์ในอ.หาดใหญ่ช่วยกันเลี้ยง
แต่น่าจะเป็นแมวจรจัดตามตลาดที่อยู่รวมกันเป็นฝูงแล้วมีกาวางยาซึมจับมาปล่อยที่วัดแห่งนี้
ขอบคุณภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น