นราธิวาส ประกาศ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 1
อำเภอ ส่วน ทต.กะลุวอเหนือพร้อมรับมือน้ำท่วมระลอกใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์
หลังเกิดฝนตกลงมาทั่วทั้ง 13 อำเภอ
ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จ.นราธิวาสประกาศเขตภัยพิบัติในพื้นที่อ.สุไหงโก-ลก ล่าสุดมีผู้ประสบภัย 85 ครัวเรือน 418 คน ขณะที่สถานการณ์ลุ่มน้ำสุไหงโก-ลกต่ำกว่าตลิ่งเล็กน้อย
ลดลงจากเมื่อวานี้ แต่ยังคงเฝ้าตลอดระวัง 24 ชั่วโมง
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า
ขณะนี้ได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก
จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่ประสบภัย
หลังจากที่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน
ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก
ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก
ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1 อำเภอ ผู้ประสบภัย 85 ครัวเรือน 418 คน ประกอบด้วยชุมชนท่าประปา ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
และพื้นทีหมู่ที่ 3 ในตำบลมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก
จ.นราธิวาส ทั้งนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส
ได้สนับสนุนเรือพร้อมอุปกรณ์ให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เรือท้องแบนอลูมิเนียมจำนวน 13 ลำ เครื่องยนต์เรือขนาด 40 แรงม้า 7 เครื่อง เรือท้องแบน PVC สีดำ 16 ลำ เสื้อชูชีพ 40 ตัว ถุงกระสอบทราย 2,500 ใบ
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด
ระดับน้ำท่าในลุ่มน้ำ 3 สายหลัก ลุ่มน้ำโก-ลก ขณะนี้ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.06
เมตร ลุ่มน้ำสายบุรี
ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.71 เมตร และลุ่มน้ำบางนรา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.17
เมตร ส่วนจุดที่เฝ้าระวัง
ในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก บริเวณเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ใน 4 ชุมชนได้แก่ ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนหัวสะพาน และชุมชนหลังด่าน
ส่วนเทศบาลตำบลกะลุวอเหนือ
อ.เมือง จ.นราธิวาส นายอัสมีรี แวเด็ง นายกเทศมนตรี ต.กะลุวอเหนือ
ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมทั้ง 13 หมู่บ้าน พบว่า 7
หมู่บ้านที่ต้องเตรียมรับมือน้ำท่วมระลอดใหญ่ที่จะมาถึง โดยนำเรือท้องแบนจำนวน 13
ลำ
ไปมอบให้กับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมหนักจนไม่สามารถเดินเท้าออกจากบ้านพักได้จึงต้องนำเรือท้องแบนมามอบให้เพื่อส่งลูกไปโรงเรียนและออกไปหาซื้อกับข้าวพร้อมวางมาตรการณ์ให้ความช่วยเหลือ
3 มาตรการณ์
และนอกจากนั้นยังได้เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆอาทิ
เครื่องเลื่อยยนต์ รถขนส่ง กระสอบทราย
และโรงครัวไว้สำหรับผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถอยู่อาศัยภายในบ้านตัวเองได้พร้อมอาหารและที่พัก
ส่วนชาวบ้านกล่าวความรู้สึกว่า
ทุกๆปีน้ำท่วมสูงจนเข้าไปในบ้านและไม่สามารถอยู่อาศัยได้
และไม่สามารถจะออกไปหาซื้อกับข้าวและรับส่งลูกไปโรงเรียนได้ จึงต้องไปพักอาศัย ณ
ศูนย์อุทกภัยที่ทางเทศบาลจัดไว้ให้
แต่ในปีนี้ทางเทศบาลได้นำเรือท้องแบนมาให้ใช้และระดับน้ำยังไม่ท่วมสูงมากเท่าไหร่
จึงรู้สึกไม่เดือดร้อนเท่าปีที่แล้ว ซึ่งระดับน้ำสูงถึงเอว
คาดว่าช่วงปีใหม่น้ำอาจจะท่วมสูงอีกครั้ง
ด้านนายอัสมีรี
แวเด็ง นายกเทศมนตรี ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมหนักที่กำลังจะมาถึงจึงลงพื้นที่สำรวจตามจุดต่างๆทั้ง
13 หมู่บ้านพร้อมกับนำเรือท้องแบนมามอบให้กับชาวบ้านตามจุดต่างๆที่ท่วมซ้ำซาก
โดยเฉพาะบ้านใหม่ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี
โดยชาวบ้านได้ประสารขอเรือจากทางเทศบาลเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันภายเรือไปรับส่งลูกไปโรงเรียนและชีวิตประจำวันตามปกติ
เช่น ไปเกี่ยวหญ้าเลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งทางเทศบาลเองได้เตรียมตัวทั้งก่อนน้ำท่วม
ระหว่างน้ำท่วมและหลังน้ำท่วม ทั้งเรือ วัสดุอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ เครื่องสูบน้ำ
เครื่องเลื่อยยนต์กรณีตันไม้ล้มทับบ้านหรือถนน รถกระเช้า หรือแม้กระทั่งกระเบื้อง
และอื่นๆ
สำหรับตำบลกะลุวอเหนือนั้น
มี 13 หมู่บ้าน แต่ที่หนักสุดเพียง 7
หมู่บ้านที่จะต้องเฝ้าระวังเพราะเกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ส่วนอีก 6
หมู่บ้านนั้นจะอยู่ในโซนทะเล ซึ่งจะเกิดเหตุลมกระโชคแรง ต้นไม้ทับบ้านและถนน
จึงเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันทีถ้ามีพายุเข้า
ส่วนหลังน้ำท่วมทางเทศบาลเตรียมในเรื่องของการซ่อมแซมถนนต่างๆในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหาย
.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น