ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและงานชุมนุมเยาวชนภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ 'วิถีเยาวชนในโลกโซเชียล' หรือ 'Our Youth and the Social World'
'มีความยินดีอย่างยิ่ง'
ประธานประชุมเยาวชนอาเซียน
(1)
'ขอบพระคุณ WAMY THAILAND'
เมื่อเช้าวันนี้ (วันเสาร์ที่ 3
พ.ย. 61) ที่ผ่านมา เวลา 08.30 น.
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม
เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและงานชุมนุมเยาวชนภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 3
ภายใต้หัวข้อ 'วิถีเยาวชนในโลกโซเชียล' หรือ
'Our Youth and the Social World' อันเป็นการพบปะระหว่างเยาวชนระดับภูมิภาคอาเซียนในมิติความร่วมมือที่ทรงพลังและเป็นแบบอย่างแก่สังคมโลก
เกี่ยวกับการสื่อสารคุณธรรมที่สอดคล้องกับพหุสังคมหรือบริบทในแต่ละประเทศที่มีความหลากหลาย
ทั้งยังเป็นการเปิดเวทีให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างดุลยภาพ
'WASATIYAH' ในวิถีชีวิตทุกๆ ด้าน ณ โรงแรม เดอะ รีเจนท์
กรุงเทพฯ
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล
กล่าวภายหลังพิธีเปิดการประชุมและงานชุมนุมเยาวชนภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 3
ภายใต้หัวข้อ 'วิถีเยาวชนในโลกโซเชียล' หรือ
'Our Youth and the Social World' ความว่า :
"หลายๆ ท่านจากสมาชิกประเทศต่างปรารภกันว่า
กระบวนวิธี 'monitoring' หรือ การตรวจสอบ และการติดตามผล ฯลฯ
ถือเป็นเรื่องสำคัญในการเสริมสร้างการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์และมีคุณภาพ
ความทันยุคทันสมัยทันเหตุการณ์ คือ การปรับตัวของผู้ใช้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร
ตำแหน่งหน้าที่อะไร เป็นใคร แต่ในโลกของโซเชียลมีเดียย่อมเป็นผู้มีไมตรีจิตต่อกัน
ถึงเรียกว่า 'Friends' หรือ 'เพื่อน' หาใช่เป็นเพื่อนกันหรือติดตาม
(to follow) ให้กำลังใจแก่กัน
แต่กลับนำเพื่อนไปว่ากล่าวลับหลังในห้องอื่นหรือส่วนอื่นของโลกออนไลน์ เช่นนี้
เรียกว่าไม่จริงใจ (insincere)
หรือการแทงข้างหลัง (betray) ผู้ร่วมอภิปรายจึงพูดกันถึงแนวทางสร้างเสริมให้กระทำสิ่งที่ดี
(encourage good behaviour) ให้เกิดการขยายผลอย่างกว้างขวาง
เยาวชนจากประชาคมอาเซียนวันนี้ ตลอดทั้งมิตรประเทศอื่นๆ
จึงสมควรนำไปต่อยอดทางความคิดว่าจะกระทำอย่างไรให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
อาศัยข้อผิดพลาดและประสบการณ์เป็นบทเรียน เพื่อให้เพื่อนเยาวชนเกิดความเข้าใจว่า
การใช้โซเชียลมีเดียต้องควบคู่ไปกับการมีคุณธรรมจริยธรรม อาจสรุปได้ว่า :
1. ทำความเข้าใจ เรียนรู้
ถึงหลักคุณธรรมจริยธรรมในการใช้โซเชียลมีเดีย ที่เป็นความสร้างสรรค์
ตลอดทั้งแนวนโยบายขององค์การ/หน่วยงาน/ส่วนราชการ ที่ตนรับผิดชอบ
ต่อการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อการพัฒนางาน ตนมีหน้าที่โดยตรงหรือไม่
ในการพูดจาในเรื่องนั้น หรือการ ปชส.ในเรื่องนั้นๆ อย่างเหมาะสม
2. มีความรับผิดชอบกว่าใครอื่น ในความตระหนักของปัจเจกบุคคลในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียว่า
ทั้งในส่วนของระบบการเรียนการศึกษา การประกอบสัมมาชีพ การโฆษณาสินค้า ฯลฯ
ตลอดทั้งกระบวนการประสานการทำงานระหว่างบุคลากรในสถาบัน/องค์กร
3. มีความรอบรู้ รอบคอบในข้อมูลข่าวสาร
ปรัชญาแห่งตนที่ชัดเจน ในการกำหนดบทบาทหน้าที่ เพื่อศึกษาประเด็นหรือสารัตถะ
อันได้แก่ คุณลักษณะหรือภาวะอันเป็นเนื้อแท้ ไม่ใช่เรื่องปลอมแปลง ให้ร้าย
หรือการแบ่งแยกสังคม ที่เกิดขึ้นจากการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
4. พึงตระหนักในขั้นตอนการดำเนินการใช้สื่อโซเชียลมีเดียทั้งก่อนและหลังในการใช้สื่อสารต่อสาธารณชน
5. อยู่ในใจตนเองตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
คือ การให้เกียรติในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของบุคคลอื่น
การยอมรับในปฐมภูมิทางข้อมูลบุคคล การไม่ให้ร้ายป้ายสีที่ถือว่ามีความผิดทาง 'etiquette'
ในประการแรก และรวมถึงการให้เกียรติในเรื่องลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรที่นำมาใช้ในโลกออนไลน์
6. ต้องมีความระมัดระวังและสุขุมรอบคอบ
(use discretion) ไม่ผลีผลาม
ในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียทุกครั้งไป
เพราะการใช้ของทุกท่านคือถ้อยคำจารึกอันมีความหมายต่อสังคมคนหมู่มาก
7. การประชุมเน้นย้ำอย่างมาก และถือเป็นหลักปฏิบัติสากลของทุกสังคมอารยะ
ให้มีความสำนึกโดยตลอดเวลาว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย คือ
ความรู้และความเป็นแบบอย่างแห่งกัลยาณมิตร
มีความสุภาพเรียบร้อยและมีมารยาทในการใช้ทุกครั้ง
8. การโพสต์หรือการแชร์เนื้อหาสาระหรือสื่อในสิ่งที่ได้รับการตรวจสอบแหล่งข้อมูล
ที่มาที่ไป ให้ตรงตามข้อเท็จจริง สมรรถนะ ความรู้และความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ
9. การสื่อความหมายเพื่อการโต้ตอบระหว่างกัน
ควรคำนึงถึงธรรมชาติแห่งความเป็นกัลยาณมิตรระหว่างกัน ไม่ใช่ฝ่าย ไม่ใช่ศัตรู
มีความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาแก่นสารของความรู้ในเรื่องหนึ่งๆ หรือทุกเรื่อง
อันได้แก่ สิ่งที่ยั่งยืนถาวร หลักที่ควรยึดถือปฏิบัติ คุณประโยชน์
และสาระสำคัญต่างๆ ในการดำรงชีวิต และโดยเฉพาะในเรื่อง
พระราชปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียง การครองตน ครองคน และครองงาน
ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
10. มีความเป็นวิญญูชน คือ เป็น 'reasonable
person' หรือ 'person of ordinary prudence' ได้แก่
บุคคลผู้รู้ผิดรู้ชอบตาม สัญชาตญาณ ต้องยอมรับในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านั้นโดยไม่ชักช้า
รวมถึงการรู้จักขออภัยและไม่กระทำผิดซ้ำ"
*สนง.ผช.รมต.ประจำ นรม.
กระทรวงยุติธรรม
3 พ.ย. 61
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น