สตูล
เจ้าหน้าที่จับผู้ต้องหายิงยกครัวครูสอนนาฎศิลป์ที่ภูเก็ต (ชมคลิป)
เมื่อวันที 25พ.ค.2561ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6
กองบังคับการปราบปราม นำหมายจับจากศาลจ.ภูเก็ต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบฯกว่า 50
นาย สนธิกำลังกับ ทหารกองกำลังเทพสตรี ตำรวจสภ.มะนัง และตร.สภ.วิชิต อ.เมือง
จ.ภูเก็ต เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 48 ม.7
ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล
หลังจากสืบทราบว่าผู้ต้องหาคนสำคัญคดียิงยกครัวครูสอนนาฎศิลที่จ.ภูเก็ต
หนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังออกเป็น 3
ชุด คือชุดจู่โจม ชุดปิดล้อม และชุดสนับสนุน
เข้าโอบล้อมบริเวณบ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่รุ่งเช้า
ซึ่งผู้ต้องหาเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามหลบหนีไปทางหลังบ้านซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตะครุบตัวได้โดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นนำไปสอบปากคำที่สภ.มะนัง จ.สตูล
สำหรับผู้ต้องหารายสำคัญคนดังกล่าว คือนายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ อายุ 36 ปี
อยู่บ้านเลขที่12/390 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยได้ก่อเหตุยิงนายสมชาย เคียงจันทร์ อายุ 42 ปี
ครูสอนนาฎศิลป์ ในจ.ภูเก็ตพร้อมภรรยาคือนางอุรารัตน์ เคียงจันทร์ อายุ 43 ปี
และนายธนาวัฒน์ เคียงจันทร์ อายุ 20 ปี
ลูกชาย โดยทั้ง 3
รายอาการบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 12/319
หมูบ้านธินวุฒิ ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.สตูล
โดยในที่เกิดเหตุมีปลอกกระสุน 11
ม.ม.ตกกระจายเกลื่อนพื้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9
เม.ย. 61 ที่ผ่านมา
แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่กองปราบฯทราบว่านายพันปกรณ์ หรือนายอ้น
ผู้ต้องหาหนีไปอยู่ที่พัทลุงและมีนายหมัดหราด
หลีศิริ อายุ 53 ปี
เจ้าของบ้านที่ให้ที่พักพิงไปรับตัวจากอ.กงหรา จ.พัทลุง
จึงได้ติดตามจนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาไปหลบอยู่ที่นั่นจริงโดยเข้ามาอยู่ตั้งแต่ต้นเดือน
พ.ค.61 จึงวางแผนเข้าจับกุมดังกล่าว
หลังจับกุมนำตัวไปสอบสวนผู้ต้องหายังคงนิ่งเงียบพูดแต่เพียงว่าสาเหตุที่ยิงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสุนัขเหมือนที่ข่าวออกไป
แต่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยไม่ยอมปริปากพูดว่าเป็นเรื่องอะไร
ส่วนปืนที่ก่อเหตุได้ทิ้งไปหลังจากก่อเหตุในพื้นที่จ.ภูเก็ตแล้ว ส่วนนายหมัดหราด หลีศิริ
เจ้าของบ้านที่ให้ที่พักพิงบอกว่าที่ให้ที่พักเพราะไม่ทราบเรื่องว่าผู้ต้องหาไปก่อเหตุมาเขาขอมาอยู่ด้วยเฉยๆ
โดยให้การว่ามาอยู่ได้ 1 สัปดาห์โดยไม่ได้ทำอาชีพอะไร
ที่ให้อยู่เพราะรู้จักมาเมื่อ20 ปีที่แล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การเพราะแนวทางสืบสวนทราบว่าเจ้าของบ้านเป็นญาติฝ่ายพ่อของผู้ต้องหา
และดำเนินคดีข้อหาให้ที่พำนักซ่อนเร้นกับผู้ต้องหาที่มีหมายจับ
โดยพ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6
กล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายเลือดเย็นยิงภรรยาก่อน จากนั้นครูนาฎศิลป์
ซึ่งเป็นสามีมาห้ามและยกมือไหว้
แต่ผู้ต้องหายิ้มและใส่กระสุนยิงทันทีก่อนที่จะหันไปยิงลูกชายอีกคน
ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ยิงในบ้านยกครัว
ส่วนสาเหตุนั้นต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกต่อไป
ขอบคุณนิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น