ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ฉบับของกฤษฎีกา ที่ห้องประชุมปกาสัย ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและเกษตรกรชาวสวนปาล์มเข้าร่วมสังเกตการณ์
ว่า เกษตรกรเห็นตรงกันว่า ร่างกฎหมายของกฤษฎีกามีการเปลี่ยนแปลงหลักการและเหตุผลจากร่างของเกษตรกรที่ผ่านครม.ไปแล้ว 4 ประการ คือ 1 ร่างนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์แรกที่ร่าง 2 ร่างนี้จะทำลายและบั่นทอนอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม
เพราะไม่สามารถมีการต่อยอดพัฒนาได้ 3 การตัดเงินกองทุนออกจากเดิมที่ทุกภาคส่วนต้องจ่ายเงินเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ เหลือเพียงแค่การพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐ ทำให้ไปต่อยาก และ 4 ทำให้คณะกรรมการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม หรือ กนป.มีอำนาจลดลง ยังไม่รวมโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไป
ทั้ง ๆ ที่เกษตรกรต้องการเพียงแค่โครงสร้างราคาที่เป็นธรรม มีการต่อยอดได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และต้องการพ.ร.บ.ที่พัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ร่างกฎหมายที่กฤษฎีกาทำออกมาไม่ตอบโจทย์นี้
เกษตรกรจึงยืนยันขอให้ครม.นำร่างเดิมที่ผ่านครม.แล้วเสนอต่อสนช.แทนร่างของกฤษฎีกาที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ และเตรียมที่จะยื่นคำร้องไปที่เลขากฤษฎีกาให้นำร่างเดิมกลับมาก่อนที่จะนำเสนอครม.ต่อไป
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ให้คำแนะนำเกษตรกรว่า หลังจากกฤษฎีกาพิจารณาแล้วต้องนำร่างกลับเข้าสู่ที่ประชุมครม.อีกครั้ง หากเนื้อหาไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์เดิมก็ต้องทำการแก้ไข ดังนั้นเกษตรจึงควรประสานไปยังกระทรวงเกษตรเพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของเกษตรกร จะได้เดินหน้าผลักดันต่อไปได้
ขอบคุณข้อมูลข่าว / ภาพ
มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น