นราธิวาส อำเภอรือเสาะกระตุ้นเศรษฐกิจจัดโครงการแข่งขันโมโตครอสเชื่อมสัมพันธ์อาเซียน นำสันติสุขสู่พื้นที่

(มีคลิป)นราธิวาส อำเภอรือเสาะกระตุ้นเศรษฐกิจจัดโครงการแข่งขันโมโตครอสเชื่อมสัมพันธ์อาเซียน  นำสันติสุขสู่พื้นที่

                                                                               

            เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2560  ที่ สนามชั่วคราวนราพารา บ้านบือแนยาโมง หมู่ที่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายสุรพร     พร้อมมูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธาน เปิดโครงการแข่งขันโมโตครอสเชื่อมสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ 1

            ทั้งนี้โครงการแข่งขันโมโตครอสเชื่อมสัมพันธ์อาเซียน เป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดนราธิวาส ประจำปี 2560 ตามโครงการราษฎร์-รัฐร่วมใจสู่ใต้สันติสุข

            โดยทางอำเภอรือเสาะร่วมกับชมรมโมโตครอสอำเภอรือเสาะ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่7-9 เมษายน 2560  มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อำเภอรือเสาะ และเป็นการส่งเสริมด้านกีฬาโมโตครอสในพื้นที่สู่นักกีฬาอาชีพเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อาเซียนเพื่อเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่ด้วย 

           ซึ่งในพิธีเปิดดังกล่าวมีนายยะห์ยา  ปะนาฆอ นายอำเภอรือเสาะ    นายอาซ๊ะอารี ลาเตะ ประธาน

 ชมรมโมโตครอสอำเภอรือเสาะ หัว หน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน

  ตลอดจนประชาชนในพื้นที่และต่างจังหวัดร่วมพิธีเปิดและเข้าชมการแข่งขันนับหมื่นยังมีการแสดงศิลปะท้องถิ่น ศีละ คณะซือนีฆายา จาก จ.ปัตตานี เป็น ศิลปะการต่อสู้ของคน เชื้อสายมาลายู 

             สำหรับการแข่งขันฯในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันจากประเทศต่างๆประกอบด้วย ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียสิงคโปร์ บรูไน และฟิลิปปินส์ โดยแข่งขันทั้งหมด 10 รุ่น ชิงถ้วยรางวัลการแข่งขันจากพลเอกอุดมเดช สีตบุตร หัวหน้าคณะผู้แทน พิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้     ชิงถ้วยรางวัลจากเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  ปลัดจังหวัดนราธิวาส และนายอำเภอรือเสาะ     

         

          สำหรับทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันโมโตครอสเชื่อมสัมพันธ์อาเซียนในครั้งนี้ ได้แก่ ทีม Ompong Gabile จากประเทศฟิลิปปินส์ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม Roma จากประเทศมาเลเซีย รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมBuboy Atonio จากประเทศฟิลิปปินส์ รองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ ทีมวิชาการ จากจังหวัดพัทลุง และรองชนะเลิศอันดับ 4  ได้แก่ทีม Patipat num  จากจังหวัดสงขลา

       ประพันธ์  ฤทธิวงศ์/ภาพข่าว