กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงสถานการณ์ก่อกวน จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ 20 เมษายน 2560 เวลา 09.30 นาฬิกา พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์
โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน
ได้สร้างสถานการณ์ความวุ่นวายพร้อมกันหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เหตุเกิดเมื่อ 19 เมษายน 2560 ในห้วงเวลา 19.30 – 19.45 นาฬิกา
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อกวนด้วยการใช้ระเบิดแสวงเครื่อง
และประทัดยักษ์ขว้างใส่ฐานปฏิบัติการและจุดตรวจเจ้าหน้าที่ สรุปได้ดังนี้
1) พื้นที่เกิดเหตุ : 12 อำเภอ 13 เหตุการณ์
- จังหวัดปัตตานี จำนวน 4 อำเภอ 4 เหตุการณ์
- จังหวัดนราธิวาส จำนวน 5 อำเภอ 6 เหตุการณ์
- จังหวัดสงขลา จำนวน 3 อำเภอ 3 เหตุการณ์
2) การสูญเสีย : ผู้ก่อเหตุรุนแรง เสียชีวิต 2 ราย, เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน
ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 8 ราย
และทรัพย์สินของทางราชการและพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง สำหรับผู้เสียชีวิตทราบชื่อ
ดังนี้ (1) นายมะบีดี ลามะดอ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 6 บ้านกอแลปิและ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พฤติกรรม
เป็นสมาชิกระดับแนวร่วมในพื้นที่ (2)
นายมะซากี
เจะเละ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/12 หมู่ 5 ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
พฤติกรรม เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ
จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้
1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงเป็นความพยายามในการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในพื้นที่
โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของทางราชการและพี่น้องประชาชน
ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์กรแนวร่วมที่เคลื่อนไหวเพื่ออ้างความชอบธรรมในการต่อสู้ของกลุ่มขบวนการ
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าผู้ที่สร้างสถานการณ์ก่อกวนในครั้งนี้
คือ คนไทยที่หลงผิดและทำผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐ
มีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
มิใช่มาทำสงคราม ตามที่บางองค์กรพยายามกล่าวอ้างเพื่อยกระดับปัญหาไปสู่เวทีสากล
จึงขอให้สังคมช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์กรแนวร่วมดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
2. จากการตรวจสอบผู้ที่เสียชีวิตในพื้นที่
อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา จำนวน 2 ราย
จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงที่พยายามนำระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
แต่เกิดระเบิดขึ้นก่อนและนำไปสู่การสูญเสียดังกล่าว
สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุตรวจสอบแล้วเป็นของ นายรอมาลี แจ๊ะมะสอ อายุ ๕๓ ปี
เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๔ ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย
จากการสอบสวนในเบื้องต้นให้การว่า นายมะซากี
เจะเละ ได้ยืมไป สำหรับ นายรอมาลีฯ ตรวจสอบแล้วไม่เคยเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน
แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการและกับดักของความรุนแรง
ซึ่งทุกคนล้วนเป็นลูกหลานของพี่น้องในพื้นที่ที่กลุ่มขบวนการได้หลอกลวงมาใช้ในการก่อเหตุเพื่อประโยชน์ของกลุ่มเท่านั้น
โดยไม่เคยเข้ามารับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
จึงขอฝากเตือนให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
และอย่าหลงเชื่อการปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อที่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่องตลอด
13 ปี ที่ผ่านมา
3. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมาย
โดยไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้
โดยในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง
ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักและให้ใช้อาวุธเมื่อจำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยจัดกำลังเข้าคุ้มครองพี่น้องประชาชนที่เป็นเป้าหมายอ่อนแอในพื้นที่เสี่ยง
และเขตพื้นที่เมืองให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
รวมทั้งได้กำชับให้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น