เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งซ้อน สะท้อนความถดถอย ขาดความเชื่อมั่นต่อการนำ

 เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งซ้อน สะท้อนความถดถอย ขาดความเชื่อมั่นต่อการนำ

น่าสนใจยิ่งสำหรับการพ่ายแพ้ของ พรรค
เพื่อไทย (พท.) ในการเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งล่าสุด (เขต 5 จังหวัด ศรีสะเกษ และเขต 4 จังหวัด กาญจนบุรี) พร้อมกับ ปรากฏการณ์“คลิปหลุด” ที่เกี่ยวข้อง (เรียกกันว่า “คลิป อังเคิลฮุน”) ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่าพรรคอาจอยู่ในช่วงปัญหาใหญ่หลายด้าน สมาชิกอาวุโสบางคนยื่นลาออก


สิ่งที่เกิดขึ้นสัญญาณเตือนว่าพ่ายแพ้ในพื้นที่ฐานเดิม ที่ศรีสะเกษ เขต 5 เพื่อไทยเคยเป็นพื้นที่ที่พรรคได้คะแนนนำ (ประมาณ 7,000 คะแนนจากการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566) แต่ครั้งที่ผ่านมาแพ้ให้กับ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แบบทิ้งห่างหลายพันคะแนน.   

 แม้คะแนนของพท.จะลดลงไม่มาก (จาก 32,000 เหลือ 31,000) แต่ฝ่ายคู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก (จาก 25,000 เป็น 40,000) ซึ่งแปลว่ามีการ “รุกพื้นที่” ของภูมิใจไทยเข้าไปยังฐานของเพื่อไทยได้

ถือเป็นสัญญาณว่า “แบรนด์พรรคเพื่อไทย / แบรนด์ชินวัตร” (ในฐานะพรรคที่มีฐานแข็งแกร่งในอดีต) อาจไม่แข็งแรงเหมือนเดิมในบางพื้นที่ 

 แรงกดดันจากเหตุภายนอก + ภาพลักษณ์

มี “คลิปเสียง/คลิปหลุด” ที่เกี่ยวข้องกับชื่อ “อังเคิลฮุน” (หรือ “ฮุน เซน” / “อังเคิลฮุน” ซึ่งถูกมองว่าเป็น “มรสุม” ของพรรคเพื่อไทย มีการพูดถึงว่า “มรสุมที่พรรคเพื่อไทยกำลังเผชิญ จากอาฟเตอร์ช็อกคลิปเสียง อังเคิลฮุน”   

 สื่อบางแห่งอ้างว่า คลิปนี้อาจเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้ขุนพลของเพื่อไทยพิจารณาย้ายพรรค หรือภายในพรรคเกิดแรงกดดันต่อแบรนด์พรรค

 การถอนตัว / ย้ายพรรคของสมาชิก

 มีข่าวว่าสมาชิกพรรค อาวุโส เช่น ชูวิทย์ พรพิทักษ์พัลลภ (กุ่ย)และ สมพงษ์ อ‌มรวิวัฒน์ลาออกจากพรรค สะท้อนว่า “ความเชื่อมั่น” ในพรรคกำลังถูกท้าทาย


การแพ้เลือกตั้งซ่อม + ภาพลักษณ์ที่ถูกท้าทาย โอกาสที่ “คนอยู่กับพรรคผู้แพ้” อาจเริ่มลดลง

นอกจากนี้การแพ้ในพื้นที่ “ชายแดน” เช่น ศรีสะเกษ ถูกมองว่า มีปัจจัยปัญหาความมั่นคงเข้ามาเกี่ยวข้อง


ความเสี่ยงและโอกาสสำหรับเพื่อไทย หากแพ้ซ่อมซ้ำ หลายครั้ง จะถูกมองว่าอยู่ในช่วง “ขาลง” ไม่ใช่แค่พรรคเล็กแต่พรรคใหญ่ที่เคยมีผู้นำระดับชาติ แรงกดดันภายในพรรคเพิ่มขึ้น (สมาชิกพรรค / สส. / ผู้สมัครเลือกตั้งอาจย้ายพรรค) ทำให้เครือข่ายหัวคะแนน/พื้นที่อาจอ่อนแอลง

 ภาพลักษณ์แบรนด์พรรคที่เคยแข็งแรงอาจเสียหาย โดยเฉพาะถ้าประเด็นคลิปเสียง / ภาพลักษณ์ไม่ถูกจัดการดี ทำให้ “ความเชื่อมั่นของประชาชน” ลดลง


 ถ้าพรรคสามารถ “ปรับตัว” ได้ดี เช่น เปลี่ยนยุทธศาสตร์ / หาแกนนำใหม่ / ชูนโยบายที่ตอบโจทย์ทันสถานการณ์ มีโอกาสฟื้นตัว

 พื้นที่ที่ยังมีความผูกพันสูง (เช่นภาคเหนือ-อิสาน) ถือเป็นฐานที่ยังสามารถใช้งานได้ ถ้าเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยสามารถใช้ “ความเป็นฝ่ายค้าน” หรือ “บทบาทพรรคใหญ่ให้ชัดเจน


สิ่งที่ควรจับตา ผลเลือกตั้งซ่อมเขต 4 จังหวัดกาญจนบุรี: เพื่อไทยแพ้อีกครั้ง เป็นสัญญาณเตือนแรงมากว่า “ขาลง” จริง

 การชูแกนนำใหม่ / ประชาสัมพันธ์นโยบายใหม่ของพรรค ถ้ามีอาจพลิกกลับได้

 ภาพลักษณ์แบรนด์พรรค + การจัดการกับ “คลิปหลุด” และประเด็นภาพลักษณ์อื่นๆ: ถ้าพลาด จัดการไม่ได้อาจมีแรงกระแทกรุนแรง พรรคถดถอยหนัก

 #นายหัวไทร

 #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน

 #เพื่อไทยถดถอยแพ้ซ้ำซาก

ใหม่กว่า เก่ากว่า

Popular Items